เรารู้จักความรักดีแค่ไหน ?ไฉนคนรักของเราถึงครองเรือนนานวันเข้ากลับมีความสุขน้อยลง ?ความรักแท้ ต้องเป็นอย่างไร ? หนังสือเล่มนี้อาจปรับความเข้าใจใหม่ได้ หนังสือ"ก้าวไปให้ถึงรักแท้" เป็นหนังสือที่เน้นแนวคิดที่ว่าที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ก็ไม่ถึงกับมองโลกในแง่ร้ายในรักจนเกินไป แค่ต้องรู้จักว่าแบบไหนคือรักที่ดี แบบไหนคือรักที่ต้องปล่อยวาง หากปล่อยวางไม่ได้จนถึงกับแย่งคนรักจากคนอื่น ก็เท่ากับว่านั่นไม่ใช่ความรัก เป็นแค่คงามหลง เพราะมีความเห็นแก่ตัวเป็นฐานหลัก หนังสือเล่มนี้แต่งโดย ว.วชิรเมธี ภาพประกอบโดย พุทธรัก ดาษดา เนื้อหาภายในเล่มภาค 1 ความรัก...วิชาของหัวใจภาค 2 สุข - ทุกข์ เพราะรักภาค 3 คู่สร้าง - คู่สมภาค 4 รักแท้คือกรุณาภาคพิเศษ คำถามของความรัก แนวคิดที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของครีเอเตอร์พุทธศาสนา แบ่งความรักเป็น 4 ระดับ คือ1.รักตัวกลัวตาย2.รักใคร่ปรารถนา3.รักแบบเมตตาอารี4.รักแท้คือกรุณา กรุณา คือ ความสงสารอันใหญ่หลวง ซึ่งทำให้เราไม่สามารถทำร้ายใครได้อีกเลย เพราะมองไปทางไหนก็เป็นเพื่อนร่วมสายพันธุ์ด้วยกันทั้งนั้น ความรู้สึกเชิงแบ่งแยกจะหายไป ความรู้สึกเชิงเปรียบเทียบจะหายไป นั่นคือเหตุที่ทำให้เราเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นพอๆกับที่เรารักตัวเอง ความรักเช่นนี้จะนำพามาซึ่งรักแท้ คนที่ใช่ที่สุดอาจไม่ใช่คนของวันวาน แต่อาจเป็นคนของวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ อย่าผูกชีวิตไว้กับคนเพียงคนเดียว เพราะชีวิตมีคุณค่ามากกว่านั้น ในความเป็นจริง เคยมีคนที่ต้องทำใจจากคนรักแล้วได้ค้นพบทีหลังว่าเขาสามารถมีชีวิตที่ดีกว่า การอกหักจึงเป็นสิ่งที่ดีที่ควรเรียนรู้เอาไว้ ชีวิตคนเรานั้นหากไม่ได้เรียนรู้ก็จะเป็นชีวิตที่ขาดภูมิต้านทานความทุกข์ ไม่มีวุฒิภาวะในการดำเนินชีวิต เพราะชีวิตที่ปราศจากบทเรียนจะเป็นชีวิตที่เปราะบาง แตกหักง่าย เราจะเห็นคุณค่าของคนที่เรารักมากที่สุด เมื่อเขาหลุดลอยจากเราไปแล้ว คนเราจะรักกัน แต่งงานครองคู่กัน ตุนาหงันกันเป็นครอบครัว ก็ด้วยสาเหตุ 2 ประการ1.ด้วยบุพเพสันนิวาส เคยครองคู่กันมาแต่ชาติปางก่อน2.ด้วยเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาในปัจจุบัน หลักการเลือกคนรัก ให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกทั้ง…..จะดูปัญญาคน ให้ดูจากการสนทนาจะดูความสามารถคน ให้ดูจากการทำงานจะดูศีลของคน ให้ดูจากการอยู่ร่วมกันจะดูกำลังใจของคน ให้ดูในยามวิกฤต แต่ทั้งหมดนี้ต้องดูนานๆ หลักการเลือกคู่ครอง พระพุทธเจ้าทรงแนะหลัก 4 ประการ ดังนี้1.สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกัน2.สมสีลา มีศีลเสมอกัน3.สมจาคะ มีความเสียสละเสมอกัน4.สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน ทุกคนต่างก็มีบุคคลอันเป็นที่รัก มีบุคคลอันเป็นที่ชัง สำหรับบุคคลอันเป็นที่รัก เราต้องมีเวลาให้เขา แต่บุคคลอันเป็นที่ชังอย่าไปให้เวลาเขามาก บางคนทำผิด ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว แต่มีเวลาให้ศัตรูมากเป็นพิเศษ สนใจทุกย่างก้าวของเขา รู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่ตนเองชัง รวมทั้งปมด้อยของเขาแล้วเก็บเอามานินทา รักแท้มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น คือ รักแบบเมตตา และ รักมีแต่ให้ เหตุเพราะรักตัวกลัวตาย เป็นความรักอิงสัญชาตญาณเอาตัวรอด เป็นเพียงความรักตัวเอง ส่วนรักใคร่ปรารถนาก็เป็นความรักที่มอบให้คนอื่นเพื่อให้คนอื่นมาเติมเต็มตัวเอง วิธีในการเข้าถึงรักแท้1.บ่มเพาะวิธีคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราต้องหัดคิดเข้าใจว่าคนทุกคนหรือสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตเหมือนกับเรา คือ รักสุข เกลียดทุกข์ และกลัวความตายเช่นเดียวกันกับเราทั้งนั้น2.ออกจากข่ายของความคิด ความเชื่อ ลัทธิอุดมการณ์ทั้งปวง มาอยู่กับความรู้3.เจริญสมาธิภาวนา เพื่อจิตละเอียดมากขึ้น เมื่อจิตละเอียดประณีตแล้วแม้เพียงตบยุงตายก็ทำให้หดหู่รู้สึกผิดได้ทั้งวัน เช่นนี้แล้วเราจะไม่มีทางทำร้ายใครได้อีกเลย แม้แต่คิดให้เขาเป็นศัตรูก็คิดไม่ได้ เกิดเมตตาโดยอัตโนมัติ รักคนได้ทั้งโลกอย่างไม่มีเงื่อนไข รักแบบไหนถึงเรียกว่ารักแท้ ?ขอให้จงรักด้วยสมอง แต่อย่าให้รักขึ้นสมอง การพัฒนาความรักแบบก้าวไปทีละขั้นจนไปถึงรักแท้ ได้แก่ รักตัวกลัวตาย รักใคร่ปรารถนา รักเมตตาอารี รักมีแต่ให้ เช่นนี้ก็จะสามารถพัฒนาจากรักธรรมดาจนไปถึงรักแท้ได้ในที่สุด วิธีการศึกษาคนอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้รู้จักเขาทุกแง่มุม คือ1.อยากรู้จักปัญญา ต้องศึกษาจากการสนทนา2.อยากรู้จักนิสัย ต้องศึกษาจากการอยู่ร่วมกัน3.อยากรู้จักความรู้ความสามารถ ต้องศึกษาจากการทำงาน4.อยากรู้จักกำลังใจ ต้องรอพิสูจน์เรื่องราวที่เกิดจากวิกฤติการณ์5.อยากรู้จักความภักดี ต้องศึกษาในคราวที่ตนเองกำลังตกต่ำ ความรักไม่ใช่เรื่องราวการวางเงื่อนไขให้อีกฝ่ายหนึ่งทำใจตนฝ่ายเดียว พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความหลง เป็นความเห็นแก่ตัว คิดถึงตนเป็นศูนย์กลางจึงไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ความรักที่แท้ต้องอยู่เหนือความเห็นแก่ตัว ต้องไม่กลัวว่าคนอื่นเขาจะไม่รักตน แต่ขอแค่ได้เป็นคนที่รักคนอื่นอย่างซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองก็น่าจะใช้ได้แล้ว เวลาของเรามีกันไม่มากนัก และคนที่เขารักเราและเป็นคนดีก็ยังมีหลักประกันว่าเราจะมีชีวิตที่ดีได้ แต่ถ้าเลือกคนที่ดีที่สุด แต่ยังไม่มีตัวตนก็นับเป็นการเลือกที่ว่างเปล่า คนที่รักเรา อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังดูแลเรา แต่คนที่เราไปรัก เราคงต้องดูแลเขา ประการสำคัญก็คือคนที่เราไปหลงรักหลงใคร่นี่แหละที่ทำให้เราเสียน้ำตา ที่จะแย่ยิ่งกว่านั้นคือเขาคนนั้นไม่มีตัวตนจริงๆ เป็นคนที่ตรงสเปกในใจเราทุกประการ ตอนนี้เราก็ได้เห็นข้อคิดที่ดีบางส่วนแล้ว หนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้บอกว่าทำอย่างไรเราถึงจะสมหวังกับคนที่เรารัก เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องเป็นความเต็มใจจากทั้งสองฝ่ายหากเรารักเขาข้างเดียว แล้วยังตัดใจจากเขาไม่ได้สักที... กาลเวลาอาจเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด หลักธรรมะทางพุทธก็คือคำตอบแห่งรัก เพียงแต่บางครั้งเราอาจจะมองไม่ออกหรือไม่อาจทำใจยอมรับได้ทันที เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเรามีรักแล้วอาจจะอกหักผิดหวังได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องจมทุกข์เช่นนั้นไปตลอด ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจไปเจอคนใหม่มี่ดีกว่าเดิมก็ได้ เครดิตภาพภาพปก โดย user2707116 จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย tirachardz จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย prostooleh จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ จงรักในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองรีวิวหนังสือ ตอบปัญหาวิชาใจรีวิวหนังสือ การเจอเรื่องแย่ๆไม่ได้แปลว่าชีวิตจะไม่มีความสุขรีวิวหนังสือ เปลี่ยนแผลเป็นพลัง (From Pain to Power)รีวิวหนังสือ THEORY OF LOVE เหตุ*ผล*คน*รัก7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์