เมื่อคนเราเรียนจบการศึกษาแล้ว เป้าหมายต่อไปคือการหางานทำ เมื่อทำงานไปแล้ว เราจึงได้รู้ว่ามันมีแต่ปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องคน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีการสอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย มีสักแต่จะสอนว่าต้องรู้จักปรับตัว...ต้องรู้จักปรับตัว(ในโลกการทำงานของอาจารย์มหาวิทยาลัยก็คงมีปัญหาการเมืองในที่ทำงานเรื่องของคนเช่นกัน จึงเป็นการยากที่จะสอนสิ่งเหล่านี้ให้นักศึกษาได้) หนังสือ คู่มือคนทำงานฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงานจนขึ้นเป็นซีอีโอ จะมาเปิดเผยเคล็ดลับของการทำงานให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆท่านๆให้สามารถปรับตัวและรับมือกับเรื่องต่างๆได้ดีขึ้น เพื่อผลประโยชน์ขององค์กรและตัวของเราเอง หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Geoffrey James แปลโดย พรรณี ชูจิรวงศ์ สำนักพิมพ์ We Learn เนื้อหาภายในเล่ม1.วิธีบริหารเจ้านาย2.วิธีบริหารเพื่อนร่วมงาน3.วิธีบริหารลูกน้อง4.วิธีบริหารตัวเอง5.วิธีสื่อสาร6.วิธีจัดการกับเรื่องเร่งด่วน7.วิธีรับมือกับเรื่องชั่วร้าย แนวคิดและความประทับใจที่ครีเอเตอร์ได้ปรับใช้ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เจ้านายคาดหวังจากคนทำงานอย่างเราคือการรักษาสัญญาว่าจะทำงานได้เสร็จตามกำหนด ทั้งนี้ก็อย่าให้คำสัญญาที่เกินจริงหรือพูดแล้วฟังดูคลุมเครืออย่างคำว่าฉันจะพยายาม , อาจจะ ได้เรียนรู้ว่าถ้าเราทำงานอะไรบางอย่างผิดพลาดก็อย่าถึงขั้นซุกปัญหาไว้ใต้พรม เพราะกว่าหัวหน้าจะรู้เข้าสักวัน การแก้ปัญหามันจะยากขึ้นกว่าเดิมมาก เราต้องรู้จักรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมกับความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางออกแล้ว วิธีป้องกันปัญหาเวลาเจอเจ้านายที่เกลียดการฟังข่าวร้ายคือคอยรายงานความคืบหน้าโครงการให้เจ้านายทราบก่อนจะมีปัญหาใหญ่ตามมา ได้เรียนรู้ว่าถ้าเจ้านายตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าท่า เราก็ต้องโน้มน้าวโดยอธิบายเจตนาของเราให้ชัดเจน ทั้งนี้ ถ้าเจ้านายตัดสินใจไปแล้ว อย่าวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของเจ้านาย เพราะไม่แน่ว่าเจ้านายอาจรู้อะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้ก็เป็นได้ ได้เรียนรู้ว่าอย่ายกปัญหาขึ้นมาพูด เว้นเสียแต่ว่าเรามีวิธีแก้ปัญหามานำเสนอ หรือต้องการคำแนะนำจากเจ้านายก็ขอให้รับฟังโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ถ้าเรานำเสนอวิธีแก้ปัญหา ก็ระวังอย่าทำเป็นเหมือนว่าเราโยนงานให้เจ้านาย เราต้องแสดงสิ่งที่เราตั้งใจจะทำงานออกมาให้ดีที่สุดได้เรียนรู้ว่าการสื่อสารกับเจ้านายต้องสั้น กระชับ ชัดเจน เพราะเจ้านายไม่มีเวลาและไม่ชอบการใช้คำที่ดูหวือหวาด้วยศัพท์เทคนิค หรือคำกำกวม ขอให้ใช้ประโยคที่กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่ายจริงๆเท่านั้น ได้เรียนรู้ว่านอกจากเราจะทำงานของเราตามหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้ว ยังต้องมีส่วนช่วยให้เจ้านายประสบความสำเร็จด้วย ไม่ว่าเราจะทำงานให้เจ้านายประเภทไหน กฎนี้ถือว่าไม่มีข้อยกเว้น ได้เรียนรู้ว่าการประเมินผลงานจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา ถ้าเข้าใจสิ่งที่เจ้านายต้องการประเมินในตัวเรา เช่น1.เขาคาดหวังอะไรจากเราในช่วง 1 ปีข้างหน้า2.เขาใช้เกณฑ์อะไรในการประเมินว่าเราทำได้ตามความคาดหวังของเขา3.ถ้าเราทำได้ดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เราจะได้อะไรทั้งนี้เราต้องติดตามและรายงานความสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นโดยเทียบกับตัวชี้วัด แน่นอนว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เราเขียนรายงานการประเมินผลงานให้ได้ง่ายขึ้น และมีหลักฐานหรือผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้เรียนรู้ว่าวิธีได้รับความเคารพนับถือจากเพื่อนร่วมงาน มีอะไรบ้าง1.รู้จักเป็นตัวของตัวเอง2.รู้จักแสดงความสนใจในตัวผู้อื่นบ้าง3.แบ่งปันความดีความชอบให้เพื่อนร่วมทีมด้วย4.แต่งกายสุภาพเหมาะสม5.คิดก่อนพูด ไม่พูดเพ้อเจ้อจนเป็นโทษต่อตัวเอง6.รู้จักใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล ไพเราะ มีการแบ่งโทนเสียง ไม่ใช้คำพูดที่มักผุดขึ้นมากลางประโยค เป็นต้น ได้เรียนรู้ว่าวิธีเล่นการเมืองในที่ทำงานอย่างขาวสะอาด คือรู้จักว่าคนอื่นต้องการอะไรบ้าง จากนั้นสร้างพันธมิตรที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเป็นกลุ่มคนที่เราไว้ใจได้ นอกจากนี้คอยติดตามว่าเราเคยติดค้างความช่วยเหลือใคร และใครที่ติดค้างความช่วยเหลือจากเรา จะได้ขอความช่วยเหลือพวกเขาได้ในยามจำเป็น ได้เรียนรู้ว่าวิธีวิพากษ์วิจารณ์ลูกน้องโดยไม่หักหาญน้ำใจ โดยการพูดถึงพฤติกรรมที่เป็นปัญหาเฉพาะเวลาที่มันเกิดขึ้น หรือรู้จักชมข้อดีก่อนแล้วค่อยโฟกัสพฤติกรรมที่อยากให้เปลี่ยนแปลง รวมถึงสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าว จากนั้นคอยติดตามและสนับสนุนพฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นของลูกน้องคนนั้น ได้เรียนรู้ว่าวิธีสร้างความมั่นคงในอาชีพการงาน ทำได้โดยการรู้จักเก็บเงินออมอย่างน้อยเทียบเท่าเงินเดือน 6 เดือนเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เป็นคนทำงานที่หาคนอื่นมาทดแทนได้ยาก อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญเชิงลึก เป็นผู้เชี่ยวชาญที่รู้รอบ ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายลูกค้าที่บริษัทจำเป็นต้องพึ่งพาเรา นอกจากนี้การหางานใหม่ในบริษัทอื่นเป็นแผนสำรองในยามที่บางอย่างไม่เป็นใจ ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าก่อน ได้เรียนรู้ว่าวิธีทำให้ถูกเรียกไปสัมภาษณ์งาน คือการตระหนักว่านายจ้างสนใจแค่เพียงว่าเราทำอะไรให้บริษัทของพวกเขาได้บ้าง นายจ้างไม่สนใจเลยว่าเราเคยทำงานอะไร เคยทำที่ไหนมาก่อน ดังนั้น เรซูเม่ที่เสมือนเอกสารขายตัวเราเองจะต้องโชว์จุดขายของเราให้ตรงจุด แสดงผลงานที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีบุคคลอ้างอิงในบริษัทดังกล่าวที่ช่วยยืนยันความสามารถของเราได้จะดีมาก ได้เรียนรู้ว่าการนำเสนองาน ถ้านำเสนอด้วยความรู้สึกจะได้ผลดีกว่านำเสนอตามข้อเท็จจริง โดยการเริ่มที่ความกลัว โฟกัสถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นก็บอกทางแก้ปัญหา ตามด้วยแสดงความน่าไว้วางใจว่าเราและทีมงานสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แน่นอน การทำงานไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก ยิ่งการทำงานกับคนที่มีความหลากหลายทางจริต ทางอำนาจสั่งการก็ทำให้คนที่ตั้งใจทำงานท้อถอยได้ อีกทั้งยังถูกเป็นที่ชังของใครบางคนอย่างไม่ทราบถึงเหตุผลก็ยิ่งทำให้ผลการทำงานของมีความลำเอียง (Bias) ขึ้นได้ ครีเอเตอร์ไม่อาจรับประกันได้ว่าหนังสือเล่มนี้จะตอบโจทย์คนทำงานทุกวงการ ทุกวิชาชีพ แต่อย่างน้อยการได้แนวคิดที่ดีบางอย่าง อาจช่วยทำให้เราพลิกสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ให้ดีขึ้นได้ครับ เครดิตภาพภาพปก โดย jannoon028 จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย pressfoto จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุขรีวิวหนังสือ ความสำเร็จของผู้ชาย บอกได้ตอนอายุ 20s …อยากชีวิตดีก่อน 20 ต้องอ่านรีวิวหนังสือ คู่มือค้นหา 1% ที่สำคัญที่สุดรีวิวหนังสือ จริงๆแล้วเจ้านายต้องการอะไรจากเรารีวิวหนังสือ เรื่องแบบนี้ คนเก่งๆเขารับมือกันแบบไหนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !