การลงทุนในหุ้นเป็นสิ่งที่ใครหลายคนมีความเกี่ยวข้องไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคืออารมณ์ความรู้สึกหลังการลงทุน บางคนอาจรู้สึกใจคอไม่ดี เห็นความผันผวนของตลาดหุ้นแล้วทำใจลำบาก เราซื้อมาแพงเกินไปหรือเปล่านะ เราขายไปเพราะคิดว่าหุ้นมันคงไม่ขึ้นไปมากกว่านี้ กลับกลายเป็นว่าหุ้นยังขึ้นได้อีกมาก เราเลยขายหมูแสนจะถูกไป สร้างความเจ็บใจไม่น้อยเลยทีเดียว หนังสือจิตของนักเล่นหุ้นเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของอารมณ์ทางใจที่เกี่ยวกับหุ้นครับ (หน้าปกหนังสือ จิตของนักเล่นหุ้น ฉบับล่าสุด) เนื้อหาภายในเล่มบทที่ 1 ทำไมต้องลงทุน ว่าด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ภาวะเงินเฟ้อ ที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลง การลงทุน การบริหารเงินให้รับกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้บทที่ 2 มหัศจรรย์แห่งล้านแรก เงินล้านแรกจะหายาก แต่เมื่อได้ล้านแรกมาแล้ว ล้านต่อไปจะหามาได้ง่ายขึ้น บทนี้เราจะพูดถึงการออม การจัดการเงินให้ได้เงินล้านแรกโดยเร็วที่สุดบทที่ 3 นิสัยของนักเล่นหุ้น เป็นคุณสมบัติของนักลงทุนหุ้นที่ต้องมีไม่ว่าจะเป็นการช่างสังเกต กล้าได้กล้าเสีย คิดบวก ยอมรับความพ่ายแพ้เป็นบทที่ 4 กำจัดจุดอ่อน บทนี้จะพูดถึงเรื่องหลักการตัดขาดทุน และไม่ยึดติดกับราคาหุ้นในอดีต รู้จักกำจัดอารมณ์ต่างๆออกไปขณะลงทุนหุ้นบทที่ 5 จับแพะชนแกะ เป็นการเปรียบเทียบหุ้นกับเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล บาสเกตบอล มวย และการขับรถบทที่ 6 กลเม็ดเคล็ดลับ และเคล็ดลับที่ว่าไม่ว่าจะเป็นการรู้จักคาดการณ์อนาคต ลงทุนระยะยาวเป็น รู้จักตัวเอง รู้จักทำงานอดิเรกเพื่อไม่ให้หมกมุ่นเรื่องของตลาดหุ้นมากจนเกินไปบทที่ 7 วิกฤติหุ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์วิกฤติในไทยในอดีตที่ใครๆต่างก็รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์เลวร้ายในยุคนั้นบทที่ 8 จิตของนักพนัน เป็นการเปรียบเทียบระหว่างหุ้นกับการพนัน บางคนอาจรู้สึกอยากแก้มือ รู้สึกว่าแพ้แล้วต้องแก้ไขเอาเงินที่เสียไปกลับคืนมาให้ได้ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นเรื่องอันตรายมากบทที่ 9 ธรรมะกับการเล่นหุ้น ว่าด้วยหลักของพรหมวิหาร 4 เพื่อกำจัดตัณหา ความโลภ และความกลัว พร้อมทั้งยังมีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ ไม่ให้จิตใจร้อนรุ่มเกินไปบทที่ 10 การลงทุนที่จริงแท้ เพราะชีวิตจริงไม่ได้มีแค่การลงทุนเพื่อสร้างเงินทองให้งอกเงย แต่ต้องลงทุนเพื่อให้สติและปัญญางอกเงยด้วย เพราะมันมีผลต่อการเวียนว่ายตายเกิดไปสู่ภพภูมิที่ดีตามกำลังสติของแต่ละคน (หน้าปกหนังสือ จิตของนักเล่นหุ้น ฉบับเก่า) (หลังปกหนังสือ จิตของนักเล่นหุ้น ฉบับเก่า) ข้อคิดที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของผู้เขียน เงินที่จะใช้ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือยไม่ควรเกิน 10% ของเงินที่หามาได้ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เฉพาะดอกผลจากเงินฝาก เงินปันผลในการซื้อ คนรวยมักจะมีรายได้มากกว่าหนึ่งทางเสมอ ดังนั้นเราจึงต้องพยายามหารายได้จากช่องทางอื่นที่นอกเหนือจากงานประจำ ระดับการศึกษาไม่แปรผันตามความสามารถในการเล่นหุ้น คนที่ลงทุนเก่งระดับหนึ่งจะถ่อมตัว ไม่หลงตัวเอง ความหลงตัวเอง ลำพองใจเป็นเรื่องอันตรายมาก ส่วนคนที่ถ่อมตัวจะขวนขวายหาความรู้เพิ่มขึ้น สำหรับการเล่นหุ้นควรคิดบวกอย่างมีสติ ตลาดหุ้นจะมีการตอบสนองต่อข่าวร้ายมากเกินไปทุกครั้ง และในทางตรงกันข้ามก็จะมีการตอบสนองต่อข่าวดีเกินไปด้วย ดังนั้น ถ้าจะซื้อหุ้นขณะที่มีข่าวร้าย ให้รอหุ้นให้ตกไปอีกสักพักก่อน เพราะหุ้นจะตกมากกว่าที่คิด ในสภาวะตลาดเป็นขาขึ้น ควรซื้อให้เร็วที่สุด และขายให้ช้าที่สุด ส่วนสภาวะตลาดขาลง ควรขายให้เร็วที่สุด และซื้อให้ช้าที่สุด การทยอยซื้อหุ้นขาขึ้น ได้กำไรดีกว่าการทยอยซื้อหุ้นขาลง ดังนั้นถ้าตลาดมีแนวโน้มจะเป็นขาขึ้นยาวนานควรกล้าซื้อ การตัดขาดทุนเป็นสิ่งจำเป็น หากหุ้นมีแนวโน้มจะลงยาวนาน ต้องกล้าที่จะขายไป หุ้นสามารถตกเป็นเท่าตัวหรือหลายเท่า ดังนั้น ต้องไม่ประมาท เงินต้นอาจหายได้ทั้งหมดถ้าตลาดเป็นขาลงอย่างเต็มตัว การซื้อหุ้นที่ราคาต่ำสุด มีความปลอดภัยสูง ถ้าต้องการลงทุนด้วยวิธีนี้ ควรรอให้ตลาดเกิดวิกฤติใหญ่ ซึ่งจะหมุนเวียนเกิดขึ้นทุก 10 ปี โดยประมาณ ถือยาวสัก 3-5 ปี แล้วจะพบว่าได้กำไรมหาศาล มากกว่าการเล่นรอบสั้นหลายเท่า ถ้ารอไม่ไหว ให้ตลาดตกลงมาที่ 200-300 จุด ใช้จังหวะนี้ในการเก็บหุ้นได้ ความรู้สึกคือตัวกำหนดวิถีชีวิต เพราะทุกการตัดสินใจมาจากความรู้สึกลึกๆในใจเสมอ แม้ว่าเราคิดว่าการตัดสินใจของเรานั้นมาจากเหตุผล แต่ความจริงมันมาจากความรู้สึกเป็นหลักมากกว่า และนั่นทำให้แต่ละคนประสบความสำเร็จต่างกัน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน วันใดที่ยอดซื้อขายหุ้นตัวนั้นสูงมากๆ แต่ยังไม่อาจดันราคาให้ทะลุแนวต้านได้ วันนั้นคือจุดสูงสุดของราคาที่จะเป็นไปได้ของหุ้นตัวนั้น หรือที่เรียกกันว่า ยอดดอย และเริ่มจะกลับตัวเป็นขาลง การเล่นหุ้นก็เหมือนกับการมีลูก คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ แน่นอนว่าถ้ามีลูก 7 คน แล้วประสบความสำเร็จกันทุกคนก็เป็นเรื่องดี แต่ยากที่จะเป็นไปได้ จำนวนที่พอเหมาะคือ 2-3 คนเท่านั้น หุ้นในพอร์ตก็เช่นกัน การฟังเป็นการเรียนรู้ที่ต้องใช้พลังสูงกว่า เสียเวลามากกว่า สรุปความก็ยากกว่า แต่การอ่าน ยิ่งถ้าอ่านมากๆจะทำให้รู้ลึก รู้กว้าง รู้ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย ไม่ว่าหุ้นขึ้นหรือลงย่อมมีเหตุผลในตัวมันเอง ต้องเข้าใจถึงสาเหตุด้วย มรดกที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกหลานคือมรดกทางปัญญาและอารมณ์ ปัญญาได้มาจากการฝึกสติ การศึกษาเล่าเรียน อารมณ์ความรู้สึกจะได้จากความอบอุ่นในครอบครัว และวิธีการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ความเชื่อมั่นในตัวเอง การกล้าตัดสินใจ ความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ มีแรงบันดาลใจ เหล่านี้เงินซื้อไม่ได้ ต้องเกิดจากการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ทันตแพทย์สม สุจีรา ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ผ่านประสบการณ์การทำงานและการลงทุนมาหลายสิบปีได้หล่อหลอมแนวคิดออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ถือเป็นแนวคิดการลงทุนที่ผสมผสานเข้ากับธรรมะได้อย่างลงตัว เข้าใจง่าย เป็นเหตุเป็นผล เพราะความมั่งคั่งอย่างเดียวไม่อาจทำให้มีความสุขได้ จึงต้องมีทั้งศาสตร์การลงทุนและศาสตร์ของธรรมะเข้าด้วยกัน เพื่อการมีชีวิตการเงินที่ดีและจิตใจยังเป็นสุขได้ เครดิตภาพภาพปก โดย Carlos Muza จาก Unsplash.comภาพที่ 1 , 2 และ 3 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย Maxim Hopman จาก Unsplash.comภาพที่ 4 โดย Nick Chong จาก Unsplash.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ”เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืนรีวิวหนังสือ เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยากต้นทุน 4 ประการ เพื่อความสำเร็จในชีวิตรีวิวหนังสือ Stock Market Cash Flow สร้างกระแสเงินสดจากตลาดหุ้นอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !