กระบองเพชรอย่างที่ทุกคนรู้จักนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งวันนี้ผู้เขียนขอหยิบยกสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายที่สุด หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องดูแลเลยก็ว่าได้ เพราะสายพันธุ์นี้มีลักษณะที่ค่อนข้างทนแดดและทนฝน 95% ต่อให้พายุจะเข้าหรือแดดจะแรงมากเพียงใด แต่กระบองเพชรสายพันธุ์นี้ Melocactus Curvispinus ค่อนข้างเอาอยู่ทุกสถานการณ์ เมล็ดสายพันธุ์นี้เรียกได้ว่าแทบให้ผลผลิตทั้งปี ผู้เขียนเก็บและทำรายได้ไม่จบไม่สิ้น ยิ่งเพาะหรือมีแม่พันธุ์มากจำนวนด้วยแล้ว ตอนเก็บขายต้องนั่งนับเมล็ดกันหลังขดหลังแข็งเลยทีเดียว ซึ่งดอกของกระบองเพชรสายพันธุ์ Melocactus Curvispinus จะมีลักษณะเป็นดอกสีชมพู แต่ก่อนที่เราจะได้เห็นดอกก็ใช้เวลามากถึง 4-5 ปี จนกว่าเจ้ากระบองเพชรจะติดตาดอก หรือที่เรียกกันในวงการว่า เซฟาเลี่ยม (Cephalium) โดยเซฟาเลี่ยมคือ ตาดอกที่มีลักษณะคล้ายหมวกสีขาวตั้งอยู่บนยอดของกระบองเพชรตระกูล Melocactus และ Discocactus ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงที่กระบองเพชรเริ่มโตเต็มที่ หรือสามารถเป็นแม่พันธุ์ได้แล้วนั่นเอง ลักษณะของเมล็ดกระบองเพชรสายพันธุ์ Melocactus Curvispinus จะเป็นฝักคล้ายพริก แต่ไม่สามารถรับประทานได้ ภายในจะมีเมล็ดสำหรับเพาะลักษณะสีดำอยู่ประมาณ 100 - 200 เมล็ดขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของฝัก โดยช่วงเวลาที่ต้นติดฝักได้มากที่สุดจะเป็นช่วงต้นปีเดือนมกราคม - มีนาคม หลังจากที่เราเก็บหรือดึงฝักเมล็ดออกจากต้นมาได้ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ ฝักจะมีลักษณะแห้ง เนื่องจากเยื่อเลี้ยงภายในเริ่มหมดและค่อย ๆ แห้ง ซึ่งภายในฝักจะเหลือเพียงเมล็ดสีดำที่พร้อมให้ทุกคนนำไปเพาะปลูก ซึ่งการรอให้ฝักเมล็ดแห้งจะทำให้เราสามารถแกะฝักได้ง่ายกว่าการที่ฝักยังมีเมือกเหลว ๆ เกาะที่เมล็ดอยู่ เพราะมันจะติดมือและทำให้การเพาะเมล็ดยากลำบากมาก ๆ ก่อนการนำเมล็ดไปเพาะทุกครั้ง ผู้เขียนจะนำเมล็ดไปจุ่มน้ำ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่าผู้เขียนจะทำความสะอาดนะคะ แต่ผู้เขียนเพียงต้องการจะวัดความสมบูรณ์ของเมล็ด ! เพราะทุกครั้งที่เราทำวิธีนี้จะทำให้รู้ได้ว่าเมล็ดไหนฝ่อหรือเมล็ดไหนสมบูรณ์ โดยสังเกตุได้ว่า หากเมล็ดไหนจมน้ำเมล็ดนั้นถือว่าพร้อมปลูกและโอกาสที่ต้นจะงอกก็จะมีมากถึง 95-100% แต่ถ้าหากเมล็ดไหนลอยขึ้นผิวน้ำก็ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเมล็ดนั้นอาจมีอัตราการงอกที่ต่ำหรืออาจจะเพาะไม่ติดเลยก็เป็นไปได้ ซึ่งหากผู้อ่านเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังจะสร้างรายได้จากการจำหน่ายเมล็ดกระบองเพชร การคัดเมล็ดโดยใช้วิธีนี้ก็เป็นการทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจในสินค้า และทำให้ลูกค้าชื่นชมเมล็ดพันธุ์ของร้านเราที่สามารถให้ผลผลิตหรืออัตราการงอกเกินความคาดหมาย เมล็ดกระบองเพชรสายพันธุ์ Melocactus Curvispinus นอกจากจะสร้างรายได้ประมาณ 0.5-1 บาท/เมล็ดแล้ว หากเรานำเมล็ดไปเพาะจนลำต้นมีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยังสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นอีกด้วย โดยผู้เขียนเคยวางจำหน่ายได้ในราคาต้นละ 12 บาท แล้วลองเดาดูซิว่า หากแม่พันธุ์เพียงต้นเดียวสามารถให้เมล็ดเฉลี่ยต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 800 เมล็ดคุณจะมีรายได้มากขนาดไหน เครดิตภาพ : ภาพทั้งหมดโดยนักเขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !