สวัสดีท่านที่กำลังติดตามอ่านบทความสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับลักษณะของเมล็ดกระบองเพชรมาจนถึงตอนที่ 2 ค่ะ โดยในตอนที่ 2 นี้ ผู้เขียนขอนำเสนอเมล็ดพันธุ์กระบองเพชร Ferocactus Penninsulae พันธุ์ไม้หนามโหดที่มีลักษณะหนามแบบโค้งงอจนได้รับฉายาเรียกชื่อภาษาไทยกันว่า "ต้นเล็บเหยี่ยว" ซึ่งหากใครพลาดโดนหนามเกี่ยวเข้าต้องระมัดวังและมีสติอย่างมากเพราะหากคุณสะบัดมือออกนอกจากจะนิ้วจะไม่หลุดออกจากหนามแล้ว แต่แผลของคุณอาจจะกว้างขึ้นด้วย ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดในการจับต้น Ferocactus Penninsulae คือการใส่ถุงมือที่มีความหนา หรือใช้ผ้าหนา ๆ ช่วยจับจะปลอดภัยกับท่านที่สุด อย่างไรก็ตาม ต่อให้หนามจะน่ากลัวเพียงใด แต่ฝักเมล็ดของเจ้า Ferocactus Penninsulae กลับน่ารักเสียจริง เพราะลักษณะของฝักเมล็ดมีขนาดเท่าลูกสตอเบอรี่ขนาดใหญ่ ภายในมีเมล็ดมากถึง 800-1200 เมล็ด/ฝัก โดยการเก็บเกี่ยวฝักเมล็ดมีวิธีการสังเกตุง่าย ๆ คือ ให้ท่านเก็บฝักที่สุกจนเป็นสีเหลืองอ่อน เพราะนั่นหมายความว่าฝักผลิตเมล็ดเสร็จสมบูรณ์พร้อมเพาะปลูกและทำให้ท่านสามารถดึงฝักเมล็ดได้ออกจากต้นได้อย่างง่ายขึ้น ต่างจากฝักเมล็ดที่ยังไม่พร้อมเก็บเกี่ยวก็จะมีลักษณะเป็นสีเขียวเข้มและสามารถดึงฝักออกจากต้นได้ยากกว่า โดยฤดูที่เมล็ด Ferocactus Penninsulae ให้ผลผลิตมากที่สุดจะเป็นช่วงเดือน เมษายน - มิถุนายน ของทุกปี หลังจากการเก็บเกี่ยวก็ต้องทำขั้นตอนการคัดเมล็ดพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด โดยเมล็ดจมน้ำคือเมล็ดที่ให้อัตราการงอกสูงกว่าเมล็ดที่ลอยน้ำ โดยผู้เขียนจะเทน้ำที่มีเมล็ดฝ่อลอยอยู่ด้านบนทิ้งไป ซึ่งการเก็บเกี่ยวแต่ละครั้งผู้เขียนจะได้เมล็ดประมาณ 4000-5000 เมล็ด/ต้น หรือต้นหนึ่งจะให้ฝักเมล็ดมากถึง 10-15 ฝัก ซึ่งการจำหน่ายแต่ละครั้งจะได้ราคาตกเมล็ดละ 1 บาท หรือลูกค้าบางท่านก็จะรับซื้อในราคาเหมาขึ้นอยู่กับปริมาณที่ซื้อ นอกจากเสน่ห์ของหนามและเมล็ดที่มีจำนวนมหาศาลแล้ว Ferocactus ยังมีดอกหลากหลายสี ได้แก่ สีส้ม สีม่วง สีแดง สีเหลือง ฯลฯ โดย Ferocactus สกุล Penninsulae ที่ผู้เขียนนำเสนอนี้จะมีดอกขนาดประมาณ 1-2 นิ้ว สีเหลืองทองอร่าม ไม่มีกลิ่น โดยท่านจะต้องทำการผสมเกสรตัวเมียและเกสรตัวผู้ข้ามต้นกันไปมา ซึ่งหากท่านผสมเกสรได้สำเร็จ ดอกของกระบองเพชรนี้ก็จะกลายร่างเป็นฝักเมล็ดภายใน 4-5 วัน หากท่านกำลังสนใจ Ferocactus Penninsulae ไม้พันธุ์นี้ในต่างประเทศให้คำนิยามกันว่า "ไม้ทนแสงน้ำค้างแข็ง" นั่นหมายความว่า เป็นกระบองเพชรสายพันธุ์ที่ทนอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็นได้เป็นอย่างดี และด้วยความสามารถในการปรับตัวที่สูงนี้ Ferocactus Penninsulae จึงเหมาะมากหากได้เพาะเลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งราคาแม่พันธุ์ Ferocactus Penninsulae ในท้องตลาดก็ยังมีราคาที่สูง เนื่องจากเป็นไม้ที่นิยมนำไปทำตอและยังให้ผลผลิตที่สูงมากในทุก ๆ ปี เครดิตภาพ : ภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !