หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกกังวลกับสภาพแวดล้อมในตอนนี้ซึ่งหนีไม่พ้นในเรื่องของเจ้าไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสอู่ฮั่นที่เราคุ้นหูกันดี เรามาทำความเข้าใจกันอีกทีว่าเจ้าไวรัสโคโรน่านี้เริ่มมากจากอะไร ไวรัสโคโรน่าต้นกำเนิดเดิมคือค้างคาว โดยเชื้อโดยเชื้อชนิดนี้มีแหล่งกำเนิดจากค้างคาวทั้งหมด ชนิดที่ทราบชื่อและติดเชื้อในคนผู้ติดเชื้อจะมีอาการไข้หวัด คัดจมูกน้ำมูกไหลธรรมดาไปจนถึงอาการปอดบวมและก่อให้เกิดซาร์สและเมอร์สอย่างที่เราทราบกันดี หากพบว่าตนเองมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้สิ่งแรกที่ควรทำคือทานพาราเซตามอล แยกตัวออกจากผู้อื่น ไม่ใช้ของร่วมกัน หากอาการไม่รุนแรงไม่ควรมาโรงพยาบาลเนื่องจากโรงพยาบาลเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเมื่อร่างกายอ่อนแอ อาจจะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ แต่หากพบว่าอาการไม่ดีขึ้นจึงควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษา (ขอบคุณภาพจาก freepik.com) วิธีป้องกันเบื้องต้นเพื่อรับมือกับไวรัสโคโรน่า สวมหน้ากากอนามัยหลายๆคนอาจจะสงสัยกว่าหน้ากากทั่วไปสามารถป้องได้ได้หรือไม่ ถ้าเป็นการไอ จาม ที่ฝุ่นฝอยมีขนาดใหญ่กว่า 2.5 ไมครอนหน้ากากอนามัยสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่งเพราะละอองไวรัสมีขนาดใหญ่ (ขอบคุณภาพจาก freepik.com) ในสภาวะฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เช่นนี้คงจะต้องใช้ตัวช่วยอย่าง หน้ากาก N95 หากใส่ป้องกันได้จะดีมากๆ N95 สามารถป้องกันฝุ่นละอองพิษในอากาศได้ ทั้งนี้ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 สามารถทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจให้เกิดความเสียหายได้ส่งผลให้ไวรัสเข้าไปติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกากใส่ไว้จะช่วยป้องกันได้ทั้ง 2 อย่าง 2. การรับประมานอาหารปรุงสุก ไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบเนื่องจากเราไม่สามารถรู้เลยว่าสัตว์ตัวนั้นเป็นสัตว์นำโรคหรือไม่ 3. ใช้ช้อนกลางหากว่าหากว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ใช้ใช้ช้อนหรือแก้วน้ำเดียวกันกับผู้อื่นก็จะเป็นการแพร่เชื้อไวรัสได้จากการที่เชื้อไวรัสติดอยู่ในภาชนะเหล่านั้น 4. ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่ไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกหรือของสาธารณะ สาเหตุที่ต้องล้างมือบ่อยๆเนื่องจากเชื้อไวรัสแพร่กระจายออกมา ไม่ได้เข้าในเยี่อบุจมูกหรือเยื่อบุริมฝีปากเพียงอย่างเดียวแต่สามารถเข้าทางเยื่อบุตาได้เมื่อเมื่อเราไปสัมผัสกับสิ่งต่างๆเช่นลูกบิดประตู โต๊ะเก้าอี้ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไอ จาม รดใส่ไว้ที่พื้นผิวแล้วนำมือมาสัมผัสดวงตาก็สามารถติดเชื้อได้ (ขอบคุณภาพจาก freepik.com) 5. ไม่อยู่ในที่พลุกพล่าน สถานที่แออัดและมีมลภาวะเป็นพิษ งดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด หรือหากจำเป็นจริงๆควรสวมหน้ากากอนามัย 6. หากมีอาการไข้หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ หายใจเหนื่อยหอบ มีน้ำมูก มีไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ (ขอบคุณภาพจาก freepik.com) 7. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน มีร่างกายที่แข็งแรง 8. อย่ารับประทานสัตว์แปลก ซึ่งอาจจะเป็นพาหะนำโรคได้ (ขอบคุณภาพจาก freepik.com) อย่างไรก็ตามข่าวแต่ละข่าวออกมาไม่เหมือนกันเลยขอให้มีสติและวิจารณญาณให้มากๆเวลาติดตามข่าวสารควรติดตามจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักและดูแลร่างกายตนเองอยู่เสมอ