บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไป ที่อยากดูแลรถยนต์ด้วยตัวเอง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะน้ำมันเครื่องนั้นใช้หล่อลื่นทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ โดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องจะมีอายุในการเปลี่ยนอยู่ที่ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ถ้าเราละเลยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง อาจทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เสียหายได้ ดังนั้นวันนี้ผมจึงจะมาสอนวิธีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง เพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย ในส่วนของค่าแรงในยุคที่วิกฤต covid-19 ที่เรากำลังเจออยู่ในตอนนี้ ปล.ผมไม่แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเอง ก่อนระยะรถยนต์ 100,000 กิโลเมตร เพราะว่าในส่วนของ 100,000 กิโลเมตรแรกนั้น เรายังมีประกันเกี่ยวกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ กับเจ้าของค่ายรถยนต์อยู่ ผมแนะนำให้เข้าเช็คระยะที่ศูนย์บริการที่ซื้อรถมา ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดว่ามาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเองก่อนระยะ 100,000 กิโลเมตร แล้วรถเกิดพังขึ้นมา ทางศูนย์บริการเค้าไม่รับผิดชอบ ในส่วนของเครื่องยนต์เด็ดขาด อุปกรณ์ที่ใช้น้ำมันเครื่อง (ในกรณีนี้รถผมใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 0W-20 เกรดสังเคราะห์แท้ 100% ปริมาตร 3.5 ลิตร)กรองน้ำมันเครื่องประแจเบอร์ 14 (เอาไว้ถอดน็อตอ่างน้ำมันเครื่อง)ตัวถอดกรองน้ำมันเครื่องแม่แรงติดรถฉุกเฉินกรวยเติมน้ำมันเครื่องวิธีเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหาก้อนหินมาหนุนล้อหลัง และดึงเบรคมือขึ้นนำแม่แรงมายกรถตรงบริเวณล้อหน้าฝั่งคนขับ เพื่อทำให้สามารถมุดตัวลงไปใต้ท้องรถได้ขันน็อตอ่างน้ำมันเครื่องออก แล้วเตรียมถาดมารองรับน้ำมันเครื่อง ที่จะไหลออกมาจากรูถ่ายน้ำมันเครื่องถอดกรองน้ำมันเครื่องออกโดยใช้ที่ถอดกรองน้ำมันเครื่องขันน็อตอ่างน้ำมันเครื่องคืนตำแหน่งเดิม และใส่กรองน้ำมันเครื่องอันใหม่แทนตรงตำแหน่งเดิมเปิดฝารูเติมน้ำมันเครื่องแล้วทำการเติมน้ำมันเครื่อง โดยใช้กรวยเติมน้ำมันเครื่อง เพื่อบังคับการไหลของน้ำมันเครื่องให้ลงรูเติม (เติมไป 3.5 ลิตร) แล้วปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องลดระดับแม่แรงรถยกให้รถกลับสู่พื้นสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ 5 นาทีเพื่อทำให้น้ำมันเครื่องไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ และไหลเข้าสู่กรองน้ำมันเครื่องดับเครื่องทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ด้วยการดึงการวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมา แล้วเช็ดให้แห้งแล้วเสียบกลับไปในรูเดิม แล้วดึงออกมาถึงจะเห็นระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าสูงเกินรูบนให้ถ่ายนำ้มันเครื่องออกบางส่วน ในทางกลับกันถ้าต่ำกว่ารูล่างให้เติมไปเพิ่มดูใต้ท้องรถว่ามีอะไรรั่วซึมหรือไม่ จบบริบูรณ์ภาพทั้งหมดโดย : กรณ์ดนัย