สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ล่วงเลยมานับเดือนและมีการพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน ขอบคุณภาพจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้เขียนติดตามข่าวและดูแลตัวเองตามการให้คำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ไม่ไปในที่แออัดและมีผู้คนพลุกพล่าน คุณผู้อ่านทุกท่านก็คงปฏิบัติตนตามคำแนะนำเช่นกันใช่มั้ยค่ะ แต่แล้ววันนี้ก็มีสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วนั่นคือ ขอบคุณภาพโดย qimono จาก pixabay เมื่อเช้าวันนี้ 1 มีนาคม2563 ได้รับข้อมูลนายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ได้ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 35 ปี ทำงานขายสินค้า ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ผู้ป่วยได้รับการรักษาจากสถาบันบำราศนราดูร โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิกฤติหลายท่าน ผู้ป่วยอาการหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจนในเลือดและเครื่องช่วยหายใจ แพทย์ทำการรักษาจนเชื้อไวรัสหายไปหมดแล้ว แต่พบว่าเนื้อปอดเสียหายมาก และเสียชีวิตเมื่อ 29 กุมภาพันธ์2563 เวลา 18.25 น. เนื่องจากตอนแรกผลจากห้องปฏิบัติการออกมาว่าเป็นไข้เลือดออกทำให้พยาบาลที่เข้าไปดูแลวันแรกติดเชื้อไวรัสนี้ไปด้วย พยาบาลมีอาการปอดบวมรุนแรงทั้งสองข้าง แต่ได้รับยาทันและกลับบ้านไปแล้ว แต่มีเนื้อปอดที่เสียหายอยู่ระดับหนึ่ง ภาพโดยผู้เขียน จาก ช่อง 3 ซึ่งต่อมาทางกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 ในไทยโดยระบุว่า ผู้ป่วยเริ่มป่วยตั้งแต่ 27 มกราคม 2563 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจพบว่าเป็นไข้เลือดออก ต่อมาตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคที่ 2 จึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูรเมื่อ 5 กุมภาพันธ์แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ ทั้งให้ยาต้านไวรัสที่ดีที่สุด รวมทั้งให้น้ำเหลืองและเลือดของผู้ติดเชื้อที่หายแล้ว (คนขับแท็กซี่ที่เคยติดเชื้อและหายแล้ว) จนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ก็ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 อีก แม้จะไม่พบเชื้อแล้ว แต่มันได้ทิ้งร่องรอยการทำลายไว้ที่ปอดเป็นอย่างมาก จนต้องพยุงปอดด้วยการใช้เครื่อง ECMO ซึ่งทำงานคล้ายปอดเทียม แต่เนื่องจากปอดเสียหายมาก หัวใจและอวัยวะภายในก็ทำงานหนัก ส่งผลให้อวัยวะภายในหลายระบบล้มเหลวจนผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ดังนั้นสาเหตุของการเสียชีวิตจะเกี่ยวกับโควิด-19 หรือไม่ จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวิชาการต่อไป ขอบคุณภาพ by fernandozhiminaicela จาก pixabay ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตถือเป็นผู้ติดเชื้อแบบ Local Transmission คือไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ แต่ติดเชื้อในประเทศเนื่องจากใกล้ชิดและสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยงคือนักท่องเที่ยวจีน สถิติสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ 80% สามารถรักษาหายได้ 17% อาการหนัก 3% เสียชีวิต เพศชายมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าเพศหญิง สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น หากจะออกไปนอกบ้านในช่วงนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน ดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งนี้เพื่อตัวเองและผู้คนรอบข้างในสังคม ขอบคุณข้อมูลจากการแถลงข่าวของศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ภาพปก by marionbrun from pixabay