Photo by Robina Weermeijer on Unsplash หากคุณคิดว่า ดวงตาเป็นอวัยวะเดียวในการมองเห็นล่ะก็...คุณคิดผิด...เพราะดวงตาเป็นแค่ตัวกลางในการนำภาพที่คุณเห็นส่งตรงไปยังสมองต่างหาก ภาพที่ดวงตารับสัมผัสจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณที่จอประสาทตา ส่งต่อไปยังสมองส่วนที่ทำหน้าที่การมองเห็นและเปลี่ยนเป็นสัญญาณภาพ Photo by Victorien Ameline on Unsplash คุณอาจขัดแย้งกับข้อเท็จจริงนี้ แต่มาลองดูกันว่าคุณเคยเจอพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ เดินเหม่อจนไม่ทันเห็นคนที่คุณรู้จัก อ่านหนังสือผิดตอนที่เหนื่อยล้า หาของไม่เจอ ทั้งที่วางอยู่ตรงหน้า ตัวอย่างพฤติกรรมเหล่านี้เป็นภาวะที่ทำให้สิ่งที่ปรากฏผ่านดวงตาไม่ถูกส่งต่อไปยังสมอง ทำให้เราไม่ทันสังเกต ดังนั้นแม้ว่าเราจะมองเห็นแต่เราก็อาจจะไม่รับรู้การมีอยู่ของมันดังตัวอย่างข้างต้นก็ได้ Photo by David Matos on Unsplash ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สายตาของเราเสื่อมสภาพ โดยระบบประสาทซิมพาเทติกจะทำงานในตอนที่ร่างกายทำกิจกรรม รู้สึกตื่นเต้น และเครียด ในทางกลับกัน ระบบประสาทพาราซิมพาเทติกจะทำงานในตอนที่ร่างกายกำลังพัก รู้สึกผ่อนคลาย และนอนหลับ ปัจจัยที่ทำให้ระบบประสาทซิมพาเทติกทำงานมากเกินไปก็คือความเครียดนั่นเอง ในขณะที่เราทำกิจกรรมตอนกลางวัน ระบบประสามซิมพาเทติกจะทำงานมากกว่าระบบประสาทพาราซิมพาเทติก และในขณะที่เราพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเช้าระบบประสาทพาราซิมพาเทติกจะทำงานมากกกว่า แต่ถ้าเราเข้านอนตอนดึกหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ระบบประสาทอัติโนมัติก็จะเสียสมดุลและส่งผลเสียต่อร่างกาย Photo by DESIGNECOLOGIST on Unsplash ยิ่งไปกว่านั้น หากมีความเครียดทางจิตใจที่ได้รับจากไหนชีวิตประจำวันเพิ่มเข้ามา ระบบประสาทซิมพาเทติกก็จะทำงานมากว่าตลอดเวลา ส่งผลให้กล้ามเนื้อยึด เลนส์ตาต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องจนอ่อนล้า สายตาจึงแย่ลงเรื่อย ๆ Photo by v2osk on Unsplash “การมองไม่เป็น” จึงถือเป็นความเครียดตัวฉกาจของสมองเลยทีเดียว และบางครั้งยังอาจทำให้ระบบประสาทอัติโนมัติเสียสมดุลอีกด้วย ดังนั้นการทำให้สายตาดีขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยลดความเครียดให้แก่สมองได้ ซึ่งอันที่จริง แล้ว ดวงตากับสมองของคุณกำลังพูดว่า “อยากดีขึ้นสักนิดก็ยังดี” “ช่วยรักษาให้หน่อยนะ” Photo by Kat J on Unsplash