กลับมาอีกครั้งวันนี้เราอยากมาแนะนำอาหารที่เป็นอาหารโปรดของเราเลยก็คือ ชาบู นั่นเอง เราว่าหลายคน ก็คงชอบทานชาบูเหมือนกับเรา เพราะว่านอกจากจะทานได้เยอะ อิ่มท้องแล้ว ยังสามารถเลือกทานอาหารได้หลากหลายอีกด้วย ร้านนี้คือร้าน Soul Shabu @ Asiatique ซึ่งจะเป็นชาบูสไตล์ญี่ปุ่น มีให้เลือกสองแบบ ก็คือ แบบบุฟเฟ่ต์ และแบบ A la carte เราจำได้ว่าแบบบุฟเฟ่ต์ราคาหัวละไม่เกิน 400 บาท ซึ่งส่วนตัวเราเลือกทานเป็น A la carte และจะขอแนะนำเมนูในส่วนนี้จ้า ชุดชาบู เราก็สั่งมาเป็นชุดชาบูเช่นกันค่ะ จะเป็นชุดรวมผักและซีฟู้ด ร้านนี้ใช้วัตถุดิบได้สดใหม่มาก ซึ่งจะประกอบไปด้วย ดังนี้ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ซึ่งตัวใหญ่มาก ข้างล่างจะเป็นกุ้ง ปลาหมึก และก็จะมีเนื้อไก่ หมูด้วย ที่เห็นเป็นตัว Angry Bird นั่นคือ โอเด้งที่ทางร้านส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ส่วนผักก็จะเป็นผักต่าง ๆ แต่จะไม่เหมือนผักร้านชาบูทั่วไป เพราะจะมีผักแปลก ๆ หลายอย่าง เช่น เห็ดนานาชนิด หอมใหญ่ เราก็เรียกไม่ถูก มันเหมือนหอมทางเกาหลี ส่วนน้ำซุปรสชาติก็ดีมากด้วยเช่นกัน ทางร้านจะมีน้ำซุปให้เลือก ถึง 4 แบบ คือ น้ำซุปกิมจิสไตล์เกาหลี น้ำซุปสุกี้แบบญี่ปุ่น น้ำซุปโอเด้ง น้ำซุปใส (วะฟู) ส่วนตัวเราเลือกซุปสไตล์ญี่ปุ่นมาทานก็รสชาติดีมาก แถมทางร้านยังไม่ใส่ผงชูรสลงไปในน้ำซุปเลยน้า และก็ให้พวกเนื้อ ผักมาในปริมาณเยอะอีกด้วย หมูคุโรบุตะ ไก่ทอดสไตล์เกาหลี กะทะทะเลทอดชีส มาถึงไฮไลท์แล้วค่า เราได้สั่งชุดหมูคุโรบุตะมา ซึ่งเนื้อนิ่ม อร่อยมาก ๆ ด้วยที่ทางร้านเป็นร้านที่ส่งตรงวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นจึง ทำให้ได้เนื้อคุณภาพที่ดี อันนี้เราสั่งแยกมาจากชุดหม้อชาบู และก็ยังสั่งเป็น ไก่ทอดสไตล์เกาหลีมาทานอีกด้วย ส่วนตัวรู้สึกว่า ก็โอเคแต่ไม่ได้เด็ดมากขนาดนั้น ส่วนกะทะร้อนเป็นชุดกะทะทะเลชีส คือ อร่อยมาก เราแนะนำเมนูนี้สำหรับคนชอบทานชีสเพราะทานแล้วฟินเต็มคำจริง ๆ กิมจิ เราได้สั่งกิมจิมาทานเพื่อตัดเลี่ยน สำหรับเราเป็นกิมจิที่รสชาติดีร้านหนึ่งเลยแหละ ถึงแม้ว่าทางร้านจะเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นก็เถอะนะ จะเป็นการผัดกิมจิไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าใครอยากจะสั่งมาทานเพิ่มก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าชามนี้ไม่ได้มีในชุดต้องสั่งแยกออกมา ถ้าใครสนใจอยากไปทานก็สามารถไปได้เลย ร้านตั้งอยู่ที่ เอเชียทีค อยู่ก่อนจะถึงริมแม่น้ำ หาง่าย ไม่ยาก วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้..สวัสดีค่า ภาพประกอบถ่ายโดยบีเกิลทั้งหมด