เขียนเรื่องหนี้สินบ่อย ๆ ทำให้นึกถึงเรื่องหนึ่งที่เคยไปรับฟังมา เพื่อนคนนี้ ไปรู้มาว่า “หากจ่ายหนี้ไม่ไหว ก็หยุดจ่าย” เจ้าตัวก็หยุดจ่ายจริง ๆ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด รวมถึงหนี้บ้านด้วย !! มาถึงตรงนี้ก็ค่อนข้างตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะหยุดทั้งหมดในเวลาเดียวกัน แถมยังบอกอีกว่า หนี้บัตรมีหมายศาลมา แจ้งให้ไปไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่ไป ส่วนบ้านก็มีหมายศาลมาเช่นกัน แต่จะไปไกล่เกลี่ย เพราะอยากเก็บบ้านเอาไว้ ได้ฟังมาแบบนี้แล้วก็ให้ใจหาย เอามือทาบอกกันเลยทีเดียว เพราะที่รู้มาว่าให้ “หยุดจ่าย” เป็นเรื่องจริง แต่หยุดแล้วต้องทำยังไง มันมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจอีกมาก ส่วนหยุดจ่ายหนี้บ้าน ก็เป็นการกระทำที่ซ้ำเติมเข้าไปอีก ... จำได้ว่าตอนนั้นเราลมแทบใส่แทน โดยที่เจ้าตัวยังงงว่า มันโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?เครดิตภาพ : QuinceCreativeพอตั้งสติได้ เราจึงค่อย ๆ อธิบายให้ฟัง เริ่มจากส่วนที่คิดผิดก่อนเลย ก็คือ หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด ทำให้ถูกยึดบ้านได้เหมือนกัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการจะที่ไปไกล่เกลี่ยหนี้บ้านเลยด้วยซ้ำไป ... เพราะอะไร?จำที่บอกว่ามีหมายศาลให้ไปไกล่เกลี่ยหนี้บัตรได้หรือไม่? แต่เพื่อนบอกว่า “ไม่ไป!” นั่นแหละ “พลาดแล้ว” เพราะทนายเจ้าหนี้จะแจ้งต่อศาลว่า เราไม่มาศาล (ซึ่งก็ไม่มาจริง ๆ) และศาลท่านก็จะพิพากษาคดีลับหลังเรา เมื่อเราไม่สนใจติดต่อเจ้าหนี้ ทีนี้เค้าก็จะสืบทรัพย์บังคับคดี มีเงินเดือนก็จะอายัด มีบ้านก็จะยึดไปขายทอดตลาด เอาเงินไปใช้หนี้ หากไม่พอก็จะกลับมาเอาที่เราอีกจนครบจำนวน ... เห็นไหมว่ามันเกี่ยวกับบ้านเรายังไง?เครดิตภาพ : geraltทีนี้มาถึงจุดที่เพื่อนบอกว่า “จะไปไกล่เกลี่ยหนี้บ้าน” เพราะอยากเก็บบ้านไว้ เอาจริง ๆ ก็ตอบว่าทำได้ จะคุยกับธนาคารขอปรับโครงสร้างหนี้ก็ทำไปตามยอมได้เลย เพื่อรักษาบ้านเอาไว้ แต่ที่ต้องเร่งจัดการก็คือ ไปขอคัดคำพิพากษาที่ศาลก่อน และติดต่อเจ้าหนี้บัตรทั้งหลายให้ครบ ไปถามเค้าว่าตอนนี้ดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้วหากอยู่ในขั้นบังคับคดี จะค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องไปเดินเรื่องขอระงับการบังคับคดีเอาไว้ก่อน และลูกหนี้ต้องเดินเอกสารต่าง ๆ เองทั้งหมดด้วย จากนั้นก็ต้องไปคุยเรื่องการจ่ายชำระหนี้กันอีกที หากเจอเจ้าหนี้สายโหด ก็อาจจะให้เราจ่ายก้อนเดียว โดยกำหนดเวลาไม่เกิน 1 เดือนด้วยซ้ำไป แต่หากเจอเจ้าหนี้ที่ยอมผ่อนปรนให้ ก็อาจจะให้แบ่งจ่ายได้หลายงวด แต่ให้คิดร้ายไว้ก่อนเลย เพราะเจ้าหนี้เค้าเห็นว่าเราไม่สนใจหนี้สินก้อนนี้มานานแล้ว เค้าจะยอมให้เราผ่อนง่าย ๆ หรือเปล่า ตรงนี้น่าคิดอย่างมากเครดิตภาพ : pasja1000เราบอกเพื่อนไปว่า ระหว่างที่หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด ได้เก็บเงินก้อนเอาไว้บ้างหรือไม่ หากพอมี ก็เอาออกมาใช้หนี้ซะ ด้วยการเจรจาต่อรองขอลดหนี้ หากไม่อยากเสียบ้านหลังนี้ไป หรือหากไม่ไหวจริง ๆ ก็คงต้องยอมปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดไปเลยก็ได้ ถือซะว่าล้างหนี้ทั้งหมดด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ แม้จะมีเจ้าหนี้หลายราย แต่เจ้าหนี้รายแรกยึดทรัพย์เราไปหมดแล้ว รายอื่น ๆ ก็เป็นอันอดไปทั้งหมดด้วยและจากนี้ต่อไปสิ่งที่ควรระวังก็คือเงินเดือน เพราะมีโอกาสถูกอายัดมากที่สุด แต่หากรับเป็นเงินสดก็รอด!! เพราะจ้าหนี้มีเวลาในการสืบทรัพย์เราถึง 10 ปี ดังนั้น 10 ปีนี้ ก็อย่าไปมีทรัพย์สินใด ๆ แม้แต่เงินฝากธนาคาร ย้ำว่า!! ให้ไปหาอ่านเรื่องการหยุดจ่ายหนี้ให้มากขึ้น แล้วเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ และห้ามไปเป็นหนี้นอกระบบเด็ดขาด (ด้วยความหวังดี)กดที่รูปโปรไฟล์ แล้วกด “ติดตาม” เอาไว้นะคะ เรามีประสบการณ์เรื่องการจัดการหนี้สินและการเงินมาแชร์อีกเยอะเลยค่ะ เครดิตภาพปก : Frantisek_Krejciบทความน่าอ่าน :- หนี้เสียต้องใส่ใจ ระวัง!! ถูกอายัดเงินเดือนและเงินฝากแบบไม่รู้ตัว- อยากปิดหนี้เน่าของตัวเอง ทำได้หรือไม่?- เงินกู้นอกระบบ ผิดกฎหมายหรือเปล่า? ฟ้องศาลได้หรือไม่? อ่านให้เคลียร์