หลาย ๆ คนใช้วันหยุดยาวช่วงปีใหม่เพื่อทบทวนสิ่งที่ได้ทำไปตลอดทั้งปี ในขณะเดียวกัน อีกหลายคนก็ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อตั้งเป้าหมายบางอย่างที่ต้องการพิชิตให้ได้ในปีต่อไป ในขณะที่กระแสการออกกำลังกายด้วยการวิ่งกำลังเป็นนิยมอยู่ตอนนี้ นักวิ่งจำนวนมากเริ่มต้นด้วยการซ้อมวิ่งออกกำลังกาย ก่อนจะเริ่มลงวิ่งในสนามแข่งประเภทถนน หรือ Road Running แต่ไต่ระยะขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นนักวิ่งมาราธอน (42.195 กิโลเมตร) ในที่สุด ในขณะเดียวกันนักวิ่งบางส่วนก็หันไปสนใจการวิ่งในภูมิประเทศที่มีความสูงชันและมีพื้นผิวที่แตกต่างจากถนนปกติเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ท้าทายและประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่าการวิ่งเทรล Trail Running สำหรับกลุ่มนักวิ่งเทรลนั้น บางส่วนได้พัฒนาร่างกายและจิตใจขึ้นไปอีกระดับ จากการท้าทายตนเองด้วยระยะทางที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินระยะมาราธอน เป็นกิจกรรมกีฬาที่เรียกว่าอัลตร้าเทรล (Ultra Trail) ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเริ่มต้นที่ระยะทาง 50 กิโลเมตร ไปจนถึง 100 ไมล์ (ประมาณ 166 กิโลเมตร) หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว หากมองจากมุมของนักวิ่งมือสมัครเล่นแล้วเรื่องเหล่านี้อาจฟังดูหลุดโลก แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศไทยเองก็มีสนามอัลตร้าเทรลเกิดขึ้นอย่างมากมายเพื่อรองรับนักวิ่งอัลตร้าเทรลที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่าตกใจ วันนี้เราลองมารู้จักบางส่วนของสนามหรืองานวิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักในแต่ละปีของเหล่านักวิ่งกัน * หมายเหตุ สนามที่คัดเลือกนำเสนอมาเป็นบางส่วนของสนามที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ซึ่งได้รับการรับรองโดยสมาคม iTRA (International Trail Running Association) และมีการจัดงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยเรียงลำดับตามช่วงเวลาการจัดงานในแต่ละปี The North Face 100 สนามอัลตร้าเทรลที่เก่าแก่ที่สุดสนามหนึ่งของประเทศไทย TNF100 จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดจากครั้งแรกที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพื้นที่บริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณที่ราบสูงซึ่งนักวิ่งต่างทราบกันดีถึงชื่อเสียงในด้านความร้อนระอุในช่วงเวลากลางวัน และความหนาวเย็นในเวลากลางคืน ระยะที่เปิดให้สมัคร 100 กม / 75 กม / 50 กม / 25 กม / 15 กม Columbia Trail Masters อีกหนึ่งตำนานสนามอัลตราเทรลของไทยซึ่งมีเอกลักษณ์คือการเปลี่ยนสถานที่จัดงานในแต่ละปีหมุนเวียนตามความเหมาะสมและความท้าทายของภูมิประเทศ โดยมักจัดขึ้นในโซนภาคตะวันออก เช่น อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง หรือเขาไม้แก้ว จังหวัดชลบุรี ถึงแม้ว่าระยะทางที่ไกลที่สุดอาจดูไม่ค่อยเยอะเท่าสนามอื่นแต่บอกได้เลยว่าไม่หมู ระยะที่เปิดให้สมัคร 50 กม / 25 กม / 11 กม CM6 ย้ายมาทางภาคเหนือกันบ้าง สนาม CM6 เป็นเหมือนสนามเปิดฤดูกาลวิ่งเทรลอย่างเป็นทางการ หลังหน้าฝนในเดือนสิงหาคมซึ่งนักวิ่งต่างรอคอยให้สภาพอากาศคลายความร้อนและความชื้น เข้าสู่ความเย็นของยอดดอยปุยและพื้นที่ใกล้เคียงอำเภอเมืองเชียงใหม่ นับว่าเป็นสนามที่ใกล้ตัวเมืองเดินทางสะดวก และได้รับการตอบรับจากนักวิ่งว่าเส้นทางสมบุกสมบัน ขึ้นสุดลงสุด มีความสูงสะสมที่นักวิ่งต้องเผชิญในแต่ละระยะเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ระยะที่เปิดให้สมัคร 150 กม / 105 กม / 80 กม / 60 กม / 44 กม / 20 กม Pong Yaeng Trail (โป่งแยงเทรล) อีกหนึ่งในตำนานของสนามวิ่งเทรลทางภาคเหนือของไทย จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถือเป็นช่วงพีคของฤดูการวิ่งเทรลประจำปี นักวิ่งจะได้วิ่งผ่านพื้นที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ และบางส่วนของดอยปุยที่ใช้เส้นทางร่วมกับงาน CM6 นักวิ่งหลายคนเฝ้ารอจะวิ่งระยะ 100 กม. ครั้งแรกใน PYT เนื่องจากกิตติศัพท์ความเป็นมิตรของเส้นทางและภูมิประเทศ ระยะที่เปิดให้สมัคร 100 ไมล์ / 120 กม / 100 กม / 70 กม / 50 กม / 30 กม / 15 กม Tanaosri Trail (ตะนาวศรีเทรล) สนามซึ่งนักวิ่งหลายคนตั้งชื่อให้ว่าเป็น “บอสใหญ่ของฝั่งตะวันตก” ในเขตอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รอต้อนรับนักวิ่งด้วยป่าดิบที่คงความสมบูรณ์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นักวิ่งในบางระยะจะได้พบกับยอดเขาแหลม ยอดเขาเขียว และยอดเขากระโจมที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ไกลจนถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นสนามส่งท้ายปีในเดือนธันวาคมได้อย่างเหมาะเจาะ ระยะที่เปิดให้สมัคร 110 กม / 70 กม / 30 กม / 20 กม / 10กม ไม่ว่าจะลงวิ่งระยะไหน จะเป็นเทรลหรือเป็นถนน ก็ขอให้นักวิ่งทุกคนสนุกสนานกับทุกระยะที่เลือก และอย่าลืมซ้อมให้ “ถึง” ด้วยนะครับ ;) ภาพหน้าปกโดย @bmetzler2017 จาก Unsplash