ภายหลังจากที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าตลอดหลายขวบปีที่ผ่านมา ทั้งรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และรายการชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือเอเอฟเอฟซูซูกิ 2018 แม้จะปลดโค้ชชาวเซอร์เบียร์ “มิโลวาน ราเยวัช” แล้วหันไปใช้บริการโค้ชนอกใกล้บ้าน เมด อิน เจแปน อย่าง “อากิระ นิชิโนะ” ก็ตาม แต่กระนั้นผลงานทีมชาติไทยก็มีแต่สาละวันเตี้ยลงร้อนถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยโดยการนำของ “บิ๊กอ๊อด” พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ทนอยู่ไม่ไหว ต้องหันไปทาบทาม ซี.อี.โอหญิงคนดัง ผู้คลั่งไคล้ในเกมลูกหนัง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ มาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ ควบชุด 23 ปีไปด้วยด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีคุ้นเคยอยู่กับฟุตบอลมากว่า 15 ปี ทั้งระดับสโมสรก็เป็นถึงประธานสโมสรการท่าเรือ และระดับชาติก็เคยเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เคยนำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เข้าไปเล่นในรายการชิงแชมป์ฟุตบอลโลก (หญิง) รอบสุดท้ายมาแล้วถึงสองสมัย ทำให้สมาคมฟุตบอลฯ หมายมั่นปั้นมือว่า มาดามแป้งจะเป็นผู้กอบกู้วิกฤติศรัทธาที่มีต่อทีมชาติไทยกลับมาได้ และแล้วเหมือนนารีขี่ม้าขาวมาโปรด ทันทีที่ได้เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา งานแรกเธอก็สามารถนำทีมชาติไทยอายุ 23 ปีเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่อุซเบกิสถาน กลางปีหน้าได้สำเร็จ โดยสามารถยึดอันดับที่ 2 ที่ดีที่สุด จาก 10 กลุ่ม ภายใต้หัวหน้าโค้ชชาวไทย “วรวุธ ศรีมะฆะ” และทีมงาน ภาพที่ 1. มาดามแป้ง เมื่อคราวนำทีมชาติไทยชุด 23 ปี เข้ารอบสุดท้ายได้ ณ ประเทศมองโกเลีย ภาพที่ 2. การมีส่วนร่วมในสนาม บ่งบอกถึงความมีใจรักฟุตบอลอย่างแท้จริงของมาดามแป้งงานต่อไป คือ เผือกร้อนที่มาดามแป้งต้องเผชิญคือ รายการชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ระหว่าง วันที่ 5 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่จะต้องนำทีมชาติไทยชุดใหญ่กลับมาผงาดเป็นแชมป์ให้ได้ เพื่อประกาศศักดาความเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียนอีกครั้ง หลังจากที่ต้องอยู่ใต้ร่มเงาความสำเร็จของทีมชาติเวียดนามมาหลายปี ภาพที่ 3. มาดามแป้ง กับทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ในฐานะที่ติดตามผลงานฟุตบอลทีมชาติไทยมาตลอด ขอชี้ชัดว่า จุดหมายแห่งความสำเร็จในรายการนี้ในสายตาแฟนฟุตบอลชาวไทย คือ ต้องแชมป์เท่านั้น อื่น ๆ คือ ล้มเหลว ไม่เพียงเท่านั้น ยังหมายถึงการกอบกู้วิกฤติศรัทธาของแฟนบอลชาวไทย ให้หันกลับมารักและเชียร์ทีมชาติไทยอีกครั้ง เหมือนที่เคยฟีเวอร์ในยุคที่โค้ชซิโก้ “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" เป็นหัวหน้าโค้ชในแง่การบริหารจัดการ และจัดหาสปอนเซอร์สนับสนุน ไม่เป็นที่สงสัย เพราะผู้จัดการสาวคนนี้ผ่านประสบการณ์การทำงานมาอย่างโชกโชน และมีคอนเนคชั่นที่หลากหลาย และแน่นปึ๊กทีเดียว ภาพที่ 4. มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยแต่ก็นั่นแหล่ะ ฟุตบอลวัดผลที่การชนะ และเป็นแชมป์เท่านั้น ผลงานในสนาม จึงต้องอาศัยหัวหน้าโค้ชชาวเยอรมันเชื้อสายบราซิล “มาโน่ โพลกิ้ง” ที่มาดามแป้งและทีมงานบรรจงคัดเลือกมาคุมทีมด้วยตนเอง ทั้งการคุมทีมฝึกซ้อม จิตวิทยา การกระตุ้นลูกทีม และความเชี่ยวชาญในแทคติคแก้เกมในสนามของหัวหน้าโค้ช ตลอดทั้งเทคนิค พละกำลัง ความใจสู้ของนักเตะ ต้องประกอบกันเป็นเนื้อเดียว นั่นคือ บัญญัติไตรยางค์แห่งความสำเร็จ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ขอให้ตั้งตารอคอย(เชียร์) ด้วยใจระทึก อ้างอิง :อ้างอิง 1อ้างอิง 2เครดิตภาพ :ภาพปก. จาก Facebook : Madam Pang - มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำภาพที่ 1. จาก Facebook : ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพที่ 2. จาก Facebook : ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพที่ 3. จาก Facebook : เชียร์ไทยสุดใจภาพที่ 4 จาก Facebook : ฟุตบอลทีมชาติไทยส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !