ขอบคุณภาพจาก www.freepik.com สภาพปัญหาในปัจจุบันของประเทศไทย เรื่องหนึ่งก็คือเงินในบัญชีออมทรัพย์ของคนไทยเฉลี่ยไม่ถึง 500 บาท (ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อิ้งภากรณ์) ประกอบกับการที่โลกปัจจุบันมีการใช้จ่ายเพื่อบริโภคในสิ่งที่ไม่จำเป็นง่ายมากขึ้น การที่ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินนั้นทำให้เกิดความลำบากในยามวิกฤต เช่น ว่างงาน เหตุที่ไม่คาดคิดที่ต้องใช้เงินเกิดขึ้น เป็นต้น คราวนี้เราลองถามตัวเองดูว่าเราต้องมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินมากเท่าไรถึงจะเพียงพอ และควรมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินไม่น้อยกว่า 6 เดือน หลักคิดง่าย ๆ คุณลองเขียนรายจ่ายที่จำเป็นต่อเดือน ย้ำนะว่าจำเป็น เช่น ค่าอาหาร 6,000 บาท ค่าเดินทาง 500 บาท ของใช้ส่วนตัว 1,000 บาท ค่าเช่าห้องพัก 4,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,500 บาท โดยค่าใช้จ่ายนี้ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลนะ ในตัวอย่างนี้ควรมีเงินเกิบสำรองฉุกเฉินทั้งหมด 11,500 x 6 = 69,000 บาท นั้นเอง โอ้เป็นเงินที่ไม่น้อยเลย แต่ไม่ต้องกังวลไปขอบคุณภาพจาก www.freepik.com ในปัจจุบันมีเครื่องมือหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ จะขอยกตัวอย่างเครื่องมือที่จะช่วยให้เกิบเงินสำรองฉุกเฉิน 2 ตัวอย่าง ง่าย ๆ โดยเป้าหมายเงินสำรองฉุกเฉินของเราจะเท่า 69,000 บาท เครื่องมือแรก คือ การฝากประจำโดยตัดเข้าบัญชีอัตโนมัติ วิธีการก็คือ ให้คุณเข้าไปเปิดบัญชีฝากประจำกับธนาคารที่คุณรับเงินเดือน แล้วแจ้งธนาคารให้ตัดเงินในวันที่เงินเดือนออก เช่น ตัดออม 1,000 หรือ 2,000 บาท ทุกเดือน ใช้เวลาประมาณ 6 ปี แต่ถ้าเราได้โบนัสมาก็ฝากเพิ่มได้ โดยหลักคิด “เงินที่ไม่เห็นคือเงินที่ไม่ได้ใช้” แล้วอย่าเผลอทำบัตร ATM ละ เพราะเราจะเก็บเงินนี้ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้นขอบคุณภาพจาก by Pixabay from Pexels อีกเครื่องมือหนึ่งที่จะนำเสนอ จะคล้ายกับวิธีแรกคือการตัดเงินเดือนอัตโนมัติ แต่เงินที่ตัดออกไปนั้นจะนำเขาไปซื้อกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล อธิบายอย่างง่ายพันธบัตรรัฐบาล คือ เงินที่รัฐบาลขอระดมทุนจากประชาชน รัฐบาลเป็นลูกหนี้ เราเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งรัฐบาลจะจ่ายผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยให้กับเราด้วยนะ ประมาณ 2.5 – 3 % ต่อปี เช่น เรากำหนดเป้าหมายการออมเงินสำรองฉุกเฉิน จำนวน 69,000 บาท เช่นเดิม ถ้าเราซื้อกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลเดือนละ 1,000 บาท ผลตอบแทน 2.5 % ต่อปี ระยะเวลา 6 ปีจะได้เงินและผลตอบแทนรวมทั้งสิ้นประมาณ 78,500 บาท แต่ถ้าในกรณีเดียวกัน แต่ผลตอบแทนประมาณ 3 % ต่อปี จะได้รับเงินและผลตอบแทนรวมทั้งสิ้นประมาณ 79,900 บาท ถือว่าเป็นวิธีที่มั่นคงมากเลย เพราะรัฐบาลเป็นลูกหนี้เรา แต่เราควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจด้วยวิธีนี้ จากวิธีการและเครื่องมือกล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเพียงตัวอย่าง และความสำคัญของเงินออมสำรองฉุกเฉิน ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่ได้พูดถึงอีกเช่น การนำเงินเหรียญที่เหลือใช้ในแต่ละวัน รวบรวมไปฝากธนาคารปีละ 1 ครั้ง หวังว่าเครื่องมือและวิธีการที่กล่าวมาจะสามารถทำให้ผู้ที่สนใจเก็บเงินสำรองฉุกเฉินนั้น มีแนวทางในและวิธีการในการเก็บเงินมากขึ้นครับขอบคุณภาพจาก www.freepik.comขอบคุณภาพปกข้อความจาก www.freepik.com