สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อใดที่เรากำลังมองหางาน สิ่งแรกที่เราต้องมีเลยก็คือ เรซูเม่(Resume) ที่เปรียบเสมือนใบโปรชัวร์โฆษณาสินค้า ดึงดูดความสนใจให้มีคนซื้อสินค้าเรา เช่นเดียวกับการสมัครงานให้เขารับเราเข้าทำงานนั่นเอง เรซูเม่ เป็นรูปแบบเอกสารสรุปประวัติของผู้สมัครงานโดยย่อ นำเสนอข้อมูลทางด้านประวัติส่วนบุคคล ประสบการณ์ทำงาน ทักษะ ความสามารถพิเศษ ผลงานต่างๆ เพื่อยื่นสมัครงานกับองค์กรที่เราต้องการร่วมงานด้วย และปัจจุบันหลายๆองค์กร ยังจำเป็นต้องใช้ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ ก่อนติดต่อเรียกผู้สมัครเข้ามาสัมภาษณ์งานในลำดับต่อไปเรซูเม่ ควรมีอะไรและ HR คัดเลือกอย่างไร คุณรู้หรือไม่ว่า ประวัติที่เราส่งสมัครงาน ผู้พิจารณาคัดเลือกเป็นคนแรก คือ ฝ่ายบุคคล หรือที่เรียกว่า HR เพราะเป็นบุคคลที่รับผิดชอบงานด้านการสรรหาว่าจ้าง แล้ว HR พิจารณาอะไรจากเรซูเม่ของเราที่ส่งสมัครเข้าไปล่ะ? 1.รูปถ่าย ควรเป็นรูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ดูเป็นทางการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นับว่าเป็นสิ่งแรกเลยที่ผู้คัดเลือกจะสนใจและบางตำแหน่งต้องยอมรับเลยว่าเลือกหน้าตาก่อนอันดับแรกจริงๆ แต่ก็ควรเป็นภาพที่ตรงปกด้วยนะคะ ดังนั้นรูปถ่ายที่อยู่บนเรซูเม่จึงมีความสำคัญมาก HR พิจารณาอะไร : การสรรหาบุคคล นอกจากความรู้ความสามารถแล้ว บุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่าบางตำแหน่งงานต้องใช้หน้าตาเป็นอาวุธสำคัญ เช่น เลขานุการ เจ้าหน้าที่การตลาด เพราะต้องมีหน้าที่ติดต่อเจรจาสื่อสารกับผู้อื่นบ่อยครั้ง และการใส่รูปสมัครงานต้องดูเป็นทางการ ไม่ควรใส่ภาพที่ถ่ายเล่น และให้เห็นใบหน้าชัดเจน2.ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล,วันเดือนปีเกิด, อายุ, เพศ,ที่อยู่อาศัย,น้ำหนักส่วนสูง ,เบอร์ติดต่อ ,E-mail ,ID Line,หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ HR พิจารณาอะไร : หลักๆเลยคือเพศ และอายุ เพื่อคัดเลือกบุคคลตามใบกำหนดลักษณะงาน(Job description) คือ เอกสารกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ คุณสมบัติตามตำแหน่งงาน เช่น ตำแหน่งงาน เจ้าหน้าที่จัดซื้อ ต้องการเพศหญิง อายุไม่เกิน 35 ปี เป็นต้น หากผู้สมัครอยู่ในกลุ่มเป้าหมายนี้ก็จะผ่านการคัดเลือกของข้อนี้นั้นเอง ชื่อ-นามสกุล ชัดเจน ตัวใหญ่ เลือก Font ที่อ่านง่ายๆ ที่อยู่ปัจจุบัน โดยHR จะนำไปใช้พิจารณาถึงความสะดวกของผู้สมัคร เช่น ใกล้บ้าน ก็จะเป็นผลดีต่อการทำงานในระยะยาว ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ว่าคุณจะเข้ามาสัมภาษณ์งานกับองค์กรได้ ไม่ปฏิเสธว่าไม่สะดวกเพราะเดินทางไกล เป็นต้น ระบุเบอร์ติดต่อที่สามารถติดต่อกลับได้ พร้อมรับสายเสมอ E-mail ที่ใช้ควรเป็นทางการ หากเป็นตำแหน่งสูงๆด้วย อย่าละเลยตรงจุดนี้เพื่อความน่าเชื่อถือ3.พื้นที่ที่ต้องการทำงาน ให้คุณระบุว่าคุณต้องการทำงานในเขตพื้นที่ใด จังหวัดใด เช่น นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา ,ปทุมธานี ,กทม.ทุกเขต เป็นต้น HR พิจารณาอะไร : HR ต้องการคนที่สะดวกในการเดินทางมาทำงาน หากบริษัทไม่มีรถรับส่ง ส่วนใหญ่จะคัดเลือกผู้ที่สะดวกเดินทางมาเองได้ ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เพราะความสะดวกรวมถึงภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานกับบริษัทในระยะยาว และการระบุพื้นที่ต้องการทำงานนั้นก็ยังเป็นผลดีกับผู้สมัครงานด้วย4.ข้อมูลด้านการศึกษา ได้แก่ ระดับการศึกษา,ชื่อสถาบันของเรา ,คณะสาขาวิชา,เกรดเฉลี่ย HR พิจารณาอะไร : เนื่องจากงานบางตำแหน่งนั้น ต้องการผู้ที่จบสาขาเฉพาะทางมาร่วมงาน เช่น วิศวกร ,จป.วิชาชีพ ,IT ,ช่างเทคนิค เป็นต้นโดยปัจจุบันมีกฎหมายที่บริษัทต้องปฏิบัติร่วมด้วยในการรับพนักงานมาทำงาน เช่น วิศวกรไฟฟ้า จะต้องมีใบ กว. หรือหนังสือรับรองให้สามารถทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าได้ และลักษณะงานบางตำแหน่งต้องใช้คนที่จบเฉพาะทางจริงๆมาทำงาน ส่วนเกรดเฉลี่ยนั้นก็มีผลต่อการคัดเลือกเป็นบางกรณี เช่น นักศึกษาจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์เลย หลายๆองค์กรจะนำมาประกอบการพิจารณาด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับองค์กรนั้นว่าเน้นที่เกรดเฉลี่ยหรือไม่ 5.ข้อมูลประสบการณ์ทำงาน ควรเรียงลำดับจากงานที่ทำปัจจุบัน ระบุชื่อบริษัท ธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ระยะเวลาทำงานเท่าไร ตำแหน่งงานอะไร เงินเดือนที่ได้รับเท่าไร ลักษณะงานเป็นอย่างไร HR พิจารณาอะไร : โดยจะพิจารณาจากลักษณะงานที่เคยทำมา ระยะเวลา และเงินเดือนที่ได้รับ หากต้องการคนที่มีประสบการณ์ตรงจะเน้นในเรื่องลักษณะงานที่เคยทำมา ความเชี่ยวชาญในงานรวมถึงระยะเวลาทำงานในตำแหน่งต้องไม่น้อยกว่ากี่ปี รวมไปถึงเงินเดือนที่คุณได้แต่ละบริษัทที่ผ่านมา ประกอบการคัดเลือกตามความเหมาะสม ส่วนระยะเวลา บางคนทำงานภายใน 3 ปี เปลี่ยนที่ทำงาน 3ครั้ง แบบนี้ HR ก็จะมองได้ว่าเป็นคนเปลี่ยนงานบ่อย หากรับเข้ามาก็อาจจะทำได้ไม่นานนั้นเอง 6.ความสามารถต่างๆ ควรระบุความสามารถทั้งทางด้านภาษา ว่าอยู่ในระดับใด ดีมาก ดี ปานกลาง พอใช้ ด้านการใช้คอมพิวเตอร์ใช้โปรแกรมอะไรได้บ้าง การขับขี่ขับรถยนต์ได้หรือไม่ มีใบขับขี่หรือไม่ HR พิจารณาอะไร : ทักษะด้านภาษาอังกฤษ ฟังพูดอ่านเขียนอยู่ในระดับใด หากผู้สมัครมีคะแนนทดสอบด้านภาษาด้วยย่อมเป็นผลดีในการพิจารณา เพราะปัจจุบันเกือบทุกตำแหน่งต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน หรือในองค์กรใหญ่ๆจะเลือกแต่ผู้มีผลคะแนนภาษาอังกฤษเท่านั้น และในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์อย่างน้อยต้องสามารถใช้ Microsoft Office ได้แก่ Excel , Word และบางตำแหน่งที่ต้องใช้ความสามารถด้านโปรแกรม เช่น วิศวกรต้องใช้โปรแกรมเขียนแบบ งานHR ฟังก์ชัน Payroll ต้องใช้โปรแกรมทำเงินเดือน ส่วนการขับขี่รถยนต์ได้ ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตำแหน่งที่ต้องเดินทางเช่นไปติดต่องานราชการ ไปพบลูกค้า เป็นต้น7.ประวัติการฝึกอบรมและวุฒิบัตรที่ได้รับ HR พิจารณาอะไร : การที่ผู้สมัครเคยได้รับการฝึกอบรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบคุณภาพ ISO ความปลอดภัย เรื่องที่เกี่ยวข้องในตำแหน่งงาน ซึ่งถ้ามีใบรับรองวุฒิบัตรด้วยแล้วนั้น ถือเป็นเครื่องการันตีการพัฒนาองค์ความรู้ที่มากขึ้นของผู้สมัคร และบางองค์กรจำเป็นต้องใช้ เช่น ตำแหน่งหัวหน้างานต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับหัวหน้างาน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หากผู้สมัครมีแล้วก็จะเป็นการช่วยลดเวลาลดค่าใช้จ่ายในการส่งฝึกอบรมขององค์กรได้อีกด้วย 8.เงินเดือนที่ต้องการ ควรระบุเงินเดือนตามความสามารถและประสบการณ์ที่มี ให้เหมาะสมกับตำแหน่ง การที่จะเรียกเงินเดือนสูงต้องดูตำแหน่งงานที่ตลาดแรงงานต้องการ เพราะหากเงินเดือนที่คุณเรียกไปนั้นสูงกว่าโครงสร้างเงินเดือนตามตำแหน่งงานของบริษัทหรือตลาดแรงงานก็อาจพลาดโอกาสที่ผ่านการคัดเลือกครั้งนี้ได้ HR พิจารณาอะไร : พิจารณาจากฐานโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทตามตำแหน่งงาน กับเงินเดือนที่ผู้สมัครต้องการ ว่าอยู่ในฐานเงินเดือนที่สามารถรับได้หรือไม่ ประกอบกับการสรรหาว่าจ้างในตำแหน่งงานนั้น เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน และค่อนข้างหาได้ง่ายหรือยากเพียงใด รวมถึงบุคลากรของบริษัทคนเก่าได้รับเงินเดือนในฐานเท่าไรด้วย ซึ่งต้องพิจารณาตามตำแหน่งและประสบการณ์อย่างถี่ถ้วนมากๆในเรื่องของเงินเดือน สุดท้ายนี้ การเขียนเรซู่เม่ให้ HR พิจารณาเรียกสัมภาษณ์งาน โดยหลักแล้วนั้น HR พิจารณาจากใบกำหนดลักษณะงานในตำแหน่งขององค์กร (Job description ) หากประวัติของผู้สมัครตรงกับคุณสมบัติ เงินเดือนเหมาะสม และเคยปฏิบัติงานตามลักษณะงานที่องค์กรต้องการรับเข้าร่วมงาน ก็จะมีโอกาสสูงที่ HR คัดเลือกเพื่อนำเสนอผู้บริหาร หากประวัติผ่านจะติดต่อกลับนัดสัมภาษณ์งานตามลำดับต่อไป สิ่งสำคัญ การออกแบบเรซูเม่ ควรเป็นทางการ อ่านง่าย ความยาวประมาณ 1- 2 หน้ากระดาษ ใช้สีโทนอ่อน ข้อมูลครบถ้วน และใส่ข้อมูลตามความจริง ไม่หลอกกันนะคะ หากได้รับการติดต่อกลับแล้วควรเตรียมความพร้อมสัมภาษณ์งานอย่างไรหากให้ไปสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้เลย เราต้องพร้อมเสมอ ลุยเลย ไปที่บทความ พรุ่งนี้สัมภาษณ์งานต้องเตรียมตัวอย่างไรเครดิตภาพภาพปก โดย Tumisu จาก pixabayภาพที่ 1 โดย geralt จาก pixabayภาพที่ 2 โดย ShariJo จาก pixabayภาพที่ 3 โดย BiljaST จาก pixabayภาพที่ 4 โดย geralt จาก pixabayภาพที่ 5 โดย Thirdman จาก pexelsภาพที่ 6 โดย Aymanejed จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !