จากสถานการณ์ที่ผ่านมาก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เรียกว่า New normal หรือจะให้เข้าใจง่ายอีกสักหน่อยก็คือ การใช้ชีวิตปกติ แบบใหม่ ซึ่งทำให้รูปแบบทางสังคมหรือการดำเนินชีวิตในทุก ๆ วันของเรา เปลี่ยนไป เริ่มต้นเดือนกรกฏาคม ในวันที่ 5 และ 6 เนื่องในวันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา ในวันสำคัญ ๆ เหล่านี้วัดต่าง ๆ มักจะเนืองแน่นด้วย ผู้คนจำนวนมาก ซึ่งพอเห็นปฏิทินตอนแรกเลยคิดไม่ได้ว่า "จะไปวัดแบบวิถีพุทธใหม่ได้อย่างไร??" ยิ่งพอคิดว่าต้องเตรียมของอะไรไปบ้าง พาลให้ขี้เกียจไม่อยากออกไปไหน แต่พอเห็นยายมุ่งมั่นว่าจะไป...ก็ปฏิเสธไม่ลง วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่โต๊ะ อยู่ไม่ไกลจากท่าพระ และรถไฟฟ้าบางไผ่ ขับรถเข้ามาในซอยเพชรเกษม 15 ตรงตามทางมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอ กับทางเข้าวัด และ โรงเรียนวัดนวลนรดิศ นอกจากนี้ยังสามารถเดินข้ามฝั่งไปยัง วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อสด ได้อีกด้วย - วัดประดู่ฉิมพลี - ทางวัดมีการจัดการที่ดี และได้รับความร่วมมือของผู้ที่มาทำให้มันไม่ได้มีความยุ่งยาก และเป็นระเบียบเรียบร้อย บริเวณวัดสะอาด มีบริการจุดเจลล้างมือและตรวจวัดอุณหภูมิพร้อมติดสติกเกอร์ แม้ไม่ได้จำกัดการเข้าแต่ระยะห่างของกันและกันอยู่ในระดับที่เหมาะสม สิ่งที่น่า ชื่นชม คือ การทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การเว้นระยะห่างด้วยตัวเอง การรอคอยเพื่อเข้าไปสักการะโดยไม่ให้หนา แน่น ไม่จุดธูปเทียนใน ที่ห้ามจุด ไหว้เสร็จและเดินออกไม่นั่งแช่จนเป็นเวลานาน และไม่มีใครไม่สวมใส่หน้ากาก - วัดประดู่ฉิมพลี - - วัดประดู่ฉิมพลี - บ่ายกว่า ๆ คนเริ่มทยอยมากันมากขึ้น แต่สิ่งที่สังเกตได้ คือ ผู้คนในวัดต่างตระหนักรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีการรุมปิดทององค์พระ ไม่มีการยื้อ แย่งพื้นที่ไหว้พระ มุมโรงทานไม่มีการแย่งคิวกัน มุมพระเครื่องก็ไม่แย่งกัน รุมกันซื้อ ทุกคนเข้าแถว เข้าคิวรอ ถ่อยทีถ่อยอาศัยกันได้ - วัดปากน้ำภาษีเจริญ - - วัดปากน้ำภาษีเจริญ - - วัดปากน้ำภาษีเจริญ - บรรยากาศวันนั้นเลยอิ่มบุญกันเต็มที่ สบายกาย สบายใจ กอดจึงอยากบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ พร้อมนำบุญมาฝากผู้อ่านทุก คนด้วยค่ะ ในบางมุม New normal ทำให้เราเรียนรู้ว่าเรา.. รอได้.. ไม่รีบได้... ไม่เบียดเบียนได้ ..และเคารพกติกาซึ่งกันและกันได้ รูปภาพโดย: กอดนะ