เคาะแล้ว!วัคซีนไฟเซอร์ 1.5ล้านโดส จากอเมริกาใครได้ฉีดบ้าง! เชื่อว่าต้องมีเพื่อนๆ หลาคนต้องเคยได้ยินข่าวว่าทางสหรัฐอเมริกาจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทยเรา! แล้วความต้องการวัคซีนในกลุ่ม mRNA ประเทศไทยก็คือยังไม่มีจึงตกเป็นที่สนใจจำนวนมาก ส่งผลให้มีข้อถกเถียงมากมายว่า ตกลงวัคซีนที่รับมาจะให้กลุ่มไหนฉีดดี? จะเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ก็คือ แพทย์ที่อยู่ในบัญชีทั้งหมดประมาณ 700,000 กว่าคน หรือ บุคคลที่ด่านหน้า อย่างแพทย์ห้องฉุกเฉินเอ๋ย แม่บ้านที่ทำความสะอาด เจ้าหน้าที่รับส่งผู้ติดเชื้อ หรือบุคคลใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด ประมาณ 1.9 ล้านกว่าคน หรือเป็นกลุ่มผู้สูงอายุกับ 7 โรคเรื้อรัง เพื่อลดภาระทางการแพทย์ให้ทำงานน้อยลง เพราะกลุ่มเปราะบางหากเป็นหนักจะอาการแย่กว่ากลุ่มอื่นวันนี้ทางเรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ว่าให้กลุ่มไหนอะไรอย่างไร ? ทางศูนย์ข้อมูล COVID-19 เป็นหน่วยงานที่เราติดตามข่าวโควิดว่า ฉีดวัคซีนถึงไหน คนติดกี่คน หรือควรปฏิบัติอย่างไรนั้น เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางสหรัฐอเมริกาบอกว่าจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทยโดยไม่มีเงื่อนไข ตามคำมั่นสัญญาของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน เพื่อช่วยพันธมิตรของเราต่อสู้กับโควิด ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ของเราสองประเทศและเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงมิตรภาพที่ดี โดยดำเนินการ "ไมเคิล ฮีธ" อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผมขอเน้นย้ำว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีคนกลางในการเจรจา ทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และสถานทูตสหรัฐฯ ทำงานโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขของไทย ต่อมาในเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดแผนกระจายวัคซีนโควิด-19 ว่า ที่ได้ประชุมศบค. ว่าจัดการวัคซีนมาจากสหรัฐอเมริกาจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดสนั้นแล้ว ดังนี้ กลุ่มเป้าหมาย 1. บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด- 19 ทั่วประเทศ (ฉีดเป็น Booster dose จำนวน 1 เข็ม) เนื่องจากกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ได้รับเป็น sinovac ครบ 2 เข็มแล้วตามเงื่อนไขของการ Booster ที่ต้องได้รับการฉีดมาแล้ว 2 เข็ม เมื่อฉีดเข้า 1 เข็มก็เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเน้นฉีดกลุ่มนี้มากที่สุด เพื่อเป็นด่านหน้า อารมณ์ทหารก็ต้องมีอาวุธดี ๆ 2. ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค กลุ่มนี้อย่างที่บอกไปว่า หากรับเชื้อโควิดมา จะมีอาการหนักกว่าวัยอื่น ๆ คูณสอง คูณสามเท่าไปเลยค่ะ เพราะภูมิต้านทานในร่างกายโดยพื้นฐานไม่แข็งแรง พอเจอฤทธิ์โควิดเข้าไป ก็ไม่สามารถต้านได้ จึงอันตรายมาก ๆ 3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง ในความคิดของเรานะคะ เนื่องจากวัคซีนตัวนี้เป็นตัวเราได้รับบริจาคจากต่างประเทศ จะฉีดให้คนไทยอย่างเดียวก็ดูแปลกๆอาจเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือจึงจะใช้ประโยชน์กับคนในประเทศได้ 4. ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีตวัคซีน ไฟเซอร์ ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต เนื่องจากบางประเทศยังไม่ได้มีการยอมรับ sinovac แม้วัคซีนซิโนแวคจะกระจายไป 32 ประเทศทั่วโลก แต่ก็มีบางประเทศ เช่นอินโดนิเชียที่ไม่นับว่าเป็นการฉีดวัคซีน เป็นต้น การกระจายวัคซีน สำหรับฉีด 2 เข็ม ห่าง 3 สัปดาห์ (ยกเว้นกรณี บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า Boaster dose 1 เข็ม) สัญชาติไทย 1,350,000 โดส - ต่างชาติ 150,000 โดส (10%) พื้นที่เป้าหมาย (พื้นที่ระบาด - ท่องเที่ยว ) - กรุงเทพมหานคร - สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม - ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา (มีการระบาดของสายพันธุ์เบตา แอฟริกา) สามารถขอรับฉีดได้ที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กทม.บริหารจัดการผ่านรพ.ในพื้นที่ กรณีชาวต่างชาติให้กระการต่างประเทศเป็นผู้ประสานหลัก ยังไงก็ขอให้ทุกคนปลอดภัย รักษาสุขภาพ สู้! เราต้องรอดไปด้วยกันค่ะ! เครดิตรูปภาพ ภาพปก x3 จาก pixabay ภาพประกอบ 1 office facebook : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ภาพประกอบ 2 Mufid Majnun จาก unsplash ภาพประกอบ 3 Devanath จาก pixabay ภาพประกอบ 4 Amanda Scharkss จาก unsplash ภาพประกอบ 5 ThomasWolter จาก pixabay อ่านบทความเพิ่มเติมของผู้เขียนได้ : อ่านที่นี่ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !