แม้คนเราปรารถนาจะมีชีวิต ที่มีความสุข ด้วยกันทุกคน แต่เมื่อต้องเจอกับ เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่ควบคุมไม่ได้ เป็นเหตุทำให้ ไม่ได้มี หรือไม่ได้ใช้ชีวิตดังที่หวัง แต่ฉันเชื่อว่าคนเราสามารถควบคุมสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ นั่นคือ “ทัศนคติ” และการ เดินไปกับความสุข ทัศนคติกำหนดชะตาชีวิตได้ นั้น ก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผล ฉันเคยฟังนิทาน สมัยเป็นนักศึกษา ขณะที่อาจารย์ประเมินว่านักศึกษาน่าจะยังมากันไม่ครบ จึงได้พูดคุยก่อนเข้าสู่บทเรียน เรื่องการปรับตัว และการสร้างทัศนคติเชิงบวก โดยเล่าเป็นนิทานให้ฟัง ซึ่งฉันยังจำได้ดี จนถึงวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่ามีเมืองๆ หนึ่งมีกำแพงสูงล้อมรอบ ผู้คนจะเข้าออก จะได้รับอนุญาตจากชายอาวุโส ผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเมืองเสียก่อน อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่ชายผู้นั้น กำลังนั่งอยู่เช่นปกติเหมือนทุกวัน ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ขับรถม้าผ่านมา ในรถม้าบรรจุข้าวของ เหมือนกำลังย้ายถิ่นฐาน ได้หยุดรถแล้วถามขึ้นว่า "ท่าน ครับ ข้ากำลังหาที่อยู่ใหม่ อยากจะหาที่อยู่ดี ๆ เสียที จะได้ลงหลักปักฐาน และสร้างครอบครัว ข้าขอเข้าไปอาศัยในเมืองนี้จะได้ไหม”เมื่อชายอาวุโสได้ฟังเช่นนี้ ก็มองมาที่ชายหนุ่ม แล้วถามกลับไปว่า"แล้วเมืองที่เจ้าจากมาละเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด เจ้าถึงได้จากมา” ชายหนุ่มได้ตอบกลับมาว่า"เมืองที่ข้าอยู่นั้น ผู้คนแล้งน้ำใจ เห็นแก่ตัว ขาดวินัย และไร้มารยาท ทุกคนล้วนคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ข้ารู้สึกว่า เป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย นี่แหละเป็นเหตุผลที่ข้าต้องย้ายออกมา”ชายอาวุโส ได้แต่พยักหน้ารับทราบ พร้อมกับกล่าวว่า"ผู้คนของเมืองนี้ ก็มีนิสัย ไม่ต่างจากผู้คน ในเมืองที่เจ้าจากมานักหรอก อาจจะแย่กว่าที่เจ้าเล่ามาเสียอีก”เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ก็เงียบชั่วขณะ แล้วบอกลา เพื่อเดินทางต่อไป อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินทางด้วยรถม้า บรรจุข้าวของเครื่องใช้ ไม่ต่างจากคนแรก และ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะไปหาที่อยู่ใหม่เช่นกัน ชายหนุ่มผู้ผ่านมาใหม่ ก็ได้เอ่ยถามกับชายผู้ที่เฝ้าประตู ขึ้นว่า"ท่านครับ ตัวข้าและครอบครัว มีความจำเป็น ต้องหาหาที่อยู่ใหม่ ไม่ทราบว่าเมืองที่ท่านอยู่นี้เป็นอย่างไรบ้างครับ”เมื่อชายอาวุโส จึงย้อนถามไปด้วยประโยคเดิม ที่มักถามกับผู้ที่ผ่านมาว่า"แล้วเมืองที่เจ้าจากมานั้นเป็นอย่างไร เหตุใดเจ้าถึงต้องหาที่อยู่ใหม่”ชายหนุ่ม จึงได้เล่าถึงเมืองที่จากมา ด้วยน้ำเสียงที่อาวรณ์ต่อเมืองที่จากมาว่า"เมืองที่ข้าเคยอยู่ ผู้คนล้วนเป็นมิตร มีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อกัน มีความสงบสุขดี พืชพรรณ ก็เจริญงอกงาม แต่ครอบครัวของข้ากำลังขยายใหญ่ขึ้น ภรรยากำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เลยอยากหาที่อยู่ใหม่เพื่อจะได้มีพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น"ชายผู้มีหน้าที่เฝ้าประตูเมือง พยักหน้า พร้อมเปิดประตูเมือง แล้วพูดว่า"เจ้ามาถูกที่แล้วล่ะ เมืองนี้ก็ ก็ไม่ต่างจากเมืองที่เจ้าจากมา ทุกอย่างที่เจ้าเคยได้รับ เมืองนี้ ก็จะมีให้เจ้าเช่นกัน" ฉันเรียนจบมานานหลายสิบปีแล้ว และจำไม่ได้ว่าเนื้อหาวิชาที่เรียนในวันนั้น เป็นเรื่องอะไร แต่กลับยังจำนิทานก่อนบทเรียนเรื่องนี้ได้ดี ทั้งยังได้หลักคิดประจำตัว ที่นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา คือ โลกนี้มีหลายมุมให้เลือกมอง ขึ้นอยู่กับ มุมคิด และ ประสบการณ์ ของแต่ละคน ทำให้ฉันไม่ตัดสิน ถูกผิด ในเรื่องต่างๆ เร็วไปนัก และฉันเชื่อว่า "ทัศนคติ" เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่กำหนดผลลัพธ์สุดท้ายให้กับคนๆ นั้น และ กำหนดชะตาชีวิตได้ ในที่สุด ค่ะ อ่านบทความที่น่าสนใจ คลิกที่นี่เดินไปกับความสุข ด้วยพลังแห่งการคิดบวก5 สุดยอดเทคนิค เรียนดีไม่มีแผ่วรีวิวหนังสือ HAPPY MONEY เงินดี ชีวิตมีความสุขรีวิวหนังสือ ปัญญาทางการเงินรีวิวหนังสือ The Archer ปราชญ์แห่งธนูภาพปก และภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน BeABossเครดิต องค์ประกอบภาพทั้งหมดจาก canva.comอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !