บทความนี้ผู้เขียนขอนำประสบการณ์การเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร เพื่อเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อ่าน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารบ่อยๆ เพราะมีโอกาสเสี่ยงในการตกเครื่อง หากการเตรียมตัวเดินทางไม่ดีพอ ดังนั้นจึงขอนำประสบการณ์การขึ้นเครื่องที่ปลอดภัยต่อการตกเครื่อง มีดังนี้1.เตรียมเอกสารให้พร้อมในการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร ส่วนใหญ่จะมีการจองตั๋วล่วงหน้า เพราะการจองล่วงหน้าหลายๆวันมักจะได้ค่าโดยสารที่ถูกกว่าการจองในระยะก่อนการเดินทางไม่กี่วัน หากมีการจองล่วงหน้าเมื่อทำการจ่ายเงินค่าโดยสารแล้ว ระบบจะส่ง Boarding pass มาให้ทางอีเมล หน้าที่ของเราคือทำการปริ๊นท์ Boarding pass เก็บไว้ เพื่อใช้สำหรับยืนยันว่าเป็นผู้โดยสารตัวจริงตอนถูกเรียกขึ้นเครื่อง นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง เพราะในขั้นตอนของการตรวจสอบผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง จะมีการตรวจสอบชื่อ - นามสกุลจริงใน Boarding pass เทียบกับชื่อ-นามสกุลจริงในบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้นทั้ง 2 สิ่งนี้ต้องเตรียมให้พร้อม ในกรณีที่ไม่ได้ปริ๊นท์ Boarding pass เก็บไว้ ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนเข้าทำการเช็คอินที่เคาเตอร์ของสายการบินนั้นๆ ซึ่งจะเสียเวลาอีกหน่อยหากช่วงเวลานั้นมีผู้โดยสารหนาแน่น ดังนั้นต้องมีการเตรียมเอกสารให้พร้อม และบริหารจัดการวางแผนการเดินทางให้ดี อย่างไรก็ดีปัจจุบันสายการบินต่างๆ อนุญาติให้แสดง Boarding pass ใน Smart Phone ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปริ๊นท์ Boarding pass ลดขั้นตอนในการเตรียมเอกสาร เกิดความสะดวกในการขึ้นเครื่องมากยิ่งขั้น2.วางแผนเดินทางถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาทีต่อเนื่องจากข้อที่ 1 ใน Boarding pass จะมีเวลาที่ระบุไว้ให้ทราบว่าต้องขึ้นเครื่องเป็นเวลาเท่าไหร่ ในการเดินทางไปสนามบินต้องไปให้เร็วกว่าเวลาเรืยกขึ้นเครื่องใน Boarding pass อย่างน้อย 30 นาที เพราะต้องเผื่อเวลาไว้ในกรณีที่ช่วงเวลานั้นมีผู้โดยสารหนาแน่น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นขั้นตอนการตรวจสอบก่อนขึ้นเครื่องจะล่าช้าอย่างมาก รวมทั้งสนามบินบางแห่งทางไปประตูทางออกเครื่องค่อนข้างไกล เสียเวลาเดินหลายนาที หากไม่เผื่อเวลาไว้อาจมีโอกาสตกเครื่องได้3.สำรวจประตูเข้าออกให้ดีเมื่อถึงสนามบินสิ่งที่ต้องสำรวจไว้คือประตูทางเข้่าออกเครื่องให้ดี เพราะหากไม่สำรวจไว้อาจจะทำให้ขึ้นเครื่องผิดประตูได้ หากเป็นเช่นนั้นจะนำมาซึ่งการเสียเวลาในการย้ายประตูทางออกใหม่ ซึ่งหากเจอประตูทางออกเครื่องที่ต้องเดินไกลๆ ก็จะเสียเวลาอย่างมาก อาจถึงขั้นตกเครื่องได้4.สำรวจอุปกรณ์ที่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในการขึ้นเครื่องจะมีอุปกรณ์ต้องห้ามที่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ได้แก่ ของมีคมต่างๆ เช่น คัตเตอร์ เป็นต้น ดังนั้นก่อนขึ้นเครื่องต้องศึกษาและสำรวจของในกระเป๋าให้ดีว่าสามารถนำขึ้นเครื่องได้ไหม เพราะในขั้นตอนของการตรวจสอบของสนามบิน หากเจอสิ่งต้องห้าม อาจจะมีการตรวจซ้ำ และค้นหาอุปกรณ์ต้องห้ามเหล่านั้น ทำให้เสียเวลาอีกหลายนาทีกว่าจะพ้นจากจุดตรวจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ตกเครื่องได้ ไม่เพืยงแค่นั้น เพราะอุปกรณ์ที่เจ้าที่ตรวจเจอ เราจะไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของมันอีกแล้ว จำใจต้องทิ้งบัดเดี๋ยวนั้น เพื่อซื้อเวลาให้ทันขึ้นเครื่อง บางครั้งอุปกรณ์ต้องห้ามเหล่านั้นเพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ก็เกิดความเสียดายอยู่เหมือนกัน ต้องต้องจำใจทิ้งมันไป เหตุเพราะไม่ได้สำรวจให้ดีก่อนขึ้นเครื่องนั่นเองท้ายสุดส่วนตัวของผู้เขียนเอง ปัญหาของการขึ้นเครื่องที่ไม่ชอบเอาเสียเลยคือต้องถอดเข็มขัดในขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยของสนามบิน เพราะต้องเสียเวลาถอด แล้วใส่อีกครั้ง ดังนั้นหากเป็นไปได้ไม่ต้องใส่เข็มขัดไปขึ้นเครื่องคงจะเป็นทางออกอีกทางที่ผู้เขียนขอแนะนำ หลังจากลงเครื่องแล้วค่อยใส่อีกทีเพื่อไปทำภารกิจต่อไปก็น่าจะดีกว่าอย่าลืมวางแผนและเผื่อเวลาตั้งแต่ออกจากบ้านหรือจากที่ทำงานด้วยนะครับ ยิ่งการเดินทางในกรุงเทพฯ รถจะติดมากๆ ต้องเผื่อเวลาในส่วนนี้ด้วย ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัย สวัสดีครับ ขอบคุณภาพประกอบจาก :ภาพที่ 1 โดย Joshua Woroniecki / Pixabayภาพที่ 2 โดย Jan Vašek / Pixabayภาพที่ 3 โดย Jan Vašek / Pixabayภาพที่ 4 โดย lukasbieri / Pixabayภาพปก โดย blende12 / Pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์