วิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 3 ยิ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการจ้างงาน ทำให้หลายคนเริ่มมองหาอาชีพที่มั่นคงกันมากขึ้น เพราะบริษัทปรับลดเงินเดือน หรือให้พนักงานออก เนื่องจากบริษัทแบกต้นทุนต่อไม่ไหว ทำให้การสอบเข้ารับราชการ หรือ สอบ ก.พ. ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่การจะก้าวเข้าสู่อาชีพนี้ไม่ง่าย นั่นไม่ใช่เพราะข้อสอบยากเกินความสามารถ แต่เพราะการแข่งขันสูง นั่นเองค่ะ วันนี้เราเลยอยากมาแขร์ประสบการณ์ตรงในการสอบรับราชการ เพื่อให้เพื่อน ๆ นำไปวางแผนการอ่านหนังสือ และเตรียมตัวสอบกันได้ดียิ่งขึ้น ขอเกริ่นก่อนว่า หลังเรียนจบในปี 2558 เราสอบ ก.พ. ครั้งแรก ก็สอบไม่ผ่าน แต่ไม่ได้เสียใจมากในตอนนั้น เพราะยังสนุกกับงานเอกชนที่กำลังไปได้ดี บวกกับไม่ได้เตรียมอ่านหนังสือ จึงไม่แปลก (ใจ) ที่ตัวเองสอบไม่ติด ฮ่า ๆ แต่ก็ไม่ได้ชิวขนาดนั้น เพราะสอบ ก.พ. ภาค ก. ไม่ได้เปิดสอบทุกเดือน สมัยก่อนเปิดสอบปีละ 1 - 2 ครั้ง ถ้าสอบไม่ผ่าน เท่ากับว่า เราต้องพยายามสอบให้ผ่าน "ภาค ก." ซึ่งจะกินเวลาหลายปี ดังนั้น ในปี 2559 ก็รู้สึกว่าเล่น ๆ ลอง ๆ ไม่ได้แล้ว ต้องอ่านหนังสือสอบ เราก็ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานนะคะ ไม่กี่เดือน แต่ก็เป็นไม่กี่เดือนที่บอกกับตัวเองว่า ต้องให้ความสำคัญกับ "การสอบให้ผ่าน" มากกว่าการโฟกัสว่า เราพยายามมาเท่าไหร่แล้ว อ่านกี่วันต่อชั่วโมง อ่านเยอะแค่ไหน คือพูดง่าย ๆ ว่า ให้ความสำคัญ กับ Process ที่จะทำให้เกิด Outcome มากกว่าการโฟกัสว่าตัวเองลงทุนไปเท่าไหร่ .... ในที่สุดเราก็สอบติดในครั้งที่ 2 ของการสอบ ก.พ. มาดูกันเลยค่ะ จะเตรียมสอบ ก.พ. แบบสอบติดชัวร์ เราต้องรู้อะไรบ้าง? สำหรับใครที่มาสายราชการ แน่นอนว่า ต้องรู้จักกับการสอบ ก.พ. ภาค ก. อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนกังวลคือ จะสอบ ก.พ. อย่างไรให้ผ่าน? จะสอบอย่างไรให้ได้เรียกบรรจุ นี่ต่างหากคือความหินของ “เส้นทางการรับราชการ”ก่อนที่จะลงรายละเอียดว่า จะต้องเตรียมตัว เตรียมอ่านหนังสืออย่างไร ต้องเท้าความก่อนว่า ข้อสอบ ก.พ. ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า หน่วยงานนี้เป็นเสมือน Human Resource Department หรือแผนก HR ในการจัดสรรกำลังพลขั้นตอนแรกก่อนเข้าสอบรับราชการ ทุกคนต้องสอบ ก.พ. ภาค ก. และเมื่อทุกคนสอบผ่าน และได้บรรจุรับราชการแล้ว ก็ต้องเข้าอบรมข้าราชการใหม่ ซึ่งจัดโดยสำนักงาน ก.พ. อีกเช่นกันจะเห็นว่า สำนักงาน ก.พ. เกี่ยวข้องกับเราตลอดเส้นทางการรับราชการ เริ่มจากการสมัครสอบ ไล่ไปถึงการทำงาน การปฏิบัติตามจรรยาข้าราชการ จนกระทั่งเกษียณอายุราชการดังนั้น เพื่อให้การสอบของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การอ่านหนังสือเยอะ การเตรียมตัวเยอะ ไม่สำคัญเท่ากับการทำความรู้จักกับโครงสร้างของการสอบ หรือถ้าตามคำแนะนำของหนังสือ How to ที่แปลมาจากญี่ปุ่น มักจะมีคำพูดทำนองว่า "อ่านเยอะ ไม่เท่าอ่านเป็น!"เราต้องอ่านหนังสือสอบราชการให้เป็น แล้วจะสอบติด!อันดับแรกเลย ต้องทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบก่อน สำหรับข้อสอบ ก.พ. ภาค ก. แบ่งออกเป็น 3 Part รวมทั้งหมด 200 คะแนน ดังนี้1. ความรู้ความสามารถทั่วไป รวม 100 คะแนน (ต้องสอบให้ผ่าน 60 - 65%)2. วิชาภาษาอังกฤษ 50 คะแนน (ต้องสอบให้ผ่าน 50%)3. ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี 50 คะแนน (ต้องสอบให้ผ่าน 60%) จะเห็นว่าข้อสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไป เป็น Part ที่มีสัดส่วนคะแนนเยอะที่สุด สำหรับผู้ที่เคยผ่านสนามสอบมาแล้ว เมื่อออกจากห้องสอบ แทบจะเดาผลได้ทันทีว่า การสอบครั้งนั้น ๆ จะผ่านหรือไม่ผ่าน จากความมั่นใจในข้อที่ตอบได้ของวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป Part 1 : ความรู้ความสามารถทั่วไปในวิชานี้ จะถาม 2 ส่วนหลัก ๆ คือภาษาไทยและคณิตศาสตร์ โดยในเว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. อธิบายเนื้อหาการออกข้อสอบ ครอบคลุมเนื้อหา ดังนี้1.การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา เช่น การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร การจับใจความสำคัญ การสรุปความ การตีความจากบทความ ข้อความ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ 2.การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม เช่น การคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงคำ ข้อความหรือรูปภาพ ตลอดจนการหาข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ รูปภาพ สถานการณ์ หรือแบบจำลองต่าง ๆ 3.การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ เช่น ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด และแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น การเปรียบเทียบและวิเคราะห์เชิงปริมาณ ตลอดจนการประเมินความพอเพียงของข้อมูล จากประสบการณ์ของผู้เขียนแนะนำให้ทุกท่านลองทำข้อสอบมาตรฐานได้ที่ เว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. ในข้อสอบ Part นี้ สิ่งที่โจทย์จะถามแน่ ๆ (และถามทุกปี) เราเช็คลิสต์มาให้แล้วคืออนุกรม การบวกลบคูณหารปกติการคำนวณเปอร์เซ็นต์/ร้อยละ (ถามเรื่องเงิน) เช่น ขายของได้กำไรขาดทุนกี่บาท/กี่เปอร์เซ็นต์ เงินเดือนลดหรือเพิ่มกี่บาท/เปอร์เซ็นต์ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นกี่บาท/เปอร์เซ็นต์ เป็นต้นการคำนวณเปอร์เซ็นต์/ร้อยละ (ถามเกี่ยวกับจำนวน) เช่น มีไข่ไก่กี่ฟอง มีไข่เป็ดกี่ฟอง มีจำนวนขาสัตว์กี่ขา เป็นต้นตรรกศาสตร์เบื้องต้นเลขยกกำลัง ระบบจำนวนจริง (จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ)ความน่าจะเป็นเบื้องต้นใน 1 - 8 ข้อข้างต้น ผู้เข้าสอบเป็นแสน ๆ คนที่สอบไม่ผ่าน มักจะเสียเวลาไปกับข้อ 1 และ ข้อ 2 คือ การคำนวณอนุกรม และบวกลบเลขที่ไม่ซับซ้อน (แต่ค่อนข้างเสียเวลา) ทั้งที่จริง สัดส่วนข้อสอบในข้อ 3. - 8. สามารถหาคำตอบได้ในเวลาอันสั้น ไม่ถึง 2 - 3 นาทีเมื่อผู้เข้าสอบไม่บริหารเวลา มัวแต่ไปนั่งบวกลบเลขพื้นฐาน ทำให้ทำข้อสอบ Part คณิตศาสตร์ไม่ทัน ยิ่งข้อสอบ Part นี้ มาพร้อมกับ “ข้อสอบภาษาไทย” ซึ่งเป็นข้อสอบที่ต้องอาศัยเวลาในการวิเคราะห์ก็จะยิ่งทำให้ผู้เข้าสอบลน! นอกจากทำข้อสอบคณิตฯ ไม่ทันแล้ว ยังไม่มีสมาธิไปอ่าน Part ภาษาไทย โอกาสที่คะแนนของการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปจะผ่านถึง 60-65% ก็น้อยตาม ดังนั้น ผู้เข้าสอบจึงต้องเน้นทำข้อสอบเสมือนจริง ตามโครงสร้าง 1.- 8. ที่เราช่วยลิสต์ไว้ให้ จะช่วยให้บริหารเวลาได้ดี ทำข้อสอบได้ทันและสอบผ่านในที่สุด Part 2 : ภาษาอังกฤษ สำหรับการสอบ ก.พ. ในวิชาภาษาอังกฤษ สามารถทดสอบได้ใน แบบทดสอบเข้ารับราชการ โครงสร้างข้อสอบภาษาอังกฤษ โจทย์จะถามเกี่ยวกับ1. Conversation โดยให้เติมคำในช่องว่างทริค : สามารถสังเกตได้จากบริบทแวดล้อม2. Vocabulary เติมคำศัพท์ที่ถูกต้อง หา Synonyms หรือ Antonymsทริค : เน้นท่องศัพท์ภาษาอังกฤษระดับ ม.3 - ม.43. Reading เธอมาเพื่อดึงเวลา ให้พวกเราทำข้อสอบ (เกือบ) ไม่ทัน ทริค : อ่าน Title ก่อนว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และข้ามไปอ่านสิ่งที่โจทย์ถาม และช้อยส์ที่ให้มา Part 3 : ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดีสำหรับ Part นี้ หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่า ทำความเข้าใจเอาก็ได้ ไม่ต้องอ่านเยอะ เพราะน่าจะถามเกี่ยวกับจริยธรรม การเป็นข้าราชการที่ดี แต่จากประสบการณ์ของเรา บอกเลยว่ากำลังโดนข้อสอบหลอก!ถ้าอยากได้คะแนน Part ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี เยอะ ๆ ผ่าน 60% แนะนำดังนี้สายขยัน : ท่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551สายขี้เกียจ : จำ Keyword ให้ได้ เพื่อให้คุ้นเคยกับคำสำคัญโดยสามารถอ่านข้อมูลได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมจริยธรรม สำนักงาน ก.พ. หวังว่าทุก ๆ คนจะนำเทคนิคที่แชร์ไปทั้ง 3 PART ไปปรับปรุงการอ่านให้ดียิ่งขึ้น เปลี่ยนจากการอ่านกี่ครั้ง ก็ยังสอบไม่ผ่าน มาเป็นการอ่านโครงสร้างข้อสอบ และเน้นทำโจทย์คณิตตามที่แนะนำไปข้างต้น โดยให้ความสำคัญกับ "การอ่านเป็น" มากกว่า "การอ่านเยอะ" โดยล้อไปกับแนวข้อสอบว่าโจทย์จะถามประมาณไหน ที่สำคัญต้องบริหารเวลาให้ดี อย่าทุ่มเวลากับข้อใดข้อหนึ่งนานเกินไป และในโอกาสหน้าเราจะมาแชร์วิธีการสัมภาษณ์งานราชการ หรือการสอบภาค ค. อย่างไรให้ผ่าน เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้นำเทคนิคไปใช้กันนะคะ แล้วมาใส่ขุดกากีด้วยกันนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) ----------- เครดิตภาพประกอบ : ภาพปกโดยผู้เขียนภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย freepik จาก Freepikภาพที่ 4 โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !