สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ จากการได้ไปตามสถานที่ต่างๆ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียนจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ ช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาบางคนไม่รู้จะไปไหน กลับต่างจังหวัดก็ไม่ได้ ฉันคนนึงที่คิดว่ายังไงก็ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ยังอยากออกไปเที่ยว แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมีการระบาดของ ไวรสโควิด-19 ทำให้ฉันไปไกลกว่ากรุงเทพฯไม่ได้ นอนคิดอยู่คืนหนึ่งว่าจะไปไหนดี และแล้วภาพวัดสวยๆ ก็ปรากฏขึ้นในหัวของฉัน พอตื่นมาอีกวันฉันก็ได้รับสายจากใครบางคน ซึ่งปลายสายคือเพื่อนของฉันเอง ทันใดนั้นเธอก็ชวนฉันไปวัดในวันหยุดที่จะถึงนี้ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นกับฉันแล้ว ฉันเลยตอบตกลงในทันทีและเตรียมหาข้อมูลต่างๆ และแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางกันเลย เราได้นัดเจอกับเพื่อนที่วัดภูเขาทองหรือวัดสระเกศ เราเคยมาที่นี่กันหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะว่าเราได้ถ่ายภาพสวยๆ โดยที่ปราศจากนักท่องเที่ยว ไม่ต้องรอคิวนานเพื่อที่จะเข้าไปถ่ายรูปมุมสวยๆที่เราชอบ ในเฟรมภาพก็ไม่ติดภาพฝรั่งหัวทองมา มันเป็นความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบแต่ก็รู้สึกใจหายและเศร้าแทนพ่อค้าแม่ขายละแวกนั้น มองดูแล้วรู้สึกเงียบเหงาปราศจากนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่กระทั่ง พี่ๆรถสามล้อ รถแท็กซี่และอีกหลายๆ คนก็มีผลกระทบจากการระบาดของไวรัส ทำให้ประเทศไทยเราต้องปิดประเทศ งดการเดินทาง กลับมาพูดถึงวัดภูเขาทองกันดีกว่าฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้วเช่นกัน แต่ทุกๆ ครั้งวัดภูเขาทองก็ยังคงความร่มรื่น ความสวยงามและความศรัทธา ของเราเหล่าชาวพุทธและชาวต่างชาติแม้แต่กระทั่งช่วงโควิดเราก็ได้เห็นชาวต่างชาติยังมาเที่ยวที่นี่กันอยู่ แต่ไม่ครึกครื้นเช่นแต่ก่อน หลังจากที่ได้ทำบุญและเก็บภาพประทับใจตามที่ต่างๆ ของวัดแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ไม่รีรอที่จะออกเดินทางต่อ เราก็ได้มาถึงวัดพระแก้วหรือเรียกอีกชื่อว่าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของประไทยเรา วัดพระแก้วเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นจุดเช็คอินที่ใครไม่มาที่นี่จะดูเหมือนยังมาไม่ถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งถ้าใครได้เข้ามา เหมือนต้องมนต์สะกด ทำให้คิดถึงและอยากกลับมาอีก พอถ่ายรูปกันหนำใจแล้วเราก็เดินเลียบกำแพงวัดพระแก้วไปที่วัดโพธิ์หรือหรือวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 และเป็นสถานที่ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในการนวดแผนไทย เป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทยซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 99 องค์และมีพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล คือรัชกาลที่ 1 ถึง 4 ตั้งสง่างามอยู่ภายในวัด ภายในมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เหมาะสำหรับมาทำบุญและมาถ่ายรูปเป็นอย่างมากค่ะ และแล้วเราก็ได้มาถึงวัดสุดท้ายของวันนี้กันแล้ว นั่นก็คือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่าวัดแจ้ง ซึ่งชื่อเดิมคือวัดมะกอก ถ้าพูดถึงรูปปั้นยักษ์ทุกคนก็จะนึกถึงยักษ์วัดแจ้งและยักษ์วัดโพธิ์ วันนี้เราก็เลยพาเพื่อนๆ มาดูยักษ์วัดแจ้งกันค่ะ ก้าวแรกที่ได้มาถึงวัดนี้คือทุกคนต้องร้องว้าว เพราะว่ามีความสวยงามวิจิตรตระการตา อลังการ ไม่แพ้กับวัดอื่นๆ ที่ผ่านมาเลย วัดแจ้งเป็นวัดสมัยอยุธยา จุดเด่นของวัดนี้คือมีพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบ ทุกคนที่ได้มาเห็น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความงดงามเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร ทำได้ก็เพียงแต่หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา ประทับความทรงจำไว้ภายในจิตใจและภาพถ่ายเท่านั้น มีแค่สองสิ่งนี้ที่คอยย้ำเตือนว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาที่นี่ ก่อนที่จะเข้าไปในวัดเราก็ได้พบกับรูปปั้นยักษ์ 2 ตน ที่คอยเฝ้าประตูวัดโดยมีความเชื่อว่ายักษ์ทั้งสองจะคอยปกป้องรักษา ป้องกันอันตรายไม่ให้เข้ามาภายในวัด พอเข้าไปด้านใน เราก็ได้พบกับพระปรางค์ขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงามบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา และความศรัทธาของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพุทธศาสนาทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ความงามที่แฝงไปด้วยจิตใจของชาวไทยมันสื่อออกมาเป็นศาสนสถานอันงดงามแห่งนี้ เป็นไงกันบ้างค่ะเพื่อนๆ วัดแต่ละที่ล้วนมีความสวยงามวิจิตรตระการตา มีที่มา มีประวัติศาสตร์ มีคุณค่าทั้งทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมของชาวไทยเรา ทุกคนควรช่วยกันทำนุบำรุงและรักษาโบราณสถานเหล่านี้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยเราไปตลอดกาล โดยผู้เขียน image widget