ช่วงนี้สายไหมได้มีโอกาสได้ดูและอ่านบทความของศิลปินเกาหลีบ่อยๆ รวมทั้งศิลปินในฐี่ปุ่นเช่นกันค่ะ ทำให้ช่วงนี้มีแต่บทความของศิลปินเกาหลีออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ TT แต่เพราะแบบนั้นสายไหมจึงมาย้อนคิดเกี่ยวกับวงไอดอลในไทยที่มีอย่างมากมาย แน่นอนว่ามีทั้งวงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายไปจนถึงวงที่กำลังค่อยๆพัฒนาและเติบโตในแบบของตัวเอง พอถึงตรงนี้คนที่ชื่นชอบในไอดอลอย่างสายไหม ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยนะคะ สู้ๆ!ประจวบเหมาะที่สายไหมได้มีโอกาสไปพูดคุยกับน้องๆวง HAPPYTAIL วงไอดอลเล็กๆที่กำลังเติบโตอย่างสวยงาม ทำให้เกิดบทความนี้ขึ้นมาค่ะ ยังไงเราลองไปรู้จักน้องๆกันดีกว่านะคะ HAPPYTAIL ประกอบด้วยสมาชิก 5 คนมีดังนี้ค่ะ1. Nutchy (นัชชี่)2.AURFUAR (เอื้อเฟื้อ)3. FAIRY(แฟรี่)4. KOONU (คุณยู)5. PIMMY(พิมมี่)น้องๆแต่ละคนน่ารักมากเลยใช่มั้ยล่ะคะ ใครที่สนใจอยากติดตามน้องๆก็สามารถจิ้มไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลยย --> https://web.facebook.com/HappyTailOfficial/ ด้วยความยากในการเติบโตของธุรกิจไอดอลที่ทำให้ก่อเกิดความเหนื่อยท้อมากมาย แต่อะไรกันนะที่ทำให้พวกเธอยังยืนต่อสู้อยู่ตรงนี้ เราไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าอะไรกันบ้างที่เป็นกำลังใจให้เด็กๆเหล่านี้ 1. จากที่ตั้งวงมาแรกๆจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าต้องผ่านวิกฤตจนเหนื่อยท้อมามากมาย เหตุผลอะไรที่ทำให้เราคิดว่าถึงอยากที่จะยังยืนอยู่ตรงนี้ ? - เพราะรอยยิ้มของแฟนคลับค่ะ การที่เรามายืนอยู่ตรงนี้แน่นอนว่าเราคือความสุขของแฟนคลับ เราคือกำลังใจของเขา การที่ได้มาทำตรงนี้มันทำให้แฟรี่รู้สึกว่าเราได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับโลกนี้นะ หรืออย่างน้อยก็ได้เป็นสิ่งดีๆ ให้กับโลกของคนคนหนึ่งค่ะ และแฟรี่ยังอยากทำมันต่อไป ยังอยากทำให้โลกนี้หรือโลกของใครสักคนหนึ่งมันดีขึ้นกว่านี้อีกค่ะ อยากให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เลย อยากทำให้ดีที่สุดให้สมกับความรักและแรงสนับสนุนจากแฟนคลับทุกๆ คนค่ะ เพราะเราต่างเป็นแรงผลักดันซึ่งกันและกันค่ะ อยากจะจับมือกับแฟนคลับทุกคนเดินไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ( FAIRY HAPPYTAIL )2.ในเวลาปกติแล้วนั้นเราทุกคนก็เป็นเด็กสาวธรรมดากันทุกคนก็ต้องเจอเรื่องย่ำแย่ต่างกันไป แต่พอเราอยู่ในโหมดไอดอลแล้ว สามารถซ่อนสิ่งต่างๆหรือสิ่งที่เจอมายังไงหรอคะ?- "หน้าที่ย่อมมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว" เราคงพบเจอประโยคนี้อยู่บ่อยครั้งในการทำงานทุกแขนง ไอดอลคือบุคคลที่มอบความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และแรงบันดาลใจ นั่นคือหน้าที่ จริง ๆ เราใช้หลักการนี้แหละค่ะ เมื่อสลับเป็นโหมดผู้หญิงธรรมดาคนนึง เรามักมีปัญหาและเรื่องเครียดกันทั้งนั้น เราเคยต้องสลับโหมดแบบกระทันหันด้วยนะคะ (หัวเราะ) อีกอย่างนึงเลยคือ แฟนคลับทุกคนมาหามอบความสุขและกำลังใจให้ ทำให้เราลืมปัญหาชีวิตไปเลยค่ะ ( NUTCHY HAPPYTAIL ) - จริงๆ พิมพ์ก็มีเรื่องในแต่ละวันให้คิดเยอะมากเลยน่ะ เพราะพิมพ์ก็วัยทำงานแล้วล่ะนะ แต่ก็คิดว่าการใช้ชีวิตเป็นไอดอลมันก็สนุกนะคะ เลยเวลาที่ได้เปลี่ยนโหมดเป็นไอดอลเนี่ยถือว่าเป็นการผ่อนคลายอย่างนึงเลยนะ เราได้ทำให้สิ่งที่ชอบได้ทำในสิ่งที่รัก แค่นี้เรื่องแย่ๆหรือเรื่องร้ายๆก็หายไปแล้ว แถมการได้พบปะกับแฟนๆหรือใครก็ตามที่ผ่ายนมาได้มาพูดคุยกันก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันแล้วถือว่าช่วยให้หายเครียดได้เยอะเลย ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีพิมไม่ค่อยเอาชีวิตอีกด้านมาป่นเท่าไรด้วยโฟกัสแค่ สิ่งที่ทำตรงหน้ามากกว่า นั้นคือการส่งต่อความสุขให้ทุกคนเลยยิ้มให้สุดตลอดเลยค่ะ ( PIMMY HAPPYTAIL )3. คิดว่าตัวตนเราในชีวิตประจำวันและตัวตนของเราในฐานะไอดอล มีอะไรแตกต่างกันบ้างคะ ?- เอื้อในชีวิตประจำวันเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินไปเรียนต่อและตามไอดอลเกาหลีอย่างจริงจังค่ะ555555555 จริงๆก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลยค่ะ ไม่มีจริงๆเพราะเป็นคนไม่มีความลับอะไรด้วย แค่เอื้อในฐานะไอดอลเหมือนจะมีตัวตนมากกว่าปกตินิดหน่อยค่ะ เวลาที่มีโอตะมาหาที่งานจะดีใจมากๆที่เค้ารู้จักเราด้วย แล้วก็ถ้าเป็นเอื้อในชีวิตประจำวันก็คงไม่มีโอกาสได้ยืนอยู่บนเวที ได้ร้องได้เต้น เพราะฉะนั้นเอื้อในฐานะไอดอลคงเป็นคนที่สามารถทำในสิ่งที่ปกติคงไม่ได้ทำได้อย่างเต็มที่ในฐานะไอดอลค่ะ ( AURFUAR HAPPYTAIL )น้องๆแต่ละคนน่ารักกันมากเลยใช่มั้ยล่ะคะ ถ้ารักน้องๆหรือสนใจติดตามสามารถติดตามได้ทางเพจออฟฟิเชียลได้เลยนะคะ วันนี้สายไหมต้องไปก่อน แล้วเจอกันค่ะ : ) จนถึงตอนนี้ก็ขอบคุณน้องๆ HAPPYTAIL ที่น่ารักทุกคนที่มาให้สัมภาษณ์นี้ด้วยนะคะ สายไหมจะติดตามทุกผลงานเลยค่ะ !