BUTCHER beef&beer ร้านอาหารชื่อดังบนถนนเจริญราษฎร์ . . . กับเรื่องราวประสบการณ์ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ด้วยสไตล์ที่แตกต่างจากร้านเนื้อย่างในช่วงเวลานั้นที่มักจะไปในทางญี่ปุ่น เกาหลี ย่างบนตะแกรงเหล็กด้วยไฟถ่าน, BUTCHER beef&beer เลือกใช้กระทะทองเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ลูกค้าชโลมด้วยเนยก่อนนำเนื้อไปย่าง ส่งกลิ่นหอมอบอวลนัวนวลไปทั่วร้าน นอกจากนี้ทางร้านยังให้ลูกค้าได้สนุกกับการหมุนขวดเกลือ และพริกไทยปรุงรสชาติเนื้อได้ตามชอบใจ BUTCHER beef&beer มีเนื้อวัวให้ลูกค้าเลือกมากมายกว่า 12 รายการ ตัวเด่นตัวดังก็คงหนีไม่พ้น Butcher No.2, หนอกลาย และใบพายที่ทางร้านเสิร์ฟไปหลายแสนถาดแล้ว . . . สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อ ที่ร้านยังมีเมนูหมู และซีฟู๊ดรวมกันอีกกว่า 12 รายการ รวมไปถึงเครื่องเคียง Side Dish เช่น วาซาบิดอง มันปู ไก่ป๊อป ปีกไก่ทอด ฯลฯ เรียกได้ว่า ถูกใจคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกสายงานการกิน ร้านนี้เริ่มต้นจากเพื่อน 3 คน ประกอบด้วยคุณชาญวิทย์ กองพัฒน์พาณิชย์, คุณบริรักษ์ กิจทวีพิทักษ์ และคุณจตุโชค เลิศไชยภัทร มานั่งคุยกันว่าจะทำธุรกิจอะไรกันดี ระหว่างนั้นก็ซื้อเนื้อวัวมาทำกินกันเองที่บ้าน แล้วก็คุยปรึกษาหารือกันไป จนพบบรรดาเนื้อวัวอันโอชะที่พวกเขากำลังกินกันอยู่นั้น มันช่างอร่อยซะเหลือเกิน จู่ ๆ ใครคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “งั้นทำไมเราไม่ทำแบบนี้ขายไปเลยวะ” วันแรกที่พวกเขาเปิดร้านบนถนนเจริญราษฎร์ ย่านพระราม 3 นั้น พวกเขาเปิดให้ลูกค้านั่งทานกันแบบบุฟเฟต์ ผู้ชาย 3 คน พร้อมด้วยบรรดาแฟน และแม่ ๆ (หมายถึงแม่ของเจ้าของร้าน) ลงมือเข้าครัวเอง หั่นเนื้อ หั่นผักเอง เสิร์ฟ เก็บจาน รับลูกค้า ฯลฯ เรียกได้ว่าทำทุกอย่างเองหมด บรรดาเพื่อนฝูง มิตรสหายต่างมาช่วยกันอุดหนุน และสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเนื้อชั้นเยี่ยม และเครื่องดื่มสด ๆ เย็น ๆ ในแก้ว ใครอยากกินอะไร, สั่ง ! ใครอยากดื่มอะไร, สั่ง ! กว่าจะเก็บร้านอะไรเสร็จสรรพ รู้ตัวอีกทีเวลาก็ปาเข้าไปตี 5 สามเกลอเลยมานั่งคุยกันตอนตี 5 วันนั้นแหล่ะว่า ถ้าเป็นยังงี้ต่อไปคงไม่ไหว เพราะนอกจากระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่สูงปี๊ดดดดแล้ว พวกเขาคิดกันว่า เราคงไม่สามารถปิดร้านตี 5 ได้ทุกวันแน่ ๆ วันต่อมาพวกเขาเลยยกเลิกการขายแบบบุฟเฟต์ และเปลี่ยนเข็มทิศมาขายแบบ A la carte แทน ก่อนที่จะค่อย ๆ ปรุงแต่งร้านให้ออกมามีเสน่ห์ในแบบที่เราไม่เคยเจอที่ร้านอื่นมาก่อน "เราไม่ได้มองว่า BUTCHER เป็นแค่ร้านอาหาร เราจะสร้างอะไรที่มากกว่านั้น" ชาญวิทย์กล่าว ร้านนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบเป็นอย่างมาก พวกเขาลงมือเคาะสเป็ควัตถุดิบอาหารทุกจานเอง และทำให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับมื้ออาหารที่ดีที่สุดทุกมื้อ “ . . . อย่างเวลาเราไปส่งเนื้อสดให้ลูกค้า ลูกค้าจะได้รับเนื้อในถาดที่ซีนพลาสติกมิดชิด สูญญากาศ ถ้าลูกค้าเก็บเข้าช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิติดลบจะสามารถเก็บได้นานถึง 1 ปี … คือ เราให้เขาทำมาให้เสร็จตั้งแต่ที่โรงงานเลย แล้วแพ็คส่งมาให้เรา ของที่เราได้มา กับของที่เราส่งลูกค้าก็จะเหมือนกันทุกประการ. . .” “ผักที่ร้านซื้อใหม่จากตลาดทุกวัน ของสดทุกอย่างสดใหม่ทุกวัน” จตุโชคกล่าว เนื้อสันคอที่ถูกแพ๊คอยู่ในบรรจุภัณฑ์สูญญากาศอย่างดี น้ำจิ้มเข้มข้นรสชาติถูกปากถูคอลูกค้า จนต้องขอซื้อเป็นขวดกลับ “เรามีน้ำจิ้ม 3 แบบ น้ำจิ้มแดง น้ำจิ้มแจ่ว และน้ำจิ้มซีฟู๊ด เป็นสูตรน้ำจิ้มที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง เดือนนึงลูกค้าทานหมดไปหลายสิบแกลลอน” จตุโชคกล่าวต่อ เนยที่เห็นเป็นเนยสดอย่างดี ไม่ใช่เนยหลอก ๆ หรือเนยเทียม เป็นเนยสดแท้ ๆ ซึ่งช่วยชูรสชาติเนื้อให้งดงามยิ่งขึ้นไปอีก เวลาลูกค้าจะสั่งเครื่องดื่ม พนักงานจะบอกให้ลูกค้ามาสั่งที่หน้าบาร์ เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการร้านในวันนั้น “มันทำให้เราได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ได้คุยกันกับเรา เราก็จะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ลูกค้าก็จะได้เห็นว่าเรามีทัศนคติในการทำร้านอาหารยังไง เราก็แฮปปี้ ลูกค้าก็แฮปปี้” บริรักษ์กล่าว “มีลูกค้าท่านหนึ่งมานั่งทานเครื่องดื่มคนเดียวที่บาร์ พอดึกหน่อยเราก็เปิดเพลงที่น่าจะเข้ากับอายุสมัยของเขา เราเปิดเพลง Yesterday Once More ของ Carpenters ทันทีที่เนื้อร้องขึ้น ลูกค้าท่านนั้นก็ร้องไห้ เราก็ตกใจมากว่าเขาเป็นอะไร แล้วลูกค้าท่านนั้นก็เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นหมอ หมดเวลาไปกับการทำงานช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นมาตลอดชีวิต แต่เขากลับไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย ที่มานั่งที่ร้านคนเดียววันนี้ก็มานั่งคิดว่าจะหาทางยังไงให้ตัวเองมีเวลาให้กับลูกของเขาได้มากขึ้น” บริรักษ์เล่าให้ฟัง “ผมเคยเจอลูกค้าโทรมาขอทางร้านว่า ถ้าปิดร้านแล้วขอนั่งในร้านต่อได้ไหม เขาจะรอแฟน แฟนเขาไปเที่ยวคอนเสิร์ตกับเพื่อน จะเลิกดึกหน่อย พอเสร็จแล้วเขาจะไปรับแฟนกลับบ้าน แต่บ้านไกล เขาออกมาส่งแฟนแล้วยังไม่อยากขับรถกลับเลย ก็จะหาที่นั่งรอ เราก็จัดแจงให้ลูกค้าท่านนั้นนั่งรอแฟนเขาที่ร้าน พอแฟนเขาเลิกคอนเสิร์ตเสร็จ ก็โทรมาบอกให้ไปรับ เราจึงปิดร้านได้บริบูรณ์” ผู้จัดการร้านอีกท่านเล่าเสริม “ลูกค้าเวลามาร้านเราใหม่ ๆ อาจจะยังไม่คุ้นชินกับบรรยากาศร้าน พอมานั่งหน้าบาร์แล้วก็อาจจะเขิน ๆ บางทีมีลูกค้าคนอื่นนั่งอยู่ก่อนแล้ว เราอยู่ในบาร์ก็ต้องละลายพฤติกรรมให้ลูกค้าผ่อนคลาย แนะนำให้ลูกค้ารู้จักกันเอง เอาของทานเล่นจากในครัวมาให้ลูกค้าทานด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้จักกัน บทบาทของเราต้องเชื่อมความสัมพันธ์ตรงนี้ให้ได้ และบ่อยครั้ง บ่อยมากกกก ที่ลูกค้าที่ไม่รู้จักกัน จบวันด้วยการนั่งดื่มกินโต๊ะเดียวกัน โดยมีพวกเราดูแลอยู่ด้วย” คุณชาญวิทย์กำลังหยอกเล่นกับผู้เขียนอย่างสนุกสนาน (ภาพถ่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2019) "แต่ละคนเขามีปัญหาในชีวิตบางอย่าง เขาจะรู้สึกดีขึ้นถ้าได้เล่าให้ใครสักคนฟัง เราก็ดีใจนะ ที่ร้านนี้ทำให้ลูกค้าได้มีพื้นที่แบบนั้น บางคนอกหักมา บางคนเครียดกับที่ทำงาน บางคนเครียดกับที่บ้าน บางคนเครียดกับการเรียน พอจบวันนั้นแล้วเขาก็แฮปปี้มากขึ้น ส่วนใหญ่เขาจะกลับมาหาเราที่ร้านอีก มาอัพเดทให้เราฟังว่าอะไรเป็นยังไง" บริรักษ์กล่าว ถือได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ BUTCHER beef&beer พาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดไปยิ่งกว่าร้านอาหาร กับลูกค้า แต่ให้บรรยากาศเหมือนเพื่อนฝูงมานั่งคุยกัน ปรึกษาหารือกัน นับว่าเป็นมนต์เสน่ห์ที่ร้านอื่นยากที่จะเลียนแบบได้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่คุณชาญวิทย์ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก และถือเป็นคำสรุปในนิยามของ BUTCHER beef&beer ที่ว่า "เราไม่ได้มองว่า BUTCHER เป็นแค่ร้านอาหาร เราจะสร้างอะไรที่มากกว่านั้น" BUTCHER beef&beer LINE@ : http://bit.ly/2OORzt3 > มี 3 สาขา ประกอบด้วย 1. BUTCHER beef&beer สาขาเจริญราษฎร์ Facebook : https://www.facebook.com/butcherbeefandbeer โทร : 098-263-0077 พิกัด : https://g.page/butcherbeefandbeer?share 2. BUTCHER beef&beer สาขาอารีย์ Facebook : https://www.facebook.com/butcherbeefandbeeraree/ โทร: 083-607-2416 พิกัด : https://g.page/butcherbeefandbeerari?share 3. BUTCHER beef&beer สาขาแจ้งวัฒนะ Facebook : https://www.facebook.com/Butcher-Camp/ โทร : 083-432-7755 พิกัด : https://goo.gl/maps/qXe89dGDGnzqZXdM8 ภาพปก และภาพที่ 1 - 5 : "รูปภาพโดยผู้เขียน" *ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณี* หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !