ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่ชะตาแห่งจักรวาลได้ลิขิตมาพร้อมกับความอับโชค ยางรั่ว 1 ครั้ง ในขณะเดินทางปั่นจักรยานกลางแดดที่มีของหนักกว่า 10 กิโลกรัม บรรทุกอยู่บนตัวรถจักรยานคู่ใจนั้น คือเรื่องที่นักปั่นหลายท่านไม่อยากพบเจอ แต่ความอับโชค หาได้เลือกคน เวลา หรือสถานที่ไม่ เฉกเช่นชายที่ถูกสาปผู้นี้ "เสือฮาร์ท" ผู้ที่จมอยู่ในหลืบลึกของการปะยางจักรยาน ไม่ว่าจะเป็นทริปทัวร์ริ่ง 2 วัน 1 คืน ระยะทาง 200 กิโลเมตร ก็ต้องมียางรั่วประมาณ 3-5 ครั้ง หรือ ทริป 1 วัน 60 กิโลเมตร อย่างน้อย 1-2 ครั้ง เสมอ ไม่น่าเชื่อแต่คือเรื่องจริงครับ ถ้าผมจะบอกว่า เคิร์ท โคเบน ราชาเพลงกรันจ์ในตำนานได้กลับมาจากคลับ 27 แล้วเดินอยู่ที่ตลาดยิ่งเจริญนั้น ยังจะมีความเป็นไปได้เสียมากกว่า ฮ่า ฮ่า... เรื่องตลกร้ายนี้ ไม่ตลกเลยในสถานการณ์จริงกับฝูงเสือตีนถีบ เพราะมันทรมานร่างกาย และมีความเสื่ยงเป็นอย่างมากกับการเดินทางโดยจักรยานบนท้องถนน ไม่ว่าระยะทางจะมากหรือน้อยเพียงใดก็ตามภาพถ่ายจากผู้เขียน แต่ในอีกหนึ่งมุมของความโชคดี คือ วิวัฒนาการในการปะยางของเสือฮาร์ท ดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากฝึกฝนในสถานการณ์จริง ๆ แทบทุกทริป ทำให้เกิดความชำนาญสูง ผมจึงอยากเชิญชวนให้ท่านนักปั่นมือใหม่ได้เรียนรู้เทคนิคการปะยางจักรยานด้วยตนเองครับ (ฝึกฝนที่บ้านน๊ะครับ ไม่จำเป็นต้องทำแบบเดียวกับเสือฮาร์ท) เตรียมอุปกรณ์สำคัญสำหรับปะยาง (สำหรับทำที่บ้าน) ดังนี้1. ไม้งัดยาง (ควรมีอย่างน้อย 2 ชิ้น) ลักษณะเด่นจะมี 2 ด้าน ที่ไม่เหมือนกัน บริเวณส่วนปลายข้างหนึ่งจะมีลักษณะแบนและเอียงเล็กน้อย เพื่อสำหรับใว้งัดขอบยาง และส่วนปลายอีกข้างหนึ่ง จะมีลักษณะโค้งงอคล้ายตะขอ สำหรับยึดเกี่ยวกับซี่ลวดของล้อจักรยานภาพถ่ายจากผู้เขียน2. กระดาษทรายสำหรับขัดไม้ เลือกเบอร์หยาบปานกลาง ใว้สำหรับขัดพื้นผิวยางใน3. แผ่นยางสำหรับปะซ่อม4. กาวยางภาพถ่ายจากผู้เขียน5. ปากกาลูกลื่น6. เข็ม7. กระบอกสูบลม สำหรับนักปั่นควรต้องมีสูบ 2 แบบ คือ สูบแบบพกพา และ สูบใหญ่ใช้ที่บ้านภาพถ่ายจากผู้เขียน8. อุปกรณ์ใส่น้ำ จะเป็นขัน ถังน้ำ กะละมัง อื่น ๆ แต่ในการปั่นเดินทางใครจะพกแบบใด ผมก็ไม่ขัดศรัทธาครับ9. ยางเก่า ทั้งยางนอกและยางใน ถึงจะเป็นยางเก่า แต่ก็ต้องสามารถเก็บลมได้เป็นอย่างดีและไม่รั่วซึมการจำลองสถานการณ์ การสร้างสถานการณ์จำลองให้เหมือนจริงมากที่สุด จะเป็นผลดีและเพิ่มทักษะต่อนักปั่นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ดังนั้น ควรให้คนในบ้านมาช่วยกันสร้างสถานการณ์ให้ยากขึ้น โดยการเปลี่ยนล้อหลังเป็นยางเก่าที่เตรียมใว้ แล้วทำให้ยางของล้อหลังนั้นรั่ว เพราะมันถอดยากกว่าล้อหน้าเล็กน้อย เนื่องจากมีเฟือง และโซ่ ที่ต้องปลดเพิ่ม "โอ้ว... ถอดยากแล้วแนะนำทำให้ลำบากเพื่ออะไร ?" ก็ผมบอกแล้วว่านี่คือการฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญครับ ว่าแล้ว ก็เรียกนักแสดงในบ้านผู้ถูกเลือกออกมาเลยครับ ยื่นเข็มให้กับนักแสดงทันที หลังจากนั้นตัวเราเองก็หันหลังให้กับรถจักรยานพร้อมปิดตาไปด้วย เมื่อพร้อมแล้ว ก็บอกนักแสดงให้ใช้เข็มทิ่มเข้าไปที่ยางหลัง 1 จุด บริเวณใดก็ได้โดยไม่ต้องบอกเรา (ในกรณีที่ยางแข็งเกินไปเข็มทิ่มไม่เข้า ก็ให้ใช้คีมจับเข็มแล้วทิ่มอีกครั้ง) เสร็จแล้วดึงเข็มออก ไล่ลมออกจากล้อให้มากที่สุด หลังจากนั้นก็หมุนล้อหลังเพื่อเพิ่มความยากในการค้นหารอยรั่วภาพถ่ายจากผู้เขียนขั้นตอนการปะยาง1. หารอยรั่วที่ยางนอก เมื่อพบว่ายางรั่ว ให้ค่อย ๆ หมุนล้อทีละนิดเพื่อสังเกตสาเหตุของการรั่ว เพราะในสถานการณ์จริงยางอาจถูกของมีคม เช่น เศษแก้ว เศษหินแตก ตะปู เส้นลวด ไม้แหลม และอื่น ๆ อีกมากมายที่เราคาดไม่ถึง ฝังบริเวณบนผิวหน้าของยางนอก ในกรณีที่ไม่พบสาเหตุ ก็ให้ถอดล้อออกมาจากตัวรถจักรยานเพื่อมานั่งหาสาเหตุให้ละเอียดอีกครั้ง2. ถอดยางออกจากล้อ เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีเศษของมีคมติดอยู่บนผิวยางนอก ก็ใช้ไม้งัดยางโดยนำด้านที่แบนใส่เข้าไปในระหว่างร่องขอบยางกับขอบล้อ แล้วงัดขึ้น หลังจากนั้นใช้ปลายอีกข้างหนึ่งที่เป็นตะขอเกี่ยวกับซี่ลวดใว้เพื่อยึดให้แน่น วิธีนี้เป็นการนำวิถีก่อนการขยายขอบยางให้เกิดร่องกว้าง ต่อไปให้ใช้ไม้งัดยางอีกชิ้นมางัดทำเช่นเดียวกันกับเมื่อสักครู่นี้ แต่ให้เว้นระยะห่างจากจุดแรกประมาณ 1 คืบ เมื่อทำเสร็จแล้วจะสังเกตได้ว่าขอบยางในจุดที่ 1 และจุดที่ 2 จะเริ่มหลุดออกมาจากขอบล้อ หลังจากนั้นให้นำไม้งัดยางจากจุดที่ 1 มางัดในจุดที่ 3 และทำเช่นนี้ไปจนกว่าขอบยางจะหลุดออกจากล้อทั้งหมดภาพถ่ายจากผู้เขียน3. หารอยรั่วที่ยางใน เผยให้เห็นยางในแล้วเมื่อถอดยางนอกออกมา แต่ยังไม่สามารถนำยางในออกมาจากขอบล้อได้ถ้าท่านไม่ได้คลายแหวนปลดล็อคที่บริเวณก้านจุกเติมลมเสียก่อน เมื่อนำยางในออกมาแล้ว ให้ท่านกลับไปหาสาเหตุของการรั่วที่บริเวณผิวหน้าของยางนอกอีกครั้งอย่างละเอียด และต้องตรวจสอบผิวภายในของยางนอกเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีของมีคมทะลุผ่านเข้ามาฝังตัวใต้ผิวยางได้ โดยใช้วิธี ตั้งยางนอกให้ตรง ใช้มือทั้งสองข้างจับยางบริเวณเดียวกันแต่แบ่งซ้ายขวา นำนิวโป้งวางใว้ที่หน้ายางแล้วอีกสี่นิ้วที่เหลือลูบผิวยางด้านในของยางนอก โดยให้เริ่มจากปลายนิ้วทั้งสองข้างชนกัน ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างลูบผิวยางด้านในกลับเข้ามาที่ฝ่ามือ (ถ้าพบของมีคมทะลุผ่าน จะรู้สึกมีปุ่มเล็ก ๆ จากการสัมผัสที่ปลายนิ้ว) ค่อย ๆ ทำอย่างช้า ๆ และทำจนครบรอบวงยาง 3.1 ฟังเสียงลมรั่วที่ยางใน ให้นำยางในมาเติมลมจนพองขึ้น แล้วนำหูไปแนบใกล้ยางเพื่อฟังเสียงลมรั่ว วิธีนี้มักใช้กันในกรณีฉุกเฉิน (ส่วนใหญ่ก็ฉุกเฉินทุกครั้ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า...) บางกรณีอาจไม่ได้ยินเสียงเนื่องจากรูรั่วเล็กมากเกินไป ในจุดต้องสงสัยแนะนำให้ท่านใช้น้ำลาย ใช่ครับน้ำลาย รีดน้ำลายออกมา 1 ก้อนเล็กแล้วนำไปใว้บริเวณปลายริมฝีปาก จากนั้นใช้ปลายนิ้วชี้ปาดน้ำลายออกมาเพื่อนำพาไปสู่จุดต้องสงสัยของรูรั่ว ถ้าบริเวณนั้นมีการรั่วเกิดขึ้น น้ำลายจะเคลื่อนที่ผลักตัวออกจากรูรั่ว 3.2 นำยางในจุ่มน้ำ ไม่ต้องลำบากถ้ามีแหล่งน้ำชีวิตก็ง่ายขึ้น เช่นกันครับ เติมลมให้พองขึ้น แล้วนำไปจุ่มน้ำทันที ค่อย ๆ สังเกตดูฟองอากาศทุกขนาดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ที่ผุดขึ้นมาก็คือรูรั่ว ในบางกรณีฟองอากาศเล็กมากเพราะเกิดจากรูรั่วที่เล็ก ท่านจำเป็นต้องสังเกตให้ดีครับ ค่อย ๆ ตรวจสอบครับ ไม่คุ้มถ้าจะต้องถอดยางออกมาตรวจสอบและปะกันใหม่อีกครั้ง4. ทำสัญลักษณ์สำหรับรอยรั่ว เมื่อพบรอยรั่วแล้ว ให้ใช้ปากกาวงกลมล้อมรอบจุดรั่วให้เห็นเด่นชัด เพื่อจะได้ปะยางได้ตรงพอดีกับบริเวณจุดรั่ว5. ใช้กระดาษทรายถูผิวยางใน เมื่อผิวยางหยาบขึ้น มันจะสร้างแรงยึดเกาะระหว่างผิวยาง กาวยาง และแผ่นยางปะซ่อมให้มีความแนบแน่นภาพถ่ายจากผู้เขียน6. ทากาวบริเวณรอยรั่ว ควรทากาวยางให้พอดีกับขนาดความกว้างของแผ่นยางปะซ่อม ถ้าทากาวเกินออกมากว้างมากเกินไป อาจทำให้ยางในผนึกติดกับยางนอกและจะดึงออกยาก7. ผนึกแผ่นยางปะซ่อม นำแผ่นยางปะซ่อมมาเตรียมใว้โดยการดึงแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ออก รอดูเนื้อกาวที่ทาใว้บนรอยรั่วของยางให้สีมีความขุ่นและหนึดแห้งหมาด ๆ จึงค่อยนำแผ่นปะซ่อมเข้าไปผนึก หลังจากนั้นใช้มือกดใว้ประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าผนึกแนบแน่น (ห้ามติดแผ่นยางปะซ่อมขณะที่กาวยังไม่แห้ง เพราะจะผนึกไม่ได้) แผ่นยางปะซ่อมมีสองด้านที่ไม่เหมือนกัน อีกด้านหนึ่งจะมีแผ่นพลาสติกบางติดอยู่ ไม่ต้องลอกออกก็ได้ครับ มันจะเปื่อยเมื่ออยู่ภายในยางเองและไม่มีผลใด ๆ กับยางครับภาพถ่ายจากผู้เขียน8. การประกอบยางกลับ หลายท่านบอกว่าขั้นตอนนี้ไม่ต้องบอกก็ได้ ก็แค่ทำแบบเดิมแต่ย้อนกลับ "ไม่ใช่ทั้งหมดครับ" เพราะมีเทคนิคเพิ่มเติม ถ้าท่านไม่ได้ทำสิ่งต่อไปนี้ จะทำให้ท่านเสียเวลาเพิ่มขึ้นและต้องกลับมาทำอีกแน่นอนครับ 8.1 ใส่ยางนอกเข้าไปที่ขอบล้อครึ่งวง 8.2 ใส่ยางใน จะต้องเติมลมที่ยางใน ให้พองตัวขึ้นรูปเล็กน้อยเพื่อลดการบิดตัวของยางเมื่อใส่กลับเข้าไป และก่อนจะใส่ยางในเข้าไป ควรต้องใช้มือกำใว้ที่ยางในแล้วรูดให้ทั่ววงยางวิธีนี้จะทำให้เศษสิ่งสกปรกหลุดออกจากยางเพราะขณะที่ท่านปะยางอยู่นั้น ท่านนั่งปะยางบนพื้น หลังจากนั้นให้นำยางในใส่เข้าไปโดยเริ่มจากใส่ทางจุกเติมลมก่อน 8.3 งัดยางนอกเก็บเข้าขอบล้อ ทำเหมือนตอนงัดออกมาแต่กลับหัวของไม้งัดยางเพื่องัดยางเข้า ในตอนสุดท้ายของการงัดยางเข้า ท่านจะสังเกตได้ว่าขอบยางนอกช่วง 1 คืบสุดท้ายนั้นมีความตึงมากและไม่สามารถนำยางเข้าไปได้โดยง่าย อาการเช่นนี้เป็นเรื่องปกติครับ ท่านต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นในการสอดไม้งัดยางเข้าไประหว่างขอบยางกับตัวล้อให้ได้ แล้วออกแรงงัดยางกลับเข้าไปครับ 8.4 จัดทรงยาง หลังจากที่ใส่ยางได้แล้วไม่ควรเติมลมยางและนำล้อเข้าประกอบกับตัวรถทันที เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น อาการยางไม่ขึ้นขอบซึ่งเป็นเรื่องที่นักปั่นทั้งหลายต้องพบเจอ อาการนี้ทำให้หน้ายางเบี้ยวส่งผลให้รถจักรยานแกว่งในขณะปั่นและมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นจะต้องแก้โดย ใช้น้ำสบู่เข้มข้นหยอดลงไประหว่างขอบยางและขอบล้อ หยอดให้ทั่ววงยางทั้งสองข้าง หลังจากนั้นก็ใช้มือขยับยางไปมาซ้ายขวาให้ทั่ววงยาง เสร็จแล้วจึงเติมลมยางและนำเข้าไปประกอบกับตัวรถ (ตรวจสอบโดยการหมุนล้อ และสังเกตดูว่าหน้ายางแกว่งหรือไม่ ถ้าหน้ายางแกว่งก็ให้ถอดล้อออกมา ปล่อยลมยางออก 80% แล้วเริ่มขั้นตอนหยอดน้ำสบู่อีกครั้ง) ภาพถ่ายจากผู้เขียนพรสวรรค์อยู่ที่การฝึกฝน หมั่นฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ สิ่งที่ไม่มีผู้ใดพรากไปจากท่านได้ก็คือความรู้ จงเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตแห่งปัญญาที่ถูกต้องอย่างถ่องแท้ในหลากหลายมิติ ทุกอณูแห่งความรู้นั้นจะนำพาท่านผ่านวิกฤตไปได้อย่างสมบูรณ์ครับ