สวัสดีทุกคนอีกครั้งค่ะ เรากลับมาพบกันอีกแล้ว ในบทความแรกลืมแนะนำตัวไปเลย ว่าเราชื่อ “กล้วย” เป็นสาวออฟฟิศ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ วันนี้กล้วยมีประสบการณ์มาบอกเก้าเล่าสิบให้ทุกคนได้อ่านอีกเช่นเคยค่ะ เรื่องราวที่จะทำให้ทุกคนมีมุมมองใหม่ ๆ สำหรับการเป็นเเฟนคลับ หลายคงกำลังงงว่า เเฟนคลับ ติ่งอะไร ? เราจะมาคำตอบกันค่ะว่าติ่งอะไรนะ ? ที่ให้ความสุขกับเรา ใช่ติ่งศิลปินไหม? ตอบเลยว่าใช่ค่ะ ..... สิ่งที่จะพูดถึงวันนี้คือ “การเป็นเเฟนคลับ หรือที่เรียกสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า การติ่งศิลปิน” กล้วยเชื่อว่า หลายคนคงเป็นเหมือนกล้วย ที่มีความชื่นชอบศิลปิน บางคนชอบจากการร้องเพลง บ้างคนชอบศิลปินจากการแสดง บ้างชอบตรงที่เขาน่ารัก เป็นกันเอง และเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายที่เราชื่นชอบคนคนหนึ่ง เล่าย้อนกลับไปในช่วงที่เราเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้เราไปดูหนังเรื่องหนึ่ง จากคำแนะนำขอเพื่อน ช่วงนั้นเป็นวันแรกที่หนังออนแอร์ทางโทรทัศน์ เราใจจดใจจ่อกับการดูมาก พอดูจบ EP. แรก ปรากฏว่า เราดันอยากดูเรื่องนี้ต่อไปๆ รู้ตัวอีกทีทุกอาทิตย์ก็ต้องมานั่งรอดูหนังเรื่องนี้แล้ว หนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความรัก แบบชายรักชาย เล่าเรื่องราวของการรับน้องในรั้วมหาวิทยาลัย มีพี่อาทิตย์ ที่เป็นรุ่นพี่ ก้องภพ เป็นนักศึกษารุ่นน้อง ปี 1 หรือที่ทุกคนอาจคงเคยคุ้นหูเรื่อง SOTUS พี่ว๊ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่งเราดูหนังเรื่องนี้จนมาถึงจุดนึงที่เราคิดว่า เห้ย !! เราอยากไปเจอพี่สิง พี่คริส เราอยากไปเจอเขาสักครั้งในชีวิต เราชอบเคมีของเขาสองคนที่แสดงออกมาผ่านท่าทาง สีหน้า แววตาผ่านการแสดง จนต้องไปปรึกษาเพื่อนที่เคยเป็นแฟนคลับศิลปินว่าต้องทำยังไงบ้าง เพื่อนแนะนำว่าให้ไปเล่นทวิตก่อนอันดับแรก เราเลยหัดเล่นทวิต แรก ๆ ก็เล่นไม่เป็นอ่ะ เล่นไปงงไป อิหยังอ่ะ แบบนี้เลย 55555 จนกระทั่งเราต้องฟอลทวิตของศิลปินสองคนนี้มาเรื่อย ๆ แล้วไปไล่ดูว่างานที่เขาไปออกไปที่ไหนบ้างนะ บอกตามตรงว่า ชีวิตของเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนที่กรุงเทพ ไม่ค่อยจะรู้ว่าต้องขึ้นรถอะไร ยังไงบ้าง ไปไหนไม่เป็น ต้องมาเรียนรู้ทุกอย่างจากการติ่ง ในที่สุด วันนั้นก็มาถึงค่ะ วันที่เรารอคอย เราไปอ้อนวอนให้น้องที่สนิทกับเรา เรียนสาขาเดียวกับเราพาเราไปหาพี่สิงพี่คริส เพราะเราอยากเจอเขาสักครั้งจริง ๆ นะ แค่ครั้งเดียวก็ได้นิเนอะ 5555 จนน้องใจอ่อนพาไป วันนั้นเรารีบขึ้นรถไปแต่เช้า ไปถึงห้างคือคนเยอะมาก เห็นป้ายไฟคำว่า คริส สิงโต ตัวใหญ่ๆ สวยอ่ะ (นี่บอกเลยเพิ่งเคยเห็นของจริง 5555) เราเดินเข้าไปในดงแฟนคลับอย่าง เอ๋อ ๆ ไม่รู้จักใครเลย แต่วันนั้นกลับเป็นวันที่เรามีความสุขมาก ๆ อีกวันเพราะได้เห็นเขามาร้องเพลง มาเล่นเกมส์ มีเสียงกรี๊ดดังจากแฟนคลับที่มารอ สายตาทุกคนจับจ้องไปที่เขาสองคน พี่เขาดูหล่อมาก หล่อแบบหล่อจริง ๆ กล้องทุกตัวรัวๆๆ ไปที่เขาสองคนบนเวที พอจบงานเราก็มีโอกาสได้ไปที่จุดนัดพบแฟนคลับของบ้านพี่สิง (ลืมบอกไป เราเมนพี่สิงนะ ส่วนพี่คริสเราก็รักมาก 5555) เราได้เห็นความน่ารัก ความอ่อนน้อมของผู้ชายคนนี้ ที่เขานั่งลงไปกับพื้นแล้วมีแฟนคลับถ่ายรูปรวมด้วย เราจำภาพนั้นไม่เคยลืม ได้แต่คิดในใจว่า ทำไมเขามีเสน่ห์จังนะ .....วันเวลาผ่านไปจนกระทั่งรู้ตัวอีกที ทุกคนเคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ “ครั้งเดียว ไม่มีอยู่จริง”แฮร่....เรากลายเป็นแฟนคลับที่เวลาพี่เขาสองคนมีงานที่ไหน เราก็จะไป (มีเพื่อนเรียนสาขาเดียวกันเป็นเมนพี่คริสด้วยนะ เลยลากกันไปตลอด) เราไปงานที่หนึ่ง งานที่สอง งานที่สาม งานที่สี่ ........ และงานที่มีอีกบลา ๆ เวลาเราไปเราจะนับทุกครั้งว่าเราเจอกี่ครั้งแล้วนะ ถ่ายรูปมานับตลอดว่ากี่ครั้ง ตอนนี้รวมแล้วก็น่าจะร้อยกว่า ๆ แล้ว หู้ววว...ไม่น่าเชื่อ จากเด็กที่ไปไหนไม่ค่อยเป็น ไปทุกที่เลยที่นี้ 555 เราก็ไปหาพี่เขาสองคนเรื่อย ๆ โดยที่ตอนเรียนเราคิดนะว่า ถ้าเราไปติ่งแบบนี้เราจะจัดการชีวิตตัวเองยังไงดีบ้างนะ เราจะต้องแบ่งเวลายังไง นั่นคือจุดเริมต้นเลย ที่เราคิดว่า เราติ่งได้ เราก็ต้องเรียนให้ดี อย่าให้ใครมาว่าได้ว่า การติ่งทำให้เสียการเรียน จากสิ่งนี้มันทำให้เราขยันมากขึ้นกว่าเดิม เวลาเรียนเราตั้งใจเรียน เราทำงานทุกอย่างให้เสร็จก่อนทุกครั้งก็จะไปติ่งจะว่าไป ดารา ศิลปินที่เราชื่นชอบนี่เหมือนเป็นพลังบวกมาก ๆ สำหรับเรา มีเขาเป็นแรงบันดาลใจในการเรียน เป็นแรงบันดาลใจในทุกวันที่ตื่นมา ไม่ว่าจะเจอปัญหาที่ท้อ หมดกำลังใจ เหมือนแค่ได้มองรูป ไปเจอหน้า ก็สามารถเป็นพาวเวอร์แบงค์ที่ชาร์จแบตเราเต็มกลับมาทุกครั้ง เราได้มิตรภาพจากพี่ เพื่อน น้อง ที่รู้จักและสนิทกันตอนไปติ่ง พวกเขากลายเป็นคนสำคัญของเราขึ้นเรื่อย ๆ เราสนุกด้วยกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง ทุกคนมาจากหลากหลายอาชีพนะ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเหมือนกันคือ อยากซัพพอร์ต เป็นกำลังใจ ให้ศิลปินที่เราชื่นชอบ ให้เขาได้มีคนรักเยอะ ๆ ยิ้มมาก ๆ ในทุกวัน แค่นั้นเอง ......ระหว่างปิดเทอมจากการเรียนเราก็ทำงาน เก็บเงิน ซื้อกล่อง จนเรามีกล้องเป็นของตัวเอง เมื่อก่อนเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป เล่นกล้องไม่เป็น จนมาติ่งทำให้เราชอบที่จะถ่ายรูป เราพยายามพัฒนาการถ่ายรูปของเรามาเรื่อย ๆ เราชอบนะที่ทุกคนชอบรูปที่เราถ่าย มันทำให้เรามีกำลังใจในการถ่ายรูปทุกครั้งเลย ....เราใช้ชีวิตทั้งเรียนและติ่งไปด้วยมาเกือบสองปีกว่า ๆ จนกระทั่งเราเรียนอยู่ปีสี่ ที่ใคร ๆ ต่างบอกว่า ปีสี่ ของมหาวิทยาลัย เป็นปีที่หนักสุดแล้ว เราว่าไม่ซะทีเดียวนะ สำหรับเราแล้วมันคือ ปีที่เราเรียนไปมีความสุขไป เราได้เลือกทำวิจัยในเรื่องที่เราอยากทำ และชอบมันจริง ๆ เราจับคู่ทำวิจัยกับเพื่อน และใช่ค่ะ...เราทำวิจัยเกี่ยวกับการถ่ายทอดภาพสะท้อนผ่านบท ตัวหนังสือ เรื่อง SOTUS มันทำให้เรากับเพื่อนทำงานชิ้นนี้ด้วยความสุข และสนุกไปกับสิ่งที่เราทำ แต่เราก็ยังคงไม่เลิกติ่งนะ เราทำงานชิ้นนี้ไป ติ่งไป หอบงานไปติ่งด้วย นั่งทำเรื่อย ๆ เวลาว่าง แบ่งเวลาดี ๆ ซึ่งไม่ยากเลย... จนในที่สุด เรากับเพื่อนเป็นวิจัยเล่มแรกของสาขาที่อาจารย์อนุมัติผ่าน ให้เข้าเล่ม เราดีใจแบบบอกไม่ถูก มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่า เราติ่งไปเรียนไป ก็ทำได้นะ และที่น่าดีใจไปกว่านั้นคือ เราเรียนจบด้วยเกียรตินิยม อันดับ 1 เราทำได้แล้ว วันที่ผลการเรียนออกนอกจากพ่อแม่ ครอบครัวแล้ว เรารีบเมนชั่นทวิตไปบอกพี่สิงพี่คริสว่า เราเรียนจบแล้วนะ ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราตลอดระยะเวลาที่เราไปหา ไปเจอทุกครั้ง ช่วงชีวิตเวลาที่เราเรียน เรามีพี่สองคนเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับเรามากเลยนะ.... จนตอนนี้เราเรียนจบและมีงานทำตามที่ตัวเองตั้งใจไว้ เรายังคงคิดถึงการติ่งเสมอ จริงนะเคยมีพี่หลาย ๆ คนพูดไว้ว่า เวลาเรียนอยากทำอะไรให้รีบทำ เพราะเรายังมีเวลา เดี๋ยวพอทำงานเราจะมีเวลาน้อยลง การไปหา ไปเจอพี่ทั้งสองคน อาจลดน้อยลงไป ไม่ได้ไปเจอ ไปถ่ายรูปในทุกงานเหมือนตอนยังเรียนอยู่ แต่เราดีใจที่เวลาเรากลับไปที่บ้านหลังนี้ยังมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง มีกำลังใจที่เป็นแรงบันดาลใจจากพี่สองคนอยู่เสมอ ...... (อันนี้คือคิดถึงมากจริงๆ ได้ไปแค่บางงาน...แง๊...)จากเด็กที่ไม่เข้าใจคำว่า แฟนคลับ จากวันนั้นเดินทางมาจนถึงวันนี้เพราะคำว่า แฟนคลับ นี่แหละเป็นพลัง เป็นไดอารี่ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา การเป็นแฟนคลับ หรือติ่งศิลปินที่ชื่นชอบอาจจะดูไร้สาระในสายตาคนอื่น แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสิ่งที่เราเป็นเป็นแค่ความชอบ เหมือนที่บางคนชอบเล่นเกมส์ ชอบดูหนัง ชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง ทั่ว ๆ ไป ต่างกันตรงที่ความชอบของแต่ละคนนั้นต่างกัน ทุกความชอบต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมัน แต่หากเราทำความชอบในเรื่องนั้น ๆ มาเป็นแรงผลักดัน จะทำให้เรารู้ว่า แรงบันดาลใจสามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งที่เราชอบเสมอหากวันนี้ทุกท่านที่อ่านอยู่ได้ใกล้ชิดกับเพื่อน น้อง พี่ หรือคนในครอบครัว คนที่รู้จัก กำลังเป็นแฟนคลับใครสักคน กล้วยเชื่อว่า ทุกคนจะต้องได้รับมุมมองใหม่ ๆ กับการติ่ง จากเรื่องราวนี้ที่ถ่ายทอดให้ทุกคนอ่าน อย่าลืมนะคะ .... “ทุกความชอบ มีแรงบันดาลใจดี ๆ ซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ” ปล. ขอบพระคุุณรูปภาพจากเเฟนคลับทุกท่านนะคะ เครดิตภาพเราใส่ไว้ให้เเล้ว เเละเครดิตก็จะอยู่บนภาพด้วยนะคะ อีกภาพคือภาพหน้าปก ขอบพระคุณรูปภาพจาก ไอจี @__singto ส่วนรูปไหนที่มีเครดิตรูปเป็น BananaTIDA เเละ GLUAYTIDA รูปนั้นเราถ่ายเองทั้งหมดเลย. ปล. เกือบลืมบอกไปว่า หากใครยังไม่เคยดูเรื่อง SOTUS พี่ว๊ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง สามารถหาดูได้นะคะ ส่วนภาค 2 ต่อกัน ชื่อเรื่องว่า SOTUS S มีทั้งเเบบหนังเเละนิยายเลยค่ะ....... แล้วมาพบกันใหม่ ในบทความครั้งหน้านะคะ สามารถเข้ามาพูดคุยได้ทางเพจ ตามใจเที่ยว หรือ ทางเฟสส่วนตัว : ธิดาพร ร’ นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันน๊า..... ><