เชื่อว่าใครหลายๆคนก็ชอบดูหนังผีหรือหนังสยองขวัญใช่ไหมคะ วันนี้เราจะมาแชร์ 9เทคนิคที่ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้เพื่อทำให้ภาพยนตร์สนใจมากขึ้น จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ1. สีและบรรยากาศ ผู้สร้างมักจะใช้บรรยากาศหรือเหตุการณ์ที่ผู้ชมสามารถจินตนาการตามได้ว่าหากผู้ชมอยู่ในสถานที่ที่มีบรรยากาศแบบนี้ ผู้ชมจะรู้อย่างไร ซึ่งจะทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วมไปกับภาพยนตร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น และการใช้สีทางจิตวิทยาก็เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างดีเช่นกัน เช่น สีดำ ที่ทำให้นึกความมืดมิด ความชั่วร้าย ความกลัว หรือสีม่วง ที่ทำให้รู้สึกลึกลับน่าค้นหา เย้ายวน เวทมนต์2. รายละเอียดเล็กๆ ในบางครั้งหนังอาจใส่รายละเอียดเล็กๆเข้ามา ซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อฉากนั้นๆ แต่ความจริงรายละเอียดเล็กๆนั่นแหละเป็นตัวกระตุ้นคุณอยู่ตลอด หรือเป็นการบอกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปก็ได้3. Jump Scare เป็นเทคนิคที่ทำให้ผู้ชมตกใจกับสิ่งที่โผล่เข้ามาโดยที่ผู้ชมนั้นยังไม่ได้ตั้งตัว4. ความไม่ปกติ ความไม่ปกติที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดได้จากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น เสียงที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ใช่เสียงที่เราจะได้ยินในชีวิตประจำวัน คำพูดและการกระทำของตัวละครที่ดูไม่น่าไว้ใจ อีกทั้งการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติไป เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ในชีวิตประจำวันดังนั้นเมื่อมันเกิดขึ้นอย่างไม่ปกติ ผู้ชมจึงรู้สึกกังวลและสบายใจ5. เลือด โดยปกติเลือดคือสิ่งที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเนื่องจากการเกิดบาดแผล อุบัติเหตุ กระทั่งการฆาตกรรม เพราะฉะนั้นเลือดจึงให้ผู้ชมรู้สึกถึงอันตราย ความเจ็บปวดของตัวละคร และทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา6. ปมหลังและความลึกลับของตัวละคร การที่ผู้สร้างไม่ได้เฉลยอดีตทั้งหมดของตัวละครก็เพื่อให้ตัวละครนั้นมีความลึกลับ น่าค้นหา และอาจมีความดำมืดในจิตใจที่จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น 7.ความรู้สึกของตัวละคร การที่ตัวละครถ่ายทอดความรู้สึกออกมาไม่ว่าจะผ่านการใช้สายตา การกระทำ หรือการบอกเล่า ก็ทำให้ผู้ชมมีความเข้าอกเข้าใจและเผลอนำเอาอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมาประกอบกับประสบการณ์ของตนเอง ผู้ชมจึงเกิดความรู้สึกร่วมไปตัวละครและอินกับเรื่องราวนั้นๆมากขึ้น8. ความไม่รู้ ความไม่รู้เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์เพราะจะทำให้มนุษย์เกิดการจินตการขึ้นมาเอง และเทคนิคนี้ก็เป็นการใช้จินตการของผู้ชมทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกกลัว เพราะผู้ชมไม่รู้ว่าสิ่งๆนั้นคืออะไร หรือกำลังจะทำอันตรายต่อตัวละครหรือไม่9. negative space เป็นหลักการจัดองค์ประกอบภาพชนิดหนึ่ง โดยจะเรียกส่วนที่เป็นวัตถุหลักว่า positive space ซึ่งเป็นจุดโฟกัสของภาพ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน และเรียกพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นจุดโฟกัสของภาพว่า negative space ซึ่งหลักการของเทคนิคนี้คือการทำให้ negative space มีมากหรือน้อยเกินไป โดยเมื่อภาพมี negative space มาก ก็จะทำให้ภาพดูโดดเดี่ยว เคว้งคว้าง หรือเมื่อภาพมี negative space น้อย ก็จะทำให้ภาพเกิดความรู้สึกอึดอัดช่วงขอแชร์ส่วนตัวทีเป็นคนไม่ได้ดูหนังผีบ่อยๆ(แต่ก็ชอบดูนะ) เพราะดูทีไรก็หลอนไปนานนนน ส่วนเทคนิคที่ทีคิดว่าทำให้ทีติดตามากๆก็น่าจะเป็นการที่ตัวละครเริ่มพูดอะไรแปลกๆหรือมีท่าทางที่แปลกไป(รวมถึงท่าทางหลอนๆอย่างการบิดเบี้ยวในการขยับตัว) เพราะมันทำให้ทีเริ่มไม่ไว้ใจตัวละครนั้นแล้วก็เริ่มกลัวตัวละครนั้นขึ้นมาแถมติดตามาอย่างนานเลย อีกอย่างที่ทีกลัวแล้วก็ตกใจมากๆก็คือ jump scare เพราะทีก็เป็นคนขี้ตกใจในระดับนึงเลย5555 แล้วก็เทคนิคอื่นๆทีว่ามันเป็นองค์ประกอบที่ผู้สร้างได้ใส่มาแต่เราเองก็ไม่ได้ทันสังเกตหรือวิเคราะห์ในขณะนั้น แต่ไม่ว่าเทคนิคไหนก็ทำให้หนังกลมกล่อมและน่ากลัวมากขึ้นทั้งนั้น หากผู้อ่านมีเทคนิคไหนจะแชร์หรืออยากแนะนำหนังผีน่าดูสำหรับฮาโลวีนนี้ก็สามารถแสดงความคิดเห็นมาในช่องคอมเมนต์ได้เลยนะคะ🎃👻 เครดิตภาพ ภาพปก - trexภาพที่1 - upklyak / freepik.comภาพที่2 - macrovecter / freepik.comภาพที่3 - upklyak / freepik.com ภาพที่4 - upklyak / freepik.com จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !