เมื่อฉันต้องออกไปซื้อของในช่วง COVID -19 โควิด-19 กลายเป็นชื่อที่ทุกคนทั่วโลกรู้จัก ซึ่งทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองไปพอสมควรเลย จากคนทำงานก็กลายเป็นได้พักผ่อนเฉยเลย จากที่ไปเดินเล่น ไปเที่ยวได้ กลายเป็นต้องมากักตัวอยู่ในห้อง ซึ่งยอมรับว่าในตอนแรกมีการปรับตัวค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน แต่พอผ่านไปซักพักหนึ่งก็พบว่ามีหลายอย่างที่สามารถทำแก้เบื่อได้ในระหว่างที่ต้องกักตัว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีการออกไปข้างนอกเพื่อซื้อของกิน ของใช้บ้างในหลายๆวันครั้ง แต่ว่าเราเป็นหนึ่งคนที่เสพย์ข่าวโควิดค่อนข้างเยอะทำให้รู้สึกวิตกกังวลอยู่พอสมควรเวลาที่ต้องออกไปข้างนอกเจอคนเยอะๆ โดยแต่ละครั้งที่เราจะออกไปซื้อของข้างนอกเราจะมีไอเทม ประจำตัวก็คือ หน้ากากอนามัย, แอลกอฮอล์เจล, สเปรย์แอลกอฮอล์ และถุงมือพลาสติก อาจจะดูค่อนไปทางวิตกกังวล แต่กันก็ไว้ก่อน ก็ย่อมดีกว่าแก้ใช่ไหมล่ะครับ เมื่อของครบแล้วก็ออกไปซื้อของกันได้แล้ว โดยที่เราเลือกไปหาซื้อของแถวซูเปอร์มาร์เก็ตย่านบางนา ซึ่งมีของให้เลือกเยอะพอสมควร แต่ว่าเมื่อมาถึงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกก็พบว่า... ทุกคนใส่หน้ากากกันทุกคน แต่พบว่าคนค่อนข้างเยอะพอสมควร เกรงว่าจะไม่สอดคล้องกับนโยบาย Social Distancing ที่มีการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เราเลยเปลี่ยนไปซูเปอร์มาร์เก็ตอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีคนไม่เยอะมากแทนเพื่อสนองนโยบาย Social Distancing กันสักหน่อย และเมื่อผ่านจุดคัดกรองอุณหภูมิเรียบร้อย ก็ขออนุญาตใส่ถุงมือก่อนเลยแล้วกันครับ แต่ด้วยความวิตกกังวลของตัวเอง แม้ว่าทางห้างจะมีการเช็ดที่จับของรถเข็นไว้ก่อนแล้วก็ตาม แต่ก็ขอใส่ถุงมืออีกชั้นกันเหนียวไว้ก่อนดีกว่า เมื่อเสร็จแล้วก็ไปชอปปิ้งกันเลย โดยของส่วนมากที่เราไปซื้อก็จะเป็น น้ำดื่ม กระดาษชำระ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของสดเผื่อวันไหนขยันอยากมาทำอาหารกินเอง เสร็จแล้วก็ไปจ่ายเงิน เรามักจะจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตแทน เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคที่มาจากธนบัตร ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนว่าธนบัตร หรือเหรียญที่เราได้มานั้น ผ่านมือใครมาแล้วบ้าง ดังนั้นคิดว่าถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่านะครับ สุดท้ายนี้หลายๆคนอาจจะคิดว่าเราอาจจะโอเวอร์เกินไป แต่เราคิดว่าของพวกนี้โดยเฉพาะเชื้อโรคที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เราอย่าไปเสี่ยงกับมันเลยครับ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งยังเป็นการช่วยคุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ไม่ให้ทำงานหนักมากเกินไปอีกด้วย และมีคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ “ ซึ่งก็น่าจะจริงที่สุดแล้วครับในสถานการณ์เช่นนี้ เครดิตภาพปกโดย pixabay เครดิตภาพประกอบโดยผู้เขียน