เย้!!! นี่คือบทความชิ้นแรกเลย ที่หมีได้เขียนลงใน True ID เพื่อเป็นเสมือนหนังสือเดินทางให้กับเพื่อนๆ ได้ตามไปปักหมุดตาม “เจ้าหมีแบกกล้อง”....ก่อนอื่นเลย บทความชิ้นนี้เป็นบทความที่หมีเขียนขึ้นเพื่อที่จะพาทุกคนไปพบกับความสวยงามของวัดไทยในเมืองกรุง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่อยู่ภายในวัด นั่นคือ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดแจ้ง” นั่นเอง โดยในวันนี้หมีจะนำเสนอเรื่องราวต่างๆ และสอดแทรกข้อความดีๆ ผ่านรูปภาพ ซึ่งจะพาทุกคนเข้าไปรู้จักและ สัมผัสความวิจิตรงดงามของโบราณสถานที่มีเสน่ห์แห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า ตามหมีมาเลยยยย “วัดอรุณฯ” หรือ “วัดแจ้ง” ตามที่หลายๆ คนเคยได้ยินมานั้น ตั้งสง่าอยู่ที่แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เป็นวัดที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่หนึ่งของไทยเลยก็ว่าได้ โดยเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง ยังถือว่ามีพระปรางค์ที่สูงที่สุดในไทย และของโลกอีกด้วย... wow wow wow !!!! โดยพระปรางค์ที่ว่า ได้ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไม่ว่าจะชมตอนอรุณรุ่ง หรือยามอาทิตย์อัสดง ก็ช่างเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความงดงามอันหาที่ไหนไม่ได้เลย... ก่อนอื่นเลย หมีได้มาเริ่มต้นจากจุด Start ที่สถานีเรือสะพานพระปิ่นเกล้า โดยหมีได้ทำการซื้อตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) จำนวน 15 บาท เพื่อไปยังท่าวังหลัง ก่อนมุ่งหน้าไปยังวัดอรุณฯ ต่อไปนั่นเอง เมื่อนั่งเรือมาจนถึง ณ ท่าวังหลัง สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลย คือหาอะไรรองท้องกันก่อนนะครับ เพราะตอนนี้หมีหิวไส้กิ่วแล้ว 555+ คือกองทัพมันต้องเดินด้วยท้องจริงๆ ครับ และแล้วจมูกหมีก็ได้ไปแตะกับกลิ่นหอมฟุ้งของบรรดาอาหารแถบนั้นมากมาย ซึ่งร้านที่หมีได้มาฝากท้องไว้นั้น คือ “ร้านเอกรสเด็ด” โดยที่นี่มีเมนูแนะนำมากมายไม่ว่าจะเป็น ข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวขาหมู กระเพาะปลา เกี๊ยวน้ำ และอื่นๆ อีกหลากหลายเมนู โดยพิกัดร้าน ตั้งอยู่บริเวณ ซอยวังหลัง1 เดินเข้าซอยประมาณ 100 เมตร แล้วจะเจอป้ายร้านเอกรสเด็ด ขวามือเลยครับ... ใครได้แวะเดินเล่นวังหลัง ห้ามพลาดเด็ดขาดดด!!อิ่มจนพุงกางแล้ว พร้อมลงเรือลุยต่อแล้วคร้าบบบบ... ...ต่อจากนี้หมีจะพาทุกคนเข้าสู่ห้วงความคิดที่เป็นส่วนหนึ่งในการบรรยายการเดินทางของหมีในครั้งนี้ และพาทุกคนไปชมความสวยงามของวัดที่เป็นตัวแทนความสวยงามของไทยไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ...ยามเรือด่วนธงส้มได้แล่น ลอยพลิ้วไหวผ่านสายธารอยู่นั้น... ในห้วงความคิดของผมก็ชวนพินิจหาถึงความอ่อนไหวทางความรู้สึกของมนุษย์ที่ถึงแม้ภายในจิตใจจะเต็มไปด้วยความหม่นหมอง แต่ภายนอกกลับต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร และฝืนยิ้มเพื่อให้คนอื่นรับรู้ว่าเรานั้นมีความสุข... แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย หลังจากที่หมีได้นั่งเรือต่อจนถึง ท่าวัดอรุณ จะบอกว่าความรู้สึกแรกที่ได้มองทอดไปยังพระปรางค์ที่สูงเด่นเป็นสง่าอยู่นั้น มันแบบว่าโอ้โหหหห..... ทำไมมันช่างงดงามขนาดนี้นะ และหมีก็ไม่รอช้ารีบยกกล้องเพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เลยทันที และเมื่อได้ถ่ายภาพพระปรางค์ที่เป็นจุดสนใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปสำรวจสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพราะทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เป็นรูปแบบไทยๆ และในส่วนของจีนที่เป็นรูปปั้นสัตว์ต่างๆ หรือแม้แต่รูปปั้นตุ๊กตาจีนนั้น มันช่างเป็นสิ่งที่ผสมผสานกันได้อย่างอย่างลงตัวจริงๆ อีกหนึ่งจุดไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างพากันให้ความสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือ “ยักษ์เฝ้าประตู” ทั้ง 2 ตน ที่ได้ยืนเฝ้าประตูเสมือนผู้ดูแล คอยปกป้องให้กับซุ้มยอดมงกุฎ ทางเข้าพระอุโบสถวัดอรุณฯ นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นจุดเช็คอินจุดหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย และเมื่อเราได้ก้าวเข้ามาภายในที่ตั้งพระอุโบสถ ก็จะได้พบกับพระอุโบสถที่ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่งดงามมากจริงๆ และแม้แต่บริเวณโดยรอบพระอุโบสถเราจะได้พบกับพระพุทธรูปหลายสิบองค์ วางเรียงอยู่แนวรอบพระอุโบสถอีกด้วย... ยิ่งมองดูแล้วมันช่างเป็นสิ่งที่น่าค้นหาเสียจริงๆ ความสุขนั่นมันไม่ใช่แค่เกิดจากตัวเราเองเท่านั้น แต่เพียงแค่เราเห็นคนอื่นเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจึงทำให้เราคิดได้ว่า 'การที่เราพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งนั้นมันก็คือความสุขในฉบับของเราแล้ว'ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัจธรรมทั้งสิ้น จากนั้นหมีได้เดินชมความสวยงามบริเวณภายในพระอุโบสถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมีก็ได้เดินออกมาทางเข้าหน้าวัดอรุณฯ และหมีก็ได้เก็บภาพระหว่างทางเรื่อยๆ และแล้วก็ได้พบกับมุมๆ หนึ่งที่ทำให้หมีรู้ว่านี่แหละคือจุดที่ตามหามาตลอดทั้งทริปเลยก็ว่าได้ภาพๆ นี้มันอาจจะดูเป็นรูปภาพธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็สามารถถ่ายได้ แต่สำหรับหมีแล้วมันเป็นภาพที่หมีรู้สึกได้ ถึงมุมองของคนเราที่ต่างก็มีมุมมองที่ต่างกันออกไป... รูปทุกรูปมันเกิดมาเพื่อให้คนมองฉันใด แน่นอนว่าคนๆ หนึ่งจะมองรูปๆ นั้นในความหมายที่แตกต่างกันออกไปฉันนั้น จากนั้นเราก็เดินเข้ามาทางเข้าพระปรางค์ที่เป็นจุดเช็คอินที่สำคัญของหมี และใครหลายๆ คนที่ได้มายังวัดอรุณฯ บอกเลยว่ามันช่างเป็นจุดที่รอคอยและเป็นไฮไลท์สุดท้ายที่สมการรอคอยมากๆๆๆๆๆ ขอบอกเลยว่าโบราณสถานแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่งดงามมากเลยจริงๆ โดยเฉพาะพระปรางค์ที่อยู่ตรงหน้าหมีนั้นช่างสูงเสียดฟ้า เมื่อเรายิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นถึงความละเอียดและการใส่ใจในการสร้างมากจริงๆ จึงไม่แปลกเลยที่นักท่องเที่ยวต่างพากันหลงใหลในความงดงามของสถานที่แห่งนี้..... ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าการเดินทางแต่ละครั้งเราจะเจออะไร และจะพบสิ่งสวยงามอะไรบ้าง ทั้งที่โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่รอเราค้นพบ แต่ถ้าหากเราไม่ออกไปหามัน เราก็จะไม่มีวันค้นมันเจอ ...สำหรับการเดินทางครั้งนี้หมีต้องขอบคุณตัวหมีเองจริงๆ ที่ได้พาตัวเองไปเจอกับสิ่งใหม่ๆ ที่ถือว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่ามากๆ และถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยสถานที่สวยงามต่างๆ มากมาย แต่วัดอรุณฯ แห่งนี้ก็รอต้อนรับทุกคนมาพบความสวยงามอยู่นะครับ และในครั้งหน้าหมีจะพาทุกคนไปที่ไหนอีกนั้นอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับฝากติดตามผลงาน และภาพถ่ายสวยๆ ได้ทาง Instagram : paiikabkry_ นะคร้าบ ขอบคุณทุกการติดตามเลยนะครับ"ภาพทั้งหมดโดย Journott Bear ผู้เขียน"....หมีแบกกล้องกำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !