คุณรู้จักกรุงเทพฯ ดีแค่ไหน ? แล้วฝั่งธนฯ ล่ะ คุณเคยได้ยินบ้างมั้ย? วันนี้ฉันจะพาคุณค่อย ๆ เดินทาง ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ตามที่ใครๆก็ว่า ชาวฝั่งธนมีชีวิตที่สโลไลฟ์ เรามาเริ่มไขลานนาฬิกาของเราให้เวลามันค่อย ๆ เดินช้าลงไปกับวิถีชีวิตชาวบ้านที่เริ่มหายากได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมืองกรุงอันเร่งรีบกัน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าฉันเป็นเด็กฝั่งธน และวัดไทรเป็นวัดที่เคยเจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าทางน้ำในสมัยก่อน หรือที่รู้จักกันในนาม "ตลาดน้ำวัดไทร" นั่นแหละ เพราะเมื่อก่อนการสัญจรทางน้ำค่อนข้างเป็นที่นิยมจนเมื่อมีถนนเข้ามา การสัญจรทางน้ำก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เหลือเพียงแต่การใช้ชีวิตประจำวันของชุมชนรอบ ๆ วัดที่ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง การเดินทางมาเที่ยวชุมชนวัดไทรมาได้ง่ายมาก ๆ แค่ลงรถๆฟฟ้าสถานี วุฒากาศ ออกทางออก 4-6 แล้วก็เดินข้ามถนนไปขึ้นรถสองแถวเล็กหรือรถกระป๊อต่อเดียวก็ถึงแล้ว แนะนนำว่าควรมาเช้า ๆ เพราะจะได้เห็นวิถีชีวิตชัดสุด เนื่องจากชุมชนโดยรอบวัดเป็นตลาดเช้า เรียกได้ว่ามาแล้วไม่ต้องกลัวหิว หรือหากนั่งรถไฟจากวงเวียนใหญ่ รถไฟที่ว่านี้คือรถไฟจริง ๆ รถไฟปู๊น ปู๊น ก็ลงที่สถานีวัดไทรได้เลย วิถีชีวิตที่นี่ค่อนข้างอ้อยอิ่งแม้ว่าจะเร่งรีบในตัวมันเอง แต่ทว่าเมื่อเทียบกับในใจกลางเมืองกรุงอันวุ่นวายแล้ว ลานไขนาฬิกาที่นี่ช่างหมุนช้ายิ่งนัก ตึกราบ้างช่องยังเป็นบ้านไม้ผสมปูน วัดที่เงียบสงบ จะไม่สงบเท่าไรก็ตอนมีงานวัดนั่นแหละ ถึงจะมีเสียงอึกทึกครึกโครมพอให้ครึกครื้นกันได้อยู่บ้าง บริเวณใกล้ ๆ วัดมีโรงเรียนอยู่ถึง 2 โรงด้วยกัน ข้างหน้าวัดเป็นตลาดสดและเป็นอดีตตลาดน้ำที่ยกขึ้นมาไว้บนบก ตั้งแต่ปากซอบทางเข้ามีร้านขายของปะปนกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยตลอดแนว ที่นี่มีทั้งของกินเล่น อาหารมื้อหลัก อาหารและขนมหลายอย่างเป็นขนมโบราณที่เริ่มจางหายไปบ้าง หลายอย่างก็ยังกลับมาฮิตสามารถเอาไปเป็นของฝากได้ ซึ่งแน่นอนว่าใครที่เป็นสายวินเทจ สายเดินถ่ายรูปกับที่ชิค ๆ มุมใหม่ ๆ ไม่ซ้ำใครน่าจะชอบ แถมค่าครองชีพยังถูกเมื่อเทียบกับกลางกรุง สิ่งที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือช่วงสงกรานต์ จะเป็นช่วงที่วัดครึกครื้นเป็นพิเศษตั้งแต่เช้า มีงานวัดยาวตั้งแต่ช่วงวันมี่ 10-16 จะสามารถพบเห็นชาวบ้านพากันมาทำบังสกุลให้ญาติผู้ล่วงลับ บรรพบุรุษ มีการก่อเจดีย์ทราย การเปิดโรงทานเพื่อให้ชาวบ้านที่มาทำบังสกุลได้มีอาหาร มีขนมรับประทานระหว่างรอ หรือหากใครทำเสร็จแล้วก็สามารถเดินไปไหว้พระ ทำบุญ หรือที่นิยมกันมากสุดคือ การไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลอง แต่หากไปวันธรรมดาก็จะได้กินเช่นกันแถมไม่ต้องรอคิวนานเหมือนช่วงเทศกาลอีกด้วย สำหรับใครที่ไปเที่ยวแต่เช้าก็สามารถใส่บาตร หาของกินริมทางหรือในตลาด แล้วเข้าวัดไปทำบุญก่อนออกมาเที่ยวต่อก็ยังได้ หรือใครอยากจะลองนั่งรถไฟที่นี่ก็มีสถานีรถไฟ สามารถซื้อตั๋วนั่งไปได้ทั้งวงเวียนใหญ่หรือมหาชัยก็ยังได้ เอาเป็นว่าฉันอยากให้คุณมาลองดูสักครั้งมาไขลานนาฬิกาชีวิตให้ช้าลง ค่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศวิถีชีวิตชาวบ้านชุมชนวัดไทรดู ใช้ชีวิตให้ช้าลงไม่แน่คุณอาจจะได้พบความสุขของชีวิตเร็วขึ้นจากการท่องเที่ยวพักผ่อนก็ได้