ช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด เรื่องราวความทุกข์ใจทางการเงิน เป็นหนึ่งเรื่องที่เห็นได้ชัดอย่างมาก เพราะเดือดร้อนกันไปทั่วทุกสารทิศ บางคนเขียนถามว่า “จะคืนรถ เสียส่วนต่างเยอะไหม?” “จะหยุดจ่ายบัตร ต้องเตรียมตัวรับมือกับเจ้าหนี้ยังไง?” และอีกสารพัดคำถาม - คำระบาย ที่โพสต์ลงสู่โลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง อ่านไป ก็รู้สึกจุกในอกยังก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก รู้ว่าเกือบทุกคนทุกข์ร้อนแสนสาหัสอย่างมาก... ครั้งหนึ่งในชีวิต แม้ยังไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด เรายังเคยมีความคิดพวกนี้เลย เพียงแต่ไม่ได้ลงมือทำ เพราะมีทรัพย์สินในชื่อของตัวเอง ที่เชื่อว่าเจ้าหนี้ต้องสืบเจอ และต้องตามมายึดแน่นอน จึงทำได้เพียงแค่คิด เครดิตภาพ : analogicus แข็งใจ “ไม่พักหนี้” กัดฟันสู้เชื้อไวรัสโควิด-19 เราต้องรอด!! … ประโยคนี้ประเด็นอยู่ในคำว่า “ไม่พักหนี้” แต่ไม่ใช่ว่าไม่เดือดร้อน... จากการประเมินตัวเอง นับคะแนนการได้รับผลกระทบ คิดเอาไว้ที่ 30% ถามว่าเกิดจากอะไร? เกิดจากอาชีพฟรีแลนซ์ของเรา ที่มีหน้าที่ดูแลเว็บไซต์ให้ลูกค้า เมื่อกิจการของลูกค้าสะดุดลง เราเองก็สะดุดไปด้วยเช่นกัน แต่ยังพอมีรายได้จากช่องทางออนไลน์อื่น ๆ เข้ามาพยุงเอาไว้บ้าง เครดิตภาพ : nattanan23 “พักหรือไม่พักหนี้” ก็เป็นเพราะว่า สินเชื่อบ้านที่เราไปกู้เอาไว้ ให้พักเฉพาะเงินต้น แต่ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน เท่ากับว่าเงินต้นจะไม่ลดเลยเป็นเวลา 1 ปี แต่หากเรากัดฟันสู้ จ่ายชำระไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิม ด้วย MRR-3.22% ที่ถูกลงจากเดิม (จาก 7.25% เหลือ 6.50%) ซึ่งจะทำให้เราจ่ายเงินต้นได้มากขึ้น เท่ากับว่ายอดหนี้ก็จะลดลงไปได้มากในช่วงเวลานี้ มุมหนึ่งในใจก็คิดว่าเป็นเวลาทอง แต่ต้องคิดเรื่องหารายได้เพิ่มเอาไว้ด้วย ไม่งั้นก็คงไม่รอดแน่ ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ธนาคารผู้ดูแลสินเชื่อบ้านให้เรา ก็ติดต่อมาสอบถามว่า กระทบอะไรบ้างหรือไม่ ลองดูเงื่อนไขของธนาคารก่อน จะรับไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะไม่รู้ว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะไปจบเมื่อไหร่ ... ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าคิดเหมือนกัน เครดิตภาพ : stevepb ส่วนบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดอื่น ๆ คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะปิดไปหมดแล้ว เหลือยอดเล็กน้อย ที่ใช้ยามจำเป็นหรือจ่ายค่าประกันชีวิตเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะจ่ายคืนมากกว่าขั้นต่ำ และ/หรือ หากมีเงินก้อนก็ปิดไปเลย ส่วนเรื่องรถยนต์ ก็ไม่ได้ติดไฟแนนซ์อะไร เพราะคันที่ใช้ทุกวันนี้มีอายุ 16 ปีแล้ว ... เคยคิดจะออกใหม่เหมือนกัน แต่แม่ขวางสุดชีวิต บอกว่าอย่าหาเรื่องเป็นหนี้สินเพิ่มอีก แม่ไม่ชอบ!! (จบค่ะ) เครดิตภาพ : bb20_pt10 ในเบื้องต้นสำหรับหนี้บ้าน เราเลือกที่จะ “ไม่พักหนี้” ไปก่อน เพราะมีเวลาให้คิดไปจนถึง 30 มิถุนายน 2563 เอาเป็นว่ากัดฟันฝืนสู้ ฝืนทนไปก่อน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ค่อยไปร่วมโครงการอีกที เผื่อว่าระหว่างนี้จะมีเงื่อนไขดี ๆ มาให้ได้เลือกอีก สำหรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท เราไม่คิดสมัครตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะน่าจะไม่ผ่าน และเกี่ยวเนื่องกับลูกค้า หากต้องขอเอกสารใด ๆ กันขึ้นมา อาจมีผลกระทบกับลูกค้าเพิ่มไปอีก จะยุ่งยากไปกันใหญ่ เครดิตภาพ : StartupStockPhotos วิธีปฏิบัติตัวของเราในยามนี้ ไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมมากนัก เพราะทำงานอยู่กับบ้านเป็นหลัก ตอนนี้หนักกว่าเดิม เพราะเกือบ 3 สัปดาห์แล้วที่ไม่ได้สตาร์ทรถออกบ้านเลย เท่ากับประหยัดค่าน้ำมันไปได้อย่างมาก แต่การทำงานต้องหนักหน่วงกว่าเดิม เพราะต้องหารายได้ในส่วนที่ขาดไปคืนมา ... ดังนั้นทุกครั้งที่ท้อ เราก็บอกตัวเองสมอว่า “ท้อไม่ได้ ไม่งั้น ไม่รอด!” กดที่รูปโปรไฟล์ แล้วกด “ติดตาม” เอาไว้นะคะ เรามีประสบการณ์เรื่องการจัดการหนี้สินมาแชร์อีกเยอะเลยค่ะ เครดิตภาพ : freephotocc บทความน่าอ่าน : - จ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำไม่ไหว เก็บเงินก้อนไม่ได้ ทำยังไงดี? - ถูกฟ้องศาลหนี้บัตรเครดิต ไม่ไปศาลได้หรือไม่? (กรณีได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19) - 3 ข้อ รับมือกับสัญญาณเตือนภัยทางการเงิน