หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้เส้นทางจากถนนบรมราชชนนีข้ามสะพานพระปิ่นเกล้ามายังเกาะรัตนโกสินทร์บ่อย ๆ คุณจะเห็นว่าทางขวามือ คือ โรงละครวังหน้า ไล่เลาะมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นอกจากคุณรู้ว่าสะพานพระปิ่นเกล้าถูกตั้งตามพระนามของพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือวังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ผู้ได้ชื่อว่าทรงเป็น "กษัตริย์องค์ที่ ๒" พระองค์แรกและพระองค์เดียวของราชวงศ์จักรีแล้ว คุณรู้อะไรอื่นอีกบ้าง ? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับแรกมีในสยามในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ๑. ตำราขิปปนะวิธีการยิงปืนใหญ่ตำราปืนใหญ่เล่มนี้นับเป็นฉบับแรกของสยาม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ได้ทรงแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษส่วนหนึ่ง อีกส่วนทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเอง โดยเนื้อหาใจความสำคัญจะกล่าวถึงตำนานปืนใหญ่ต่าง ๆ ตำราทำดินปืน วิธีการยิงปืนใหญ่แบบยุโรปใช้คำสั่งภาษาอังกฤษ เช่น คำว่า โลด (Load) นอกจากทรงพระราชนิพนธ์ตำราปืนใหญ่แล้ว พระองค์ยังทรงนำเข้าการฝึกทหารปืนใหญ่แบบอังกฤษโดยให้ทหารในสังกัดแต่งตัวคล้ายทหารอังกฤษอีกด้วย นอกจากนี้ยังทรงเป็นผู้บัญชาการทหารเรือพระองค์แรกของสยาม ตลอดจนการต่อเรือด้วยพระองค์เอง๒.โรงกลั่นลมพระประทีปในสมัยพระองค์ยังมีการสร้างโรงกลั่นลมพระประทีปเพื่อใช้จุดไฟแก๊สภายในพระราชวังบวรสถาน(วังหน้า)และมีการสร้างระบบส่งน้ำประปาด้วยการทำท่อกรุตารางเหล็กข้างบนถมดิน มีเขื่อนสองข้างตักน้ำใช้ได้ตามสะดวกโดยเดินจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่พระราชวังบวรฯ และในพระบรมมหาราชวังด้วย ก่อนระบบส่งน้ำนี้จะถูกยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อมีการประปาสำหรับพระนครขึ้นพระที่นั่งคชกรรมประเวศปราสาท ด้านหน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายในพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) พระที่นั่งคชกรรมประเวศปราสาทต่อมาถูกรื้อลงเนื่องจากสภาพทรุดโทรมของเครื่องเรือนไม้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ๓.การไว้พระมัสสุ (ไว้หนวด)นอกเหนือจากการเป็นผู้นำเข้าด้านการทหาร การต่อเรือ การสร้างโรงกลั่นลม ระบบประปา ฯลฯ แล้ว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ยังทรง "นำเทรนด์" ด้วยการเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ไว้พระมัสสุ หรือไว้หนวด ซึ่งแม้ว่าธรรมเนียมการไว้หนวดจะไม่ได้แปลกอะไรต่อสังคมสยามสมัยนั้น แต่การไว้หนวดไม่ปรากฏในชนชั้นขุนนางหรือเจ้านายก่อนหน้าพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เลย ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานปรากฏอยู่ใน "สาส์นสมเด็จ" โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นผู้ตั้งข้อสังเกตและได้ทูลต่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ไว้ว่า "..พิเคราะห์ดูเกิดความรู้สึกชอบกลนักหนา พระรูปปิ่นเกล้าฯ พระรูปแรก คือ ที่ไม่ฉลองพระองค์นั้นไม่มีพระมัสสุ แต่พระรูปถ่ายทีหลังทรงเครื่องทหารเรือไว้พระมัสสุทุกรูป จึงนึกขึ้นว่าจะเป็นพระปิ่นเกล้าฯ ดอกกระมัง ที่ตั้งต้นไว้พระมัสสุขึ้น..." และต่อมาได้ปรากฏเจ้านายหลายพระองค์ทรงไว้พระมัสสุ อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเอง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพแรกมีในสยามในสมัยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้ง ๓ เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและน่าศึกษาของ "กษัตริย์องค์ที่ ๒" พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ข้อมูลประกอบการเขียนหนังสือพระบวรราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ของ อรุณ สันธนาภรณ์ภาพ Cover จากวิกิพีเดีย ผลงานภาพถ่ายพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จาก Supanut Arunoprayoteภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3