โลก...ในวันที่น้ำแข็งละลาย ผลจากสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ ณ วันนี้ปริมาณน้ำแข็งใน "แอนตาร์กติกาตะวันตก" ละลายไปแล้วกว่าหนึ่งในสี่ นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจจับพื้นผิวน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาจากภาพถ่ายดาวเทียมแล้วพบว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดการยุบตัวของแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากมีการละลายของน้ำแข็งที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น จนวันนี้น้ำแข็งที่แอนตาร์กติกาตะวันตกละลายไปแล้วกว่า 25 เปอร์เซนต์และมีแนวโน้มว่าจะมีการละลายเพิ่มในอัตราที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโลกเพราะเหตุการณ์นึ้ จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทั่วโลก สอดคล้องกับรายงานที่ว่าน้ำทะเลได้เพิ่มสูงขึ้นปีละประมาณ 9-88 เซ็นติเมตร ภาพประกอบโดย girlart39 : www.pixabay.com/th นอกจากปัญหาการละลายของน้ำแข็งที่เกิดขึ้นในแอนตาร์กติกาตะวันตกแล้ว พื้นที่กรีนแลนด์ก็พบการละลายของน้ำแข็งด้วยเช่นกัน ยิ่งทำให้สถานการณ์ของระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเป็นไปได้ว่าปัญหาน้ำช่วมชายฝั่ง รวมถึงพายุที่รุนแรงอาจจะเกิดได้มากขึ้นในอนาคต เนื่องจากปัจจัยด้านกระแสความกดอากาศที่เปลี่ยนไป และพื้นที่อยู่อาศยของสิ่งมีชีวิตบนบกก็จะลดลง สำหรับสาเหตุที่มำให้เกิดภาวะโลกร้อนนั้น มีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงหรือก๊าซธรรมชาติ การเผาป่า เผาพื้นที่ทำการเกษตร โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งการหายใจของสิ่งมีชีวิตก็ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เช่นกัน มีรายงานจาก IPCC : คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อ้างถึงผลวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์กว่า 2,500 คน ใน 130 ประเทศ ว่าด้วยต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน จากการวิจัยพบว่ามนุษย์คือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แต่เดิมจะเกิดเป็นวัฏจักรแบบค่อยเป้นค่อยไปในวงรอบกว่าแสนปี แต่ปัจจุบันปัญหามีความรุนแรงมากขึ้นทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นในรอบเวลาเพียงร้อยปีเท่านั้น ภาพประกอบโดย Free-Photos : www.pixabay.com/th สำหรับผลกระทบที่เกิดจากปัญหาโลกร้อนมีหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ แม้จะยังไม่มีมูลค่าความเสียหายต่อผลทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนแต่ก็มีการคาดการณ์กันว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 95 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาหนึ่งตัน ซึ่งผลทางเศรษฐกิจนี้รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดกับสุขภาพของประชากรโลก รวมถึงปัญหาอันเกิดจากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศและอุบัติภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก มีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตปัญหาสำคัญที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน คือ ปัญหาด้านความขัดแย้งและความมั่นคงระดับประเทศ เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นทำให้พื้นดินบนโลกมีปริมาณลดลงและส่งผลทำให้ทรัพยากรบนผืนดินลดต่ำกว่าอัตราการเกิดของประชากรโลก การต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรของประเทศต่าง ๆ จะมีมากขึ้น และทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้ง่าย ภาพประกอบโดย ejaugsburg : www.pixabay.com/th อย่างไรก็ตาม...ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขปัญหานี้ หากมนุษย์สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้เรื่อย ๆ ในอีก 10 ปีข้างหน้า เราก็จะสามารถลดอัตราความรนแรงลงได้อย่างน้อย 5 เปอร์เซนต์ อย่ารอให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงขึ้น เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ได้ วิธีช่วยกันง่าย ๆ เช่น ปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน, ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน, ลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟม, ขับรถด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เป็นระดับความเร็วที่ประหยัดการใช้เชื้อเพลิง) หรือ ใช้ขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น, การช่วยประหยัดไฟฟ้าในที่ทำงาน ที่บ้าน รวมถึงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว โลกส่งเสียงร้องหาความเป็นธรรมแล้ว ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์ทุกคนจะได้ยินหรือไม่ ? บทลงโทษที่เรากระทำต่อโลกนั้น ไม่ต่างอะไรกับบทลงโทษที่โลกจะให้กับเรา มาช่วยกันดูแลโลกใบนี้ให้อยู่ต่อไปได้นาน ๆ เพื่อลูกหลานของเรากันเถอะครับ เครดิตข้อมูล : https://www.techtimes.com/articles/243607/20190522/close-to-a-fourth-of-ice-in-west-antarctica-at-risk-of-collapse.htm https://www.greenpeace.org/archive-thailand/campaigns/climate-and-energy/impacts/sea-level-rise/ https://th.wikipedia.org/wiki/ภาวะโลกร้อน