เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันได้อ่านเจอกฎ หรือคำคม ขอ Jim Rohn กูรูด้านพัฒนาตนเอง นักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่ประสบความสำเร็จ ในระดับโลก และเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับ Tony Robbins และ Brian Tracy สุดยอดโค้ช อันดับต้นๆ ของโลก เช่นกัน ที่บอกว่า “เราคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาคบ หรือคุยด้วย มากที่สุด” ดิฉันเห็นด้วยกับประโยคนี้มากๆ เพราะสอดคล้องกับสุภาษิตไทย ที่ว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” ที่หมายถึง การเลือกคบคนต้องดูดีๆ เพราะหากคบคนชั่วหรือคนไม่ดี ก็มักชักชวนพากันไปในทางที่ไม่ดี แต่ถ้ารู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดี มีความรู้ ก็จะพากันชักจูงให้ทำสิ่งดีๆ ด้วยกันค่ะ คำสอนหรือกฎความสำเร็จของ Jim Rohn นี้ ให้ข้อคิดและแรงจูงใจ ในเรื่องการเลือกคบคน การสร้างทีม การหาพันธมิตร หรือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทางธุรกิจ จนหลายคนคิดว่า ต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ ในแวดวงของคนเก่งๆ เท่านั้น ที่จะทำให้ตนเองประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสเข้าไปร่วมแวดวง กับคนเก่ง คนประสบความสำเร็จ ในเรื่องที่ตนเองสนใจใฝ่รู้ ยกตัวอย่างว่า ตัวดิฉันเอง สนใจในเรื่องการลงทุนในหุ้น ก็คงไม่ง่าย ที่จะเดินเข้าไปพบ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนหุ้นคุณค่าอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แล้วถามท่านว่า“ดร. นิเวศน์ คะ ดิฉันมีความสนใจอยากลงทุนในหุ้น พอมีเวลาพูดคุยกับดิฉันสักชั่วโมงไหมคะ" ดิฉันเชื่อว่า เมื่อเราค้นพบในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ไม่ว่าด้านไหนก็ตาม จะมีบุคคลต้นแบบ ที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้ว และได้ถ่ายทอดไว้เป็นหนังสือ หรือตำรา ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาอยู่เสมอค่ะ อยู่ที่ผู้อ่านจะเชื่อและศรัทธาใคร และเลือกที่จะอ่าน แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่า หนังสือเล่มเดียว จะทำให้รู้แจ้ง ถึงเรื่องนั้นๆ แต่ควรอ่านหลายๆ เล่ม ในเรื่องๆ เดียว ที่เราสนใจ เพราะหนังสือทุกเล่ม มีคุณค่าในตัวเองเสมอ ค่ะ แม้ว่าในทุกวันนี้ จะมีคลิปวิดีโอ มีหนังสือเสียง จากโค้ช จากครู ผู้รู้อยู่มากมาย แต่การอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ยังมีข้อดีอยู่มากกว่า ข้อมูลที่ออกมาเป็นหนังสือนั้น ย่อมผ่านการกลั่นกรองจากผู้เขียนมาเป็นอย่างดีแล้ว ผู้อ่านสามารถซึมซับความรู้ ของผู้เขียน และกลับมาอ่านซ้ำ เมื่อยังไม่เข้าใจ และอาจตีความได้ถูกต้องมากขึ้นค่ะ หลังจากการอ่านหนังสือจบ ถึงหน้าสุดท้ายในแต่ละเล่ม ดิฉันพบว่า ตัวเอง อยากลงมือทำ และอยากมีประสบการณ์ เหมือนกับผู้เขียนท่านนั้นๆ บ้างค่ะ เช่น หนังสือ "ตีแตก" และ "คัมภีร์หุ้น" ที่ดิฉันได้อ่านเมื่อ 10 กว่าปีก่อนนั้น เป็นจุดเริ่มต้น ให้ดิฉันสนใจ ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และนำมาปรับใช้เป็นแนวทางของตนเองได้ และระลึกอยู่เสมอว่า หนังสือคือ ครูคนที่ 3 นอกเหนือจาก พ่อแม่ และ ครูบาอาจารย์ที่สอนในชั้นเรียน และยังใช้เป็น ทางลัดสู่ความสำเร็จ เป็นป้ายบอกทาง จากความฝันสู่ความจริง และเป็น พลังทวี ที่ทำให้ผู้อ่าน เหนือกว่าค่าเฉลี่ย ของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด ที่ Jim Rohn ได้กล่าวไว้ ค่ะ "หนังสือ คือ ครูคนที่ 3"บทความโดย Be A Boss!ภาพปก โดย Lubos Houska / Pixabayภาพที่ 1 โดย Joseph Mucira / Pixabay ภาพที่ 2 โดย ภาพโดย Pexels / Pixabay ภาพที่ 3 โดย Ina Hall / Pixabay ภาพที่ 4 โดย Tumisu จาก Pixabayอ่านบทความที่น่าสนใจ คลิกที่นี่5 ลักษณะอุปนิสัย นักลงทุนชั้นยอดเตรียม 3 สิ่งนี้ สู่เส้นทางนักลงทุนหุ้นคุณค่ามนุษย์เงินเดือน ทำสิ่งนี้ให้เงินเริ่มเหลือ เพื่อเริ่มรวยใช้จ่ายกับ 3 สิ่งนี้ มีเงินเพิ่มPassive Income อิสรภาพทางการเงิน ของนักวางแผนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !