ตอนที่แล้ว เราให้ " ความทรงจำเดินทาง ย้อนวันวานที่ภูเขาทอง " ผ่านตัวหนังสือกันไปแล้ว ช่วงที่เราออกไปเที่ยวไหนไม่ได้ ก็ปล่อยให้ความทรงจำเดินทางผ่านไปทางตัวหนังสือกัน เราเดินออกจากภูเขาทองแล้วเลี้ยวเข้าถนนราชดำเนิน เดินข้ามสะพานผ่านฟ้ามาก็จะพบกับ “ ป้อมมหากาฬ ” ป้อมปราการสีขาวสดใสทรงแปดเหลี่ยม ที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือตรงสี่แยกพอดี สีขาวที่ทาไว้สะท้อนแสงแดดกลางกรุงทำให้โดดเด่นมาก มีปืนใหญ่ตั้งประจำการอยู่ เท่าที่รู้ป้อมแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 จำได้ว่าเห็นป้อมนี้มาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะรู้สึกว่าไม่ได้สูงใหญ่มากมาย แต่ก็รู้สึกได้ว่าในอดีตต้องเป็นป้อมที่แข็งแกร่ง และสามารถปกป้องพระนครได้แน่ ๆ เคยอ่านเจอว่าด้านในป้อมบริเวณริมคลองมีชุมชนตั้งอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยเดินเข้าไปชมเลย ไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า ส่วนอีกป้อมปราการที่เห็นบ่อย ๆ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็คือ ป้อมพระสุเมรุ ที่อยู่แถวถนนพระอาทิตย์นั่นเอง แต่ที่เราจะไปเดินเล่นกันวันนี้ไม่ใช่ป้อมแห่งนี้ครับ เราจะเดินข้ามถนนไปอีกนิด เพื่อไปยังลานกว้างที่อยู่หัวมุมสี่แยกฝั่งตรงข้าม นั่นคือ “ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ” นั่นเอง ลานแห่งนี้ถูกปรับปรุงจนปัจจุบันดูกว้างขวาง และมีความสวยงามมาก ๆ ถ้าจำไม่ผิดบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของศาลาเฉลิมไทยมาก่อน แต่ได้ถูกรื้อถอนออกไปและปรับปรุงบริเวณนี้ให้โล่ง เพื่อเปิดให้เห็น โลหะปราสาท ของวัดราชนัดดารามวรวิหารที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง นอกจากเปิดพื้นที่ให้โล่งแล้วยังปรับปรุงทัศนียภาพด้านหน้าให้สวยงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ประหนึ่งเป็นประตูที่สวยงามเพื่อต้อนรับนักเดินทางเข้าสู่เกาะรัตนโกสินทร์นั่นเอง ลานแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ผู้มีพระราชประสงค์ให้สร้างวัดราชนัดดารามวรวิหารแห่งนี้ขึ้นมา และที่มาของชื่อลานแห่งนี้ ก็คือ ชื่อของพระองค์ครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีพลับพลาที่ประทับสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงออกรับแขกบ้านแขกเมืองของประเทศอีกด้วย พลับพลาที่ประทับมีลักษณะเป็นทรงไทย หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสี ที่ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกาสีทองสวยงามในแบบไทย ๆ นอกจากนั้นยังมีศาลารายสำหรับข้าราชการและแขกที่เข้าเฝ้ารับเสด็จฯ อีกด้วย เมื่อภูเขาทองเป็นจุดเด่นของวัดสระเกศ จุดเด่นของวัดราชนัดดารามวรวิหาร ก็คือ โลหะปราสาท ภาพติดตาเมื่อนึกถึง ก็คือ ตึกที่มียอดเป็นปราสาทหลาย ๆ อันสีดำสนิทตั้งอยู่ภายในวัด จำได้ว่าตอนนั้นก็ยังแอบสงสัยอยู่ว่าทำไมสร้างเป็นสีดำ แต่ในความจริงที่เห็นเป็นสีดำก็เนื่องจากอยู่ในช่วงของการบูรณะปฏิสังขรณ์นั่นเอง แต่ปัจจุบันการบูรณะแล้วเสร็จเราจึงเห็นยอดโลหะปราสาทกลายเป็นสีทองอร่าม เปล่งปลั่ง สวยงาม เท่าที่ทราบโลหะปราสาทที่วัดราชนัดดาแห่งนี้เป็นโลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของไทย และในโลกก็มีเพียง 3 องค์เท่านั้น โดยของไทยเรายังคงมีสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นจึงเหมาะที่จะปรับปรุงให้เห็นถึงความสวยงาม...เพื่อเป็นประตูสู่เกาะรัตนโกสินทร์ การเดินทางหมื่นลี้เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ... แต่ถ้าเดินทางไม่ได้ ก็ให้ความทรงจำเดินทางแทน ... ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางครับ ภาพทั้งหมดโดย: ninenoname (ผู้เขียน)