งานดนตรี เทศกาลดนตรี หรือ music festival แต่งต่างจากคอนเสิร์ตยังไง โดยปกติคอนเสิร์ตจะเป็นการแสดงของศิลปินอาจจะคนเดียว วงเดียว หรืออาจจะหลาย ๆ คน หลาย ๆ วง แต่จะแสดงต่อเนื่องกันในเวทีเดียว ซึ่งต่างจากงานดนตรี เพราะ จะรวบรวมนักร้อง ศิลปิน หลายๆวงมาแสดงต่อเนื่องกันและมีหลาย ๆ เวทีให้เราเลือก บางก็จัดแสดง 2 วัน ซึ่งถือว่าตอบโจทย์สำหรับใครมีนักร้อง นักดนตรีในใจหลายคน ได้เลือกฟังเพลินกันสุด ๆ จุดเริ่มต้นการเดินทางไปงานดนตรีที่ชื่อว่า Cat expo นี้ต้องขอบคุณคนๆหนึ่งที่เขาเคยแชร์ ลงเฟสบุ๊ค ทำให้เราได้รู้จัก และปักหมุดไว้ในใจว่าต้องไปสักครั้ง เมื่อมีการโปรโมทในปีนี้ บวกกับอย่างลองไปงานดนตรีคนเดียวดูบ้าง(จังหวะไม่ตรงกับเพื่อน ๆ หลายคน) ทำให้รีบเช็คตารางตัวเอง เมื่อเห็นว่าว่าง จึงไม่รีรอที่จะซื้อบัตร ซึ่งครั้งนี้ที่เราไปจัดเป็นครั้งที่6 ที่สยามอเมซิ่งพาร์ค หรือสวนสยาม ที่หลายคนรู้จัก โดยงานนี้มีสโลแกนว่า เทศกาลดนตรีของคนเล็กๆกับตลาดเพลงไทยใหญ่โตที่สุดในโลก เอกลักษณ์ของงานนี้เราว่าอยู่ที่นอกจากจะมีเวทีการแสดงดนตรีหลายเวทีแล้วยังมีบูธของศิลปินมาตั้งขายอัลบั้ม เสื้อ หรือของที่ระลึกอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับศิลปินยิ่งขึ้น เดินเลือกซื้อกันเพลิน ๆ ขั้นแรกเราอยากแนะนำกับคนที่จะไปคอนเสิร์ต หรืองานดนตรีคนเดียวเตรียมตัวให้พร้อม นั้นคือ ควรศึกษา หรือถามผู้รู้ เพื่อเตรียมแผนการเดินทางให้ดี รู้ว่าเราจะเข้าไปและออกจากสถานที่จัดงานได้อย่างไรแท็กซี่ รถเมล์หรือขนส่งอื่นๆ และควรมีแผนสำรอไว้ด้วย เพราะถ้าเรามัวกังวลเรื่องการเดินทาง อาจทำให้ไม่เอนจอยกับการฟังเพลงได้ ก่อนวันการแสดง ทุกงานดนตรีจะมีการประกาศ lineup หรือ ลำดับการแสดงแต่ละเวที ดังนั้นเราควรทำการบ้านด้วยการ จัดตารางเวลา เวที ของศิลปินที่เราอยากไปฟัง เพื่อทำให้เรารู้ว่าเวลานี้เราต้องมูฟไปเวทีไหน จะได้ติดขอบนักร้องนักดนตรีที่รักทัน ปล. สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจในงาน cat expo คือการมีแอพพลิเคชัน เพียงเลือกศิลปินวงดนตรีที่อยากฟังไว้ จะมีการแจ้งเตือนว่าใกล้จะขึ้นแสดงแล้ว ใช้ง่ายงานง่าย ไม่ต้องกลัวฟังเพลงจนลืมเปลี่ยนเวที เนื่องจากเราต้องเดิน หรือยืนนานๆ ควรสวมรองเท้าที่คิดว่าใส่สบาย พื้นรองเท้ารองรับได้ดี ส่วนสัมภาระ ไม่ควรพกไปเยอะ ขอเท่าที่จำเป็น กระเป๋าเงินที่พกบัตรประชาชน ตั๋วเข้างาน โทรศัพท์ กระดาษทิชชู่ (ควรมี) ยาดมยาอม ยาหม่อง (ถ้ามี) อาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้นำเข้า ต้องไปซื้อภายในงาน ใครมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าห้องน้ำสาธารณะ ก่อนเข้างานควรจัดการธุระให้เรียบร้อย ไม่ควรดื่มน้ำเยอะ แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้า ควรทำใจไว้บ้างว่าอาจจะสกปรก ต่อคิวนาน อาจต้องพกทิชชูเปียกไว้ ต่อไปเราขอสรุปข้อดีและข้อเสียของการไปงานดนตรีคนเดียวรวมๆ กันเลยนะ ข้อแรกเลยคือเราจะคล่องตัวมาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดใจของเราคนเดียว จะออกเดินทางตอนไหน ไปยังไงตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย แต่ขอเสีย คือ บางทีการตัดสินใจของเรามันอาจไม่ใช้สิ่งที่ถูก หรือดีที่สุด หลายคนที่อาจกำลังกังวลเรื่องความเหงา เราว่าการที่เราไปงานดนตรี จุดประสงค์หลักคือการฟังเพลง การที่เราได้ฟัง ซึมซับบรรยากาศ ยิ่งเป็นเพลงเศร้าจะทำให้เราอินสุดๆ 5555 เรื่องความเหงามันก็มีบ้าง แต่มันแค่ชั่วขณะเพราะเราจะโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรามากกว่า เราว่าการไปคนเดียวทำให้เราได้ไปฟังศิลปินที่เราอยากไปฟังจริงๆ หรือถ้าไปกันหลายคนอาจต้องแยกย้ายกันคนละเวทีอยู่ดี เพราะเรากับเพื่อนอาจมีศิลปินในดวงใจต่างกัน ข้อเสียหลักของการไปคนเดียวเราว่า คือ ค่าใช้จ่าย เพราะเราจะไม่มีคนหารอะไรเลย ต้องจ่ายค่าเดินทางเต็มๆโดยเฉพาะในกรณีที่นั่งแท็กซี่ ทำใจไว้เลยว่าขาออกจากงานเขาอาจจะไปกดมิตเตอร์ ค่าเสียหายบาน นอกจากนี้ใครที่อยู่ต่างจังหวัดต้องบวกค่าที่พักไปอีก สำหรับเราการเดินทาง ไม่ว่าจะที่ใดล้วนทำให้เราได้เรียนรู้ ได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ทำให้เข้าใจธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเข้าใจผู้คนมากขึ้น การเดินทางเป็นกลุ่มเราจะสนุก มีความสุขกับผู้ร่วมทาง แต่การเดินทางคนเดียว นอกจากจะทำให้เรากล้าหาญ กล้าตัดสินใจมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เรามีความสุขกับตัวเองได้ง่ายขึ้น คุณอาจจะหลงรักมันเลยก็ได้นะ