REF : www.ijube.com ซีซั่น 2018-19 ก็ผ่านมาเนิ่นนานซะเหลือเกิน แต่พอหวนนึกถึงทีไร มันช่างปลื้มปริ่มหอมหวานอะไรอย่างนี้ ด้วยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะได้เหยียบย่ำคู่อริตลอดกาลอย่างผีแดงจมลงดิน อารมณ์เหมือนไปไม่ถึงดวงจันทร์ แต่เราก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว REF : www.goal.com ย้อนความถึงซีซั่นก่อนกันหน่อย นับว่าเป็นฤดูกาลที่แฟนหงส์หลายคนต่างคาดหวังว่าทีมจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี หลังทุบคลังคว้ายอดปราการหลังดัตซ์แมน เฟอร์กิล ฟานไดค์ กับ ซุเปอร์โกลทีมชาติบราซิล อลิซง เบ็คเกอร์ เข้ามา ขณะที่ตัวเก่าๆ ในตอนนั้นก็ปึ้กอยู่พอสมควร แน่นอนว่าหน้าสามต้องมีอยู่แล้ว บ๊อบบี้ ฟีร์มีโน่, มาเน่ และเจ้าชายอียิปต์ โม ซาล่าห์ ผ่านไป 11 นัดในลีก ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือสายพันธุ์ร็อคเฮฟวี่เมนทัล จัดการพาทีมชนะไปถึง 8 นัด เสมอเพียง 3 นัด กระทั่งผ่านไป 15 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 และยังไม่แพ้ใคร นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนระบบมาเป็นชนะได้ 3 แต้ม REF : www.goal.com สุดยอดขนาดนี้ แต่ทีมยังรั้งได้แค่อันดับ 2 โดยมีแต้มเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 2 แต้ม เดอะ เร้ด ชนะในเกมที่สมควรชนะ, ชนะในเกมที่เล่นไม่ดี, หลุดเสมอเวลาเจอทีมใหญ่ด้วยกัน และมีเทพีแห่งโชคชะตายืนร่วมทางเคียงข้างกันเสมอในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ บันดาลให้ ริยาด มาห์เรซ ยิงจุดโทษไม่เข้าในช่วงวินาทีสุดท้าย เสกมนต์เปลี่ยน พิคฟอร์ด จากโกลมือดีกลายเป็น คาริอุส สอง ปัดบอลที่กำลังจะออกให้กลับมาโดน โอริกี้ สอย เท่านั้นยังไม่พอ สเตอร์ริดจ์ ที่เจ็บออดๆ แอดๆ ลงบ้าง ไม่ลงบ้าง แต่สุดท้ายก็ลงมายิงปลิดชีพ เชลซี ทีมเก่าของตัวเองไปแบบงงๆ ขนาด ซน เฮือง มิน ที่ถูกเตะกลิ้งในเขตโทษช่วงท้ายเกม สุดท้ายก็ต้องเจ็บฟรีเพียงเพราะผู้ตัดสินมองไม่เห็น REF : www.independent.co.uk เข้าสู่ช่วงก่อนปีใหม่ ซิตี้ พุ่งชนความปราชัยไปถึง 4 เกม โดยการแพ้ให้กับ เชลซี, คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ แล้วก็แพ้ คาร์ดิฟฟ์ ส่งท้ายปี 2018 หลังแข่งไป 20 นัด เดอะ เร้ดส์ มีแต้มนำ เรือใบสีฟ้า ถึง 7 คะแนน แน่นอนว่าตอนนั้นมีหวังถึงแชมป์ ต่อให้นัดที่ 21 ซิตี้จะมายัดเยียดความพ่ายแพ้ให้ ลิเวอร์ ได้ถึงถิ่นเป็นนัดแรก แต่ยังไงทีมของเป๊ปก็ยังมีแต้มตามอยู่ถึง 4 แต้ม กระทั่งนัดที่ 24 และ 25 ทีมของ คล็อปป์ พลาดเสมอไป 2 เกม กลับกันตั้งแต่นัดที่ 25 ซิตี้ก็ชนะรวดทุกนัดจนจบฤดูกาล ขณะที่ หงษ์แดง ก็ยังมีหลุดเสมออยู่น่าจะประมาณสองนัด จบฤดูกาล 2018-19 หลังครบ 38 นัด เรือใบสีฟ้า มีแต้มชนะ หงส์แดง 1 แต้ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 98 แต้ม ลิเวอร์พูล มี 97 แต้ม อกหักกันไปเป็นแถว แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่าแม้ ไปไม่ถึงดวงจันทร์ แต่เราก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว ยังพอมีเรื่องให้ยิ้มได้ หลังจบนัดชิงดำ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ด้วยสกอร์ 2-0 ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์หูใหญ่ได้เป็นสมัยที่ 6 เรียกว่าที่ทุ่มทุน และทุ่มเทสร้างกันมาไม่เสียเปล่า อย่างน้อยก็มีอะไรติดไม้ติดมือ แม้จะต้องโหยหวนหาแชมป์ลีกกันต่อไป