กระแสยอดฮิตในสังคมเราในปัจจุบันนี้ คงหนีไม่พ้นไปด้วยเรื่องการรณรงค์ช่วยกันรักษาโลกของเรา ธรรมชาติที่ถูกเหล่ามนุษย์อย่างพวกเราทำลายลงไปเสียมาก จึงเกิดโครงการที่เป็น Talk of the town กันมากในเรื่อง "การงดใช้ถุงพลาสติก"ที่พึ่งดีเดย์ใช้กันทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมา "ขอขอบคุณที่ไม่รับถุงนะคะ" เสียงหวาน ๆ จากพนักงานสาวสวยเซเว่นกล่าวขอบคุณพวกเราหลังจากคิดเงินเสร็จ ไม่วายมีเสียงบ่นอุบอิบออกมาจากเจ้าตัวเล็กที่พยายามหอบขนมที่ตัวเองเพลิดเพลินหยิบมาเสียกองโตอย่างทุลักทุเลขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน เป็นโอกาสอันดีที่แม่ผู้ตั้งปณิธานในการช่วยกัน Save the World อย่างเรารีบใช้เวลานี้ในการปลูกฝังจิตสำนึกแก่เด็ก ๆ สอนให้เขาได้ตระหนักถงความจำเป็นที่เราต้องร่วมกันช่วยลดขยะ ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมีผลกระทบต่อเราอยู่ในปัจจุบัน ทั้งปัญหาฝุ่น PM2.5 เรื่องขยะล้นโลก สัตว์ที่ต้องตายไปเพราะกลืนขยะเข้าไป พวกเด็ก ๆ รับฟังอย่างตั้งใจและเริ่มเห็นด้วยกับการลดใช้ถุงพลาสติกที่ถึงแม้ว่าจะทำให้ตัวเองยุ่งยากขึ้นบ้างในการใช้ชีวิตประจำวันก็ตาม บทสนทนาของพวกเราดำเนินไปอย่างออกรสออกชาติ แล้วก็เรื่อยมาจนถึงความอยากรู้ใคร่สงสัยของเจ้าตัวยุ่งที่เห็นว่านอกจากวิธีการลดใช้แล้ว เรายังมีวิธีอื่นที่จะช่วยได้เพิ่มอีกไหม ถ้าเรานำขยะที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือทำอย่างอื่นที่เกิดประโยชน์จากขยะเหล่านั้นได้ไหม แม่จึงได้อธิบายถึงวิธีการ "รียูส(REUSE)" แต่อยากให้เด็ก ๆ ได้เห็นภาพชัดเจนกว่าคำพูดทำให้นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งขึ้นมาได้ ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ใยไปกันเลยดีกว่าตามสไตล์ ปุบปับทัวร์ กลับรถเปลี่ยนเป้าหมายจากกลับบ้านมุ่งหน้าเดินทางสู่อ่างทอง ไปยัง บ้านหุ่นเหล็ก ที่ทางหลวงหมายเลข 32 ( สายเอเซียฝั่งขาเข้า ) หลักกิโลเมตรที่ 56 (กม.56) ขอขอบคุณรูปภาพแผนที่จาก เฟสบุ๊คบ้านหุ่นเหล็ก บ้านหุ่นเหล็ก เป็นสถานที่จัดแสดงโชว์ประติมากรรมที่ประดิษฐ์จากเศษเหล็ก อะไหล่เก่า ๆ ของเครื่องยนต์ เช่น น็อต ฝาท้ายกระบะรถยนต์ โดยเจ้าของคุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์ได้คิดประดิษฐ์เป็นรถมอเตอร์ไซด์เหล็กคันจิ๋วเป็นผลงานชิ้นแรก และได้พัฒนาคิดค้นเรื่อย ๆ มา จากปีพ.ศ.2543 มาจนถึงปัจจุบันนี้ มีผลงานออกมามากมาย จึงได้นำมารวบรวมจัดแสดงโชว์ให้ทุกคนได้ชม และสัมผัส ผลงานหลากหลายชิ้นในบ้านหุ่นเหล็กนี้ ซึ่งผลงานมีหลากหลายแนว ทั้งหุ่นยนต์ทรานฟอร์เมอร์ อันนี้โดนใจเจ้าตัวเล็กมากมาย ยืนดูตาค้าง ตะลึงคงนึกว่านี่ตัวจริงหรือเปล่ากระมัง ยังมีตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์ที่พวกเรารู้จักอีกมาก เช่น HULK ,WALL E ,Godzilla และอีกมากมาย ที่ดูสมจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อย ๆ จนแทบไม่คิดว่าจะทำจากเศษเหล็กที่มีความแข็งทื่อแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะสามารถนำเศษเหล็กมาประดิษฐ์รวมกันได้อย่างมีมิติ รายละเอียดได้มากเหมือนอย่างกับงานปั้นเลยทีเดียว ยังมีเหล่าเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากฝาท้ายรถกระบะ หรือยางล้อรถที่มีสไตล์มีความลงตัวไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงของเก่า หรือของเหลือใช้ แต่ดูสวยงาม และที่สำคัญเป็นเก้าอี้ที่เมื่อเห็นแล้วให้หวลนึกถึงภาพความทรงจำในสมัยก่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างของที่นี่ คือ ร่มด้ามไม้น่ารัก ๆ ที่วางอยู่ในโซนที่เป็นที่โล่งกลางแจ้งไว้จัดแสดงหุ่นตัวใหญ่ ตอนแรกยังนึกว่าทำไมต้องวางร่มไว้นะ หรือเป็นสิ่งประดิษฐ์จากของเหลือใช้อีกชิ้นหรือไง คิดได้ไม่นานหันมาอีกทีสมาชิกในทีมก็หยิบร่มคนละคันกางเดินชมหุ่นยนต์พิทักษ์โลกกันได้อย่างละเอียดทุกซอกมุม เลยถึงบางอ้อ แหมช่างใส่ใจผู้มาเยือนในทุกสถานการณ์จริง ๆ บ้านหุ่นเหล็ก ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ โดยแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนส่วนจัดแสดงผลงานที่เสร็จแล้ว และโซนส่วนการผลิต ทำให้ในวันนี้เหล่าบรรดาลูกทัวร์ของปุบปับทัวร์จึงได้เห็นถึงกรรมวิธีจากของจริงเลยว่าการนำเอาของเหลือใช้ แบบเศษเหล็กที่ดูแล้วไม่มีค่าใด ๆ บางคนก็ทิ้งกลายเป็นขยะที่นับวัน ๆ จะมีมากขึ้น ๆ จนจะล้นโลกอยู่แล้วนั้นมาคิดค้นประดิษฐ์ต่อยอดจนกลับมากลายเป็นของมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง ผลงานจากที่นี่นอกจากจะโชว์ในส่วนจัดแสดงแล้ว ก็ยังมีคนมาสั่งทำ สั่งซื้อไปเป็นของประดับตกแต่งร้าน และบ้านอีกมาก นับได้ว่าสถานที่แห่งนี้ช่วยให้เราลดปริมาณขยะลงไปได้มากโขเลยทีเดียว ลูกทัวร์ตัวน้อยของเราดูจะทึ่งมาก สนอกสนใจ เดินผ่านแอบได้ยินบทสนทนาของสองตัวยุ่งอุทานขึ้นมาว่า "ดูสิ ของชิ้นนี้ถ้าเป็นเรานะคงทิ้งขยะไปแล้ว แต่เขาเอามาทำซะสวยเชียว สงสัยต้องกลับไปเก็บจากขยะขึ้นมาประดิษฐ์เป็นของใช้บ้างแล้ว" ได้ฟังแล้วก็รุ้สึกดีที่เราได้ปลูกฝังแนวคิดการช่วยกันลดขยะ ลดปัญหาของโลก วิธีแก้ที่ดีที่สุดของปัญหา คือ เริ่มที่จิดสำนึกของแต่ละคน เพียงช่วยกันคนละไม้คนละมือปัญหาที่ว่าใหญ่ก็จะดูเล็กลงไปถนัดตาเลยทีเดียว ต้องขอขอบคุณสถานที่แห่งนี้ บ้านหุ่นเหล็ก ที่นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินเมื่อได้มาเยือนแล้ว ยังได้ช่วยให้เราได้สร้างข้อคิด แง่คิดดี ๆ กลับไปใช้ในชีวิตได้อีกด้วย ลองมาเยี่ยมชม สนับสนุนแนวคิดดี ๆ ของคนไทยกันนะคะ รับรองว่าสถานที่แห่งนี้มีดีมากกว่าแค่ตาเห็น บ้านหุ่นเหล็ก เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น. โดยมีค่าเข้าชมสถานที่ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท (เด็กมีความสูงต่ำกว่า 90cm เข้าชมฟรี) สถานศึกษาที่ต้องการพานักเรียนเข้าชมเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อนัดวันเวลาเข้าชม ทางบ้านหุ่นเหล็กเปิดให้เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งคณะด้วยนะ ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็ปไซด์ www.banhunlek.com "ปัญหาเริ่มต้นแก้ได้ที่ตัวเรา มาปลูกจิตสำนึกแก่ลูกหลานผ่านประสบการณ์ดี ๆ ที่บ้านหุ่นเหล็กกันเถอะ" เครดิตภาพถ่าย : Buakhow (เจ้าของบทความ)