สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังจังหวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง นั่นก็คือจังหวัดกำแพงเพชรซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมายังจังหวัดแห่งนี้ โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไรตามมาครับ ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ ผมได้รับการเชื้อเชิญจากพี่ที่สนิทคนนึงบอกให้ ผมลองมาเที่ยวกำแพงเพชรดูผมตอบอย่างไม่ลังเลครับว่าไปแน่นอน หลังจากนั่นไม่นานผมจึงมีโอกาสเดินทางไปกับเพื่อนสนิทโดยออกเดินทางจากหมอชิตเวลาเกือบ 10 โมงเช้า เราจ่ายเงินค่ารถทัวร์ 281 บาท ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงเราก็มาถึงบขส.จังหวัดกำแพงเพชรเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของประวัติศาสตร์ไทยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยไว้รับศึกจากพม่า ฉะนั้นเมืองแห่งนี้มีความเก่าแก่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ที่รอให้ผมไปค้นหาแน่นอน ผมถึงบขส.กำแพงเพชร บ่ายสองครึ่ง พี่ที่รู้จักก็มารับและพาไปที่บ้านพักให้หายเหนื่อย หลังจากนั้นก็พาเราทั้งสองไปไหว้วัดพระธาตุนครชุม ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสร้างสมัยพระยาลิไท กษัตริย์ลำดับที่ 6 ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองกำแพงเพชร หลังจากเดิมชมวัดและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เราก็ขับรถไปบริเวณสวนสาธารณะสิริจิต ซึ่งบรรยากาศตอนเย็นดีมากเพราะอยู่ใกล้แม่น้ำปิงนั่งหาอะไรดื่มเย็น ๆ พร้อมนั่งดูพระอาทิตย์ตก ถือเป็นการปิดฉากวันแรกของผมในจังหวัดกำแพงเพชรได้อย่างงดงาม ซื้อตั๋วรถทัวร์ที่หมอชิต เตรียมตัวไปเมืองคนเเกร่ง ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน วัดพระบรมธาตุนครชุม จ.กำเเพงเพชร ยามเย็น ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน เช้าวันต่อมาพวกเราทั้งสามก็ขับมอเตอร์ไซต์ตั้งแต่เช้าเพื่อไปที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ความเก่าแก่ของโบราณสถานทั้งในเขตกำแพงเมืองและเขตนอกกำแพงเมือง มีวัดเก่าประมาณ 50-60 วัด เช่นวัดช้างรอบ วัดอาวาสใหญ่ วัดพระนอน วัดพระสี่อิริยาบถ วัดดงหวาย เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรร่มรื่น น่าเดินศึกษาเรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาก โดยในปี พ.ศ. 2534 Unesco ประกาศให้ที่นี่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และศรีสัชนาลัยอีกด้วย ผมเดินดูวัดต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ จนมาเจอวัดช้างรอบ เป็นวัดที่ค่อนข้างใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินมีฐานเจดีย์ขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปปั้นช้างครึ่งตัวเวียนรอบฐาน 68 เชือก สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากอาณาจักรสุโขทัย(คล้ายวัดช้างล้อม ของสุโขทัย) และรอบๆฐานยังพบรูปประติมากรรมลวดลายต่าง ๆ เช่น รูปเทวดา รูปยักษ์ รูปนางรำ อันงดงามซึ่งสื่อถึงป่าหิมพานต์ และอีกอย่างหนึ่งที่ผมเพิ่งเคยเห็นและเพิ่งได้ยินคือ “เวจกุฎี” นั่นก็คือส้วมโบราณ ซึ่งไว้สำหรับพระภิกษุ ภายในบริเวณวัดอาวาสใหญ่ วัดช้างรอบ สร้างด้วยศิลาเเลง ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน เวจกุฎี ภายในวัดอาวาสใหญ่ ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน เราเดินสำรวจดูของโบราณต่าง ๆ ในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรจนลืมดูเวลาว่าตอนนี้เกือบบ่ายโมงแล้ว เราทั้งสามจึงรีบทานข้าวเพื่อที่จะไปน้ำตกชื่อดังของจังหวัดกำแพงเพชรนั่นคือน้ำตกคลองลาน เวลาบ่ายโมงครึ่งเราออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจมุ่งหน้าไปน้ำตกคลองลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอคลองลาน ระยะทางจากตัวอำเภอเมืองไปน้ำตกคลองลาน 60 กิโลเมตร เราขับรถตามกันไปเจอทั้งลมทั้งฝนเล่นงาน ทำให้เวลาถึงตัวน้ำตกช้ากว่าที่กำหนดไว้มากแต่เมื่อขับเข้าไปบริเวณตัวน้ำตกอากาศเย็นสบาย สดชื่นมาก และภาพแรกที่เห็นตัวน้ำตกคลองลานผมหยุดนิ่งอยู่พักนึง เนื่องจากผมไม่เคยเห็นน้ำตกที่ไหนสวยขนาดนี้มาก่อน ตัวน้ำตกมีความสูงจากพื้นประมาณ 100 เมตร มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง ผมมองดูรอบๆตัวน้ำตกทุกอย่างดูถูกจัดวางด้วยธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นี้ดูแลสถานที่ดีมากไม่ค่อยมีขยะให้เห็น น้ำตกคลองลาน ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน น้ำตกคลองน้ำไหล ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน ลานกางเต็นท์ หน้าน้ำตกคลองน้ำไหล ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน หลังจากชมน้ำตกคลองลานสักพักผมเดินทางต่อไปอีกน้ำตกใกล้ ๆ กันคือน้ำตกคลองน้ำไหล ซึ่งน้ำตกที่นี่แบ่งออกเป็น 9 ชั้น โดยสามารถเล่นน้ำได้บริเวณชั้นที่ 1-3 และบริเวณด้านหน้าน้ำตกมีลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้พักแรมอีกด้วย เราถ่ายรูปกันเสร็จตะวันก็เริ่มลับฟ้าเป็นสัญญาณว่าเราควรเดินทางกลับ ช่วงเวลาขากลับระหว่างที่ผมขับมอเตอร์ไซค์นั้นผมก็อดยิ้มคนเดียวไม่ได้ ว่าตัวผมก่อนหน้าเมื่อหลายปีก่อนคงต่างกับตอนนี้มาก หากเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่ออกจากห้องมาให้ตัวเองเหนื่อยแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ผมรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่มาก ๆ มันเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข เราได้เห็นผู้คน ได้เห็นโลกกว้าง สถานที่ใหม่ ประสบการณ์ใหม่ รู้สึกว่าการเที่ยวจริง ๆ เราไม่ต้องสร้างกฎเกณฑ์อะไรเยอะ ไม่ต้องคาดหวังกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เราเพียงปล่อยใจให้ยินดีกับทุกอย่างที่จะเจอต่อไปข้างหน้า มองเป็นเรื่องสนุก เพียงเท่านี้ชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้นมากเลยครับ เจอกันใหม่ทริปหน้าสวัสดีครับ หมายเหตุ : ภาพหน้าปกถ่ายโดยผู้เขียน