จับขโมย...โดยแม่ค้า

ไซตองออมบุญรักสุข

31 ต.ค. 2021|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก ไซตองออมบุญรักสุข

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

เรื่องของการขโมยเป็นเรื่องที่ยังมีทุกยุคทุกสมัย เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ยาก แม้ว่าปัจจุบันจะมีกล้องวงจรปิดช่วยบันทึกเหตุการณ์ไปแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังได้เห็นข่าวแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ผลของการกระทำก็ยุติธรรมเสมอ ใครทำผิดก็ต้องได้รับผลของการกระทำเช่นกัน

ขนมในร้าน เมื่อมีโจรที่ขโมยจนช่ำชองแล้ว ก็จะมีวิธีที่จะหาช่องทางในการขโมยของบ้านคนอื่นได้เสมอ มีเทคนิคในการสังเกตร้านค้าหรือบ้านที่เป็นเป้าหมายในตอนกลางวัน แล้วค่อยวางแผนดำเนินการในเวลากลางคืน 🌃 เป็นช่วงที่ปลอดคนที่สุด ถ้าโจรไม่กลัวผีกับหมา ดึกแค่ไหนก็ไม่ต้องหวั่น

มีร้านค้าแห่งหนึ่งไม่มีกล้องวงจรปิดเนื่องจากไม่มีไฟฟ้า เริ่มสงสัยเงินที่เริ่มหายในช่องเก็บเงิน เพราะทุก ๆ เช้า แม่ค้าจะมาเปิดร้าน และสำรวจเงินที่จะใช้ทำการทอนในแต่ละวัน แม่ค้าก็เริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงหลายเช้าแล้ว จึงเริ่มสงสัย เลยสอบถามเด็ก ๆ ที่เป็นลูกหลานมาช่วยขายของในเวลากลางวัน เพราะสามารถเปิดช่องเงินได้หรือรู้จุดเข้า-ออกของร้านได้เป็นอย่างดี

เด็ก ๆ ในร้านก็บอกตามตรงว่าไม่ได้หยิบไป ถ้าจะใช้จริง ๆ ก็จะต้องขอก่อนอยู่แล้ว เพราะอาศัยอยู่ด้วยกัน แม่ค้าเจ้าของร้านเลยเดินสำรวจตามจุดต่าง ๆ ก็ไม่เห็นอะไรผิดสังเกต จนวันนี้เริ่มเห็นแววว่าใครเป็นคนมาขโมยเงินที่ร้าน

วันนี้ผลกรรมชั่วได้ตอบแทนคนผิด เพราะมีพ่อค้าขายน้ำอีกคนที่ขายของอยู่ในหมู่บ้าน มาซื้อมะนาวที่ร้านค้าเพื่อไปใช้ที่ร้านตัวเองเหมือนกัน แต่สิ่งที่เฉลยว่าใครเป็นคนขโมยเงินที่ร้านเป็นเพราะแม่ค้าสังเกตเห็นเงินที่มาซื้อมะนาวมีจุดตำหนิไว้ด้วยหมึกสีดำที่แบงค์ทุกใบ โดยวางไว้คืนละไม่กี่ใบ และสังเกตว่ายังหายไปทุก ๆ คืน โจรก็ไม่ได้เอาไปหมดเพราะกลัวผิดสังเกต แต่แม่ค้าสังเกตตลอด จนวันนี้ถึงรู้คำตอบว่าใครเป็นคนขโมย จากพ่อค้าที่มาซื้อของในวันนี้

แม่ค้าถามพ่อค้าที่มาซื้อมะนาวว่า "เงินที่มาซื้อมะนาวนี้ได้มาจากไหน" พ่อค้าก็เลยตอบว่า "มีผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งมาซื้อน้ำที่ร้าน มีอะไรไหม?" แม่ค้าก็ตอบว่า "มีสิ เพราะเงินนี้เป็นเงินที่มาจากร้านของเราที่หายไปประจำ บอกชื่อมาว่าได้มาจากใคร" ว่าแล้วพ่อค้าก็เอ่ยชื่อคนที่สงสัยว่ามาขโมยเงินที่ร้าน จากนั้นแม่ค้าก็โทรศัพท์หาผู้นำชุมชนเพื่อมาช่วยเป็นพยาน และมาดำเนินการสอบถามผู้ต้องสงสัย เรียกผู้ต้องสงสัยมาพูดคุยที่ร้านค้า เพราะแม่ค้ามั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่ชัดเจนพอที่จะเอาผิดคนขโมยของได้

คนขโมยของก็รับสารภาพทุกอย่างว่าเข้าทางไหน ออกทางไหนใช้วิธีการอย่างไร โดยสารภาพว่าขึ้นทางหลังคา เข้ามาลงตรงชั้นขายของ แล้วออกทางหน้าต่าง แล้วปิดบังกลอนไว้กับตุ๊กตาที่วางอยู่แถว ๆ นั้น เลยทำให้เจ้าของร้านไม่เห็นสิ่งผิดสังเกต นอกจากคำสารภาพแล้วแม่ค้าก็ขอดูเงินในกระเป๋าก็ยังเจอแบงค์ที่เขียนตำหนิไว้อยู่อีกหลายใบจึงกลายเป็นหลักฐานมัดตัวที่แน่นหนาขึ้นอีก

แบงค์ สุดท้ายคนที่ขโมยของก็ต้องยอมจำนนกับหลักฐานที่ชัดเจนในครั้งนี้ เพราะวิธีที่ฉลาดของแม่ค้าที่เป็นช่างสังเกตในครั้งนี้ แม้ว่าต้องแลกด้วยเงินหลายพันที่หายไปด้วยเหมือนกัน...แต่คุ้มนะ!