อื่นๆ

ตื่นแต่ดึก...สึกแต่หนุ่ม

253
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ตื่นแต่ดึก...สึกแต่หนุ่ม

วันหนึ่งพระหนุ่มวัย 30 ปีที่มีจริยวัตรอันเรียบร้อยและมีความสามารถรอบด้าน ทั้งภาษา การศึกษา การเทศน์ทั้งภาษาไทยและภาษาถิ่น ทำหน้าที่เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาส เป็นที่รักของชาวบ้านทุกคนได้ตัดสินลาสิกขาออกมาโดยไม่ได้บอกกล่าวใคร แม้แต่โยมอุปัฏฐาก ก็เลยสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่ได้รับรู้เรื่องนี้

ชุดขาวบ้างก็คิดว่าเป็นเพราะท่านมีปัญหาในวัด กับพระด้วยกันหรือการปกครองภายในวัด

บ้างก็คิดว่าชาวบ้านไม่ได้ดูแล อุปัฏฐากหรือใส่ใจพระศาสนา

บ้างก็คิดว่าท่านยังหนุ่มแน่นก็น่าจะอยากเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตนเองทางโลกบ้าง

บ้างก็คิดว่าท่านก็ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายมาอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้วก็ควรจะทำอย่างอื่นตามใจที่ต้องการได้แล้ว

บ้างก็อาจจะคิดไปถึงการกระทำผิดที่ไม่เหมาะสมบางอย่างหรือเปล่า จึงรีบลาสิกขาออกมาทันที เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลบๆ ของพระสงฆ์เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

Advertisement

Advertisement

หรืออีกหลากหลายความคิดที่เกิดขึ้นตามมา

วัดชนบทแต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากทราบข่าวการลาสิกขาของพระหนุ่มรูปนี้ก็คือ ความเสียใจ เสียดาย ของชาวบ้าน เพราะตลอดระยะเวลาที่ท่านปฏิบัติศาสนกิจก็ปฏิบัติดีมาตลอด รู้สึกใจหาย ไม่อยากให้เกิดขึ้น บ้างก็รีบมาหา "ทิด" ที่บ้าน บ้างก็ยังไม่กล้ามาพบ เพราะยังไม่พร้อม บ้างก็มาสอบถามคนใกล้ชิดว่าเป็นเรื่องจริงไหม 

แล้วหลังจากลาสิกขามาได้ 2 วัน "ทิดใหม่" ก็ได้แจ้งสาเหตุของการลาสิกขาให้สหธรรมิกและชาวบ้านทราบผ่านลายมือที่แสดงความตั้งใจผ่านความในใจออกมา ความว่า "ด้วยความไม่ถนัดในด้านการปกครองทางคณะสงฆ์ ไม่มีความขัดแย้งในวัดแต่อย่างใด เป็นวิบากส่วนตัวสมัยเรียนเป็นสาเหตุหลัก จึงขอลาสิกขา และขออภัยทั้งคณะสงฆ์และคณะชาวบ้านที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ขอบคุณทุกท่านทั้งพระอาจารย์ สหธรรมิก และญาติโยม ตลอดระยะ 10 ปีที่ดำรงสมณะเพศ แม้ว่าวันนี้ต้องเปลี่ยนสถานะไปแล้วก็ยังฆราวาสก็ยังคงปฏิบัติเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีต่อไป"

Advertisement

Advertisement

พรพุทธศาสนาถึงแม้ว่าคณะสงฆ์และชาวบ้านจะเสียดายและเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นมา เพราะเป็นชีวิตของของทิดเองที่ต้องเลือก การมาอยู่จุดที่ต้องมาทำหน้าที่รักษาการแทนเจ้าอาวาสก็ใช่ว่าเป็นเรื่องง่าย เป็นศาสนกิจที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น อีกทั้งความตั้งใจส่วนตัวที่อยากทำอีกมากมาย บางอย่างไม่สามารถจะแสดงความคิดเห็นหรือแก้ปัญหาในเพศบรรพชิตได้ การออกมาก็อาจจะทำให้ปัญหาบางอย่างปล่อยละวางลงได้ อีกทั้งความฝันที่ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่อยากให้เกิด เป็นเหตุผลส่วนตัว ที่สามารถทำได้เต็มที่ แค่เราวาดหวังในสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ตามใจของเราเป็นที่ตั้ง เมื่อไม่ได้ดั่งที่คิดไว้ก็เลยรู้สึกผิดหวังไป

กราบพระมีคำพูดคนโบราณกล่าวไว้ว่า "ตื่นแต่ดึก...สึกแต่หนุ่ม" จึงเป็นคำกล่าวที่เป็นสอนเราได้เป็นอย่างดี หากจะทำอะไรก็ให้รีบทำแต่เนิ่นๆ การนอนตื่นสายก็จะทำอะไรไม่ทันกาล การสึกตอนอายุมากก็ไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะการสึกของพระ คือ การเริ่มต้นชีวิตทั้งโลกใหม่ ยิ่งใครที่บวชนาน การปรับตัวในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ จึงสำคัญ การรีบสึกเมื่อยังหนุ่มอยู่จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าสึกตอนอายุมากๆ อาจจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่คล่องตัว ไม่ไหวได้ อย่างน้อยการลาสิกขาของพระดีๆ รูปหนึ่งก็ทำให้ได้อุบาสกดีๆ มาเสริมพุทธบริษัทให้มั่นคงยิ่งขึ้นอีกคน

Advertisement

Advertisement

ธำรงพระศาสนาวันข้างหน้า หากภารกิจทางโลกเสร็จสิ้นหรือไม่ใช่ทางของเขา การกลับบวชอีกครั้งเพื่อธำรงพระพุทธศาสนาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร...ใช่ไหมครับ?


ทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์