หากจะพูดถึงจังหวัดที่แวดล้อมไปด้วยภูเขาสีเขียวๆในประเทศไทยแล้ว หนึ่งในจังหวัดที่คงจะลืมไปไม่ได้เลยคือจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ดึงดูดความสนใจผู้คนจากทั่วสารทิศให้มาท่องเที่ยวตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี สำหรับการเที่ยวครั้งนี้ ผู้รีวิวได้ไปท่องเที่ยวกันแบบแบ็คแพ็คสองคน จึงขอรีวิวตั้งแต่การเดินทางและบรรยากาศของการท่องเที่ยวมาให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงกลิ่นไอการเที่ยวแคมป์ในจังหวัดกาญจนบุรี @3199 Mountain camp, Kanchanaburi ผู้รีวิวได้เริ่มต้นการเดินทางที่สถานีขนส่งรถโดยสาร จังหวัดกาญจนบุรี โดยรถที่เราจะเดินทางไปในครั้งนี้คือ รถกาญจนบุรี-เอราวัณ จุดหมายปลายทางของเราคือ 3199 แคมป์ เราได้จองที่พักไว้ล่วงหน้าในราคาคนละ 400 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า ในระหว่างการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางครั้งแรกของเราสองคนนั้น บรรยากาศข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี อากาศช่วงเดือนกันยายนกำลังสบายเหมาะกับการนอนแคมป์เป็นอย่างมาก เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทางของเราแล้ว เมื่อถึงจุดหมาย 3199 แคมป์ เวลาประมาณ 12.00 น. ซึ่งเวลาเช็คอินคือ 16.00 น. เราก็แวะเติมพลังกันก่อนที่ 3199 cafe ที่คาเฟ่แห่งนี้เต็มไปด้วยของกินที่ชวนให้เราอดชิมเกือบทุกเมนูไม่ได้ เราสองคนลองชิมฝีมือพิซซ่าอบของเด็ดของที่ร้าน ขอรีวิวให้ 10/10 คะแนนเลยค่ะ พิซซ่าของที่ร้านอร่อยมาก หอมสุดๆ นอกจากนี้ทางร้านยังให้บริการที่เป็นกันเองและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก บรรยากาศในร้านก็ธรรมชาติสุดๆไปเลย พอเราสองคนอิ่มจากการกินพิซซ่าและกาแฟแล้ว ก็เข้ามาเช็คอินที่เค้าเตอร์ได้เลย อุปกรณ์ที่เราได้คือตะกร้าที่ประกอบด้วย ผ้าเช็ดตัว ไฟฉาย และคูปองสำหรับกินหมูกะทะฟรีช่วงเย็น และอาหารเช้าฟรีช่วงเช้า แคมป์ที่เราอยู่กันเป็นแคมป์ขนาดกลาง ภายในมีพัดลมตัวเล็กให้ 1 ตัว และมีปลั๊กสำหรับเสียบใช้ไฟฟ้าได้ตามสบาย คืนที่เราไปนั้นฝนตก บรรยากาศก็จะเย็นๆโรแมนติกเป็นอย่างมาก แต่ช่วงกลางวันจะค่อนข้างร้อนนิดนึง แนะนำว่าผู้อ่านที่เดินทางโดยรถส่วนตัวควรนำพัดลมไปด้วย หรืออาจจะนำของไปปิ้งย่างในช่วงเย็นก็บรรยากาศเข้ากันดีเป็นอย่างยิ่ง แต่เราสองคนไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย เนื่องจากเป็นการเดินทางมาครั้งแรก แต่ทางที่พักก็ได้มีร้านค้าไว้บริการอาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มอีกมากมาย ทำให้พวกเรามีเสบียงเติมพลังตลอดเวลา ที่พักแห่งนี้มีสวนน้ำซึ่งกว้างมากพอสมควร ทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย และมีเครื่องเล่นมากมายหลายอย่าง เป็นไฮไล์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ รอบๆสวนน้ำก็จะมีที่นั่งสำหรับพวกเราทุกคน และยังมีกิจกรรมเดินขึ้นเขาเพื่อชมพระอาทิตย์ตกเวลา 17.00 น. และหลังจากเราสองคนจากเล่นน้ำและเดินขึ้นเขาเพื่อชมพระอาทิตย์กับไกด์แล้ว เราสองคนก็มากินมาม่ากระป๋องร้อนๆริมสระน้ำ และกลับไปอาบน้ำเพื่อมากินหมูกะทะที่ทางที่พักจัดหาให้ ซึ่งอยากบอกว่าอร่อย 9/10 คะแนนเลยค่ะ วันรุ่งขึ้นของการเที่ยวของเราสองคน เราเริ่มต้นด้วยอาหารเช้าที่ทางที่พักจัดหาให้ในช่วงเวลา 7.00-10.00 น. อยากบอกว่าอร่อยมากๆค่ะ 10/10 คะแนนไปเลยค่ะ เมื่อจบทริปเราก็เช็คเอาท์ และรอรถกาญจนบุรี-เอราวัณ แต่รถมาประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อคัน เราสองคนจึงตัดสินใจค่อยๆเดินไปเรื่อยๆตามเส้นทางของทางหลวงหมายเลข 3199 จนกระทั่งถึงร้านค้า จากนั้นเราสองคนก็เริ่มหิวก็ครั้งค่ะ เราสั่งข้างผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้าและจ่ายเงินทันที เนื่องจากขณะที่เรากินข้าว เราสองคนก็จดจ่อกับการรอรถกาญจนบุรี-เอราวัณด้วยเช่นกัน หลังจากกินข้าวคำสุดท้ายเสร็จและกำลังดื่มน้ำได้ครึ่งแก้ว รถกาญจนบุรี-เอราวัณก็มาโดยทันที เราสองคนก็ได้สะพายกระเป๋าและโบกรถโดยทันที จำได้ว่าวิ่งตามรถจนเหนื่อยอยู่เหมือนกัน พอได้ขึ้นรถและจ่ายเงินค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว เราสองคนก้หลับโดยทันที ประสบการณ์การเดินทางแบบแบ็คแพ็คของเราสองคนในครั้งนี้เป็นการเดินทางที่สนุกมากๆ เต็มไปด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แต่เราสองคนยังตั้งใจจะเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป และจะนำเรื่องราวสนุกๆจากการไปเปิดโลกกว้างของเราสองคนมารีวิวิให้ทุกท่านได้อ่านกันต่อไป