สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีทุกท่านนะค้า กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับรอบนี้ผู้เขียนจะพามาเปลี่ยนบรรยากาศ หลังจากเขียนถึงเรื่องท่องเที่ยวบุกป่าฝ่าดง เน้นเดินมาหลายบทความ วันนี้ผู้เขียนจะพาเพื่อน ๆ มานั่งชิว ๆ ทานอาหาร ชมนกชมไม้กันสบาย ๆ บ้างค่ะ ในยุคสมัยนี้เหล่าคาเฟ่ต่าง ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียวเชียว หลาย ๆ ร้านเริ่มจัดบรรยากาศซ้ำรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำกัน หลาย ๆ ท่านที่เป็นสายคาเฟ่จึงอาจเริ่มหาร้านคาเฟ่ที่ถูกใจได้ยากขึ้น แต่หากมาที่นี่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายเที่ยวคาเฟ่หรือไม่ก็ตาม รับรองได้เลยว่าต้องถูกใจแน่นอนค่า ~ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มากันที่ "The Village Farm To Cafe" ถือได้ว่าเป็นคาเฟ่ชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรีเลยเหมือนกันนะคะ ผู้เขียนไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่าคนเยอะมากกกกกเลยค่ะ ใกล้ ๆ คาเฟ่จะมีร้านอาหารที่ชื่อ Keeree Mantra (คีรีมันตรา) อยู่ด้วยนะคะ เพื่อน ๆ สามารถมาฝากท้องไว้ที่นี่ได้เช่นกันนะคะ แต่เป้าหมายของเราในวันนี้นั้น เรามาเพื่อสำรวจเมนูในคาเฟ่แบบเน้น ๆ ค่ะ จึงเดินผ่านคีรีมันตราตรงไปยังที่ The Village Farm To Cafe เลยค่า บรรยากาศภายนอกร้านของทั้งคีรีมันตราและ The Village Farm To Cafe สวยงามและหรูหรามากทั้งคู่เลยค่ะ ในวันที่ผู้เขียนไปนั้น ข้างหน้า The Village Farm To Cafe มีต้นคริสต์มาสขนาดกลาง ๆ ประดับไว้หน้าร้านด้วยค่ะ เข้ากับบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่พอดี เมื่อเข้าไปในร้าน บรรยากาศโดยรวมก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ อาจเก็บภาพบรรยากาศภายในร้านมาฝากเพื่อน ๆ ได้ไม่มากเท่าใดนะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลพอดี คนจึงเต็มร้าน แน่นทุกโต๊ะเลยค่ะ จะยกมือขึ้นถ่ายภาพก็เกรงใจ ประกอบกับทานเฟรนซ์ฟรายเพลินด้วยค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลืมถ่ายเสียแล้ว .... อาหารถือว่าดีมากกกกค่ะ น่าจะถูกใจทั้งคอเครื่องดื่ม ของหวาน และอาหารมื้อหนักเลย เมนูมีไปตั้งแต่เครื่องดื่ม กาแฟ นม โกโก้ ต่าง ๆ เมนูหนักขึ้นมาเช่นสปาเกตตี้หรืออาหารแนวฝรั่งเศสก็มี หรือจะหนักขึ้นเป็นพิซซ่าก็ยังมีค่ะ และหากอยากกินเบา ๆ ลดแคลอรี่ก็มีเมนูสลัดด้วยนะคะ สำหรับมื้อนี้ผู้เขียนทานเฟรนซ์ฟรายค่ะ คงไม่อ้วนเท่าไหร่นะคะ เฟรนซ์ฟรายคือมันฝรั่งนี่นา (พยายามลืม ๆ เรื่องน้ำมันในการทอดไปชั่วคราวนะคะ ..) ซึ่งอร่อยมากกกกค่ะ เฟรนซ์ฟรายชิ้นใหญ่พอดีคำ กัด ๆ เคี้ยว ๆ จิ้มกับซอสที่ให้มาได้เพลิน ๆ ไม่อมน้ำมัน และทอดได้กรอบดีมากเลยค่ะ เคี้ยวสนุกมาก รู้ตัวอีกทีก็ทานหมดแล้วค่ะ ถ้าหากจำไม่ผิดไปเฟรนซ์ฟรายราคาประมาณ 80 กว่า ๆ นะคะ .. คุณแม่ของผู้เขียนลองสั่งยำอะโวคาโด+ผลไม้+กุ้งมาทานดู ผู้เขียนไม่ได้ลองทานผลไม้นะคะ เพราะเน้นกินเนื้อสัตว์ค่ะ .. จึงชิมไปแต่กุ้ง ซึ่งกุ้งดีมากกกค่ะ เนื้อแน่น ตัวโตมาก ถูกใจมากเลย ส่วนผลไม้เองก็ได้เสียงรีวิวมาจากแม่ว่ารสชาติดีเช่นกันค่า ราคาจานนี้หากจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 100 ปลาย ๆ หรือไม่ก็ 200 ต้น ๆ นะคะ แต่ถือว่าคุณภาพอาหารสมราคามากจริง ๆ ค่ะ รู้ได้เลยว่าคุณภาพอาหารในจานคัดสรรมาดีแน่นอน และพนักงานก็ถือว่าบริการได้ไวพอสมควรเลยค่ะ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลที่คนแน่นร้าน แต่ก็ไม่ได้รอออเดอร์นานเท่าที่คิด อาหารมาเรื่อย ๆ ค่ะ หรือหากนานเกินไปแล้วจะตามอาหาร พนักงานก็พร้อมบริการค่ะ ไม่มีวีนเหวี่ยงกันเลย ~ เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็จะหย่อน อ๊ะ ๆ แต่เรายังนอนกันตอนนี้ไม่ได้นะคะ เราจะพลาดจุดเด่นประจำคาเฟ่ไปไม่ได้นะคะ !! ผู้เขียนจึงแวะเข้าห้องน้ำข้าง ๆ คาเฟ่ก่อนจะได้เดินสำรวจคาเฟ่ต่อได้แบบสบายใจ ซึ่งทำให้ได้พบว่าขนาดห้องน้ำยังสวยและดูหรูหรามากเลยค่ะ ... ห้องที่ผู้เขียนเข้า แอบเจอน้องหมีมานั่งอู้งานด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นของร้านหรือใครลืมไว้ เลยแอบแชะภาพน้องมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีสักหน่อย จากนั้นเราก็ออกไปด้านหลังคาเฟ่กันเลยค่ะ แต่นแตแตแต่นแต่นแต่น แต่นแตนแต๊นนนน !! เราจะได้พบกับบรรยากาศเช่นนี้เป็นวิวทิวทัศน์แรกเลยค่ะ ดีต่อใจเป็นอย่างมากกก สีเขียวขจีเต็มไปทั่วทุกบริเวณ และมีโซนที่นั่งภายนอกเช่นนี้ด้วย เห็นน้ำพุอยู่ไกล ๆ และถัดออกไปเป็นทิวเขาที่โอบล้อม ประกอบกับเสียงเพลงที่ทางร้านเปิดคลอไปเบา ๆ คงต้องรบกวนให้ภาพได้เล่าเรื่องความสวยงามของสิ่งที่ผู้เขียนได้เห็นไปก่อนนะคะ รับประกันว่าหากได้เห็นด้วยตาของตนเอง จะรู้สึกคุ้มค่าที่ได้มาอย่างแน่นอนค่ะ -//- ผู้เขียนเดินตามทางเดินไปเรื่อย ๆ จนมาเจอกับน้อง ๆ กลุ่มนี้กำลังเดิน ๆ ลอย ๆ อยู่ในน้ำ ไม่แน่ใจว่าน้องอยู่ในตระกูลไหนระหว่าง เป็ด หงส์ และห่าน รบกวนผู้รู้บอกผู้เขียนหน่อยนะคะ ผู้เขียนไม่เคยแยกออกเลยค่ะ .. น้อง ๆ กำลังเดินกลับเข้าบ้านกันแล้ว สงสัยจะใกล้ได้เวลานอน แต่มนุษย์แบบเราก็ยังไม่หยุดค่ะ เดินต่อไปจนจะสิ้นสุดทางเดิน ซึ่งก็จะเจอกับบรรยากาศกอไผ่เรียงรายต่อกันเช่นนี้ สวยงามมากค่ะ น่าจะเป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปได้สวยเลย ตรงใกล้สุดริมทางเดินก็จะมีเหล่ากอข้าวสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้ เป็นอีกจุดที่น่าถ่ายภาพมากค่ะ ถ่ายต้นข้าวและได้แถมวิวทิวเขาที่โอบล้อมไปด้วย สุดริมทางสุดก็จะเป็นโซนเต๊นท์สีขาวดังในภาพ น่าจะเป็นโรงเพาะชำและปลูกต้นไม้ค่ะ ขาออกเราเดินกลับทางที่เรียงรายด้วยต้นไผ่ทั้งสองข้างทาง บรรยากาศดีมากกกกค่ะ ช่วงเวลาที่เริ่มจะมืด ทางร้านจะเริ่มเปิดไฟภายนอก หากมาเวลาเย็น ๆ ค่ำ ๆ เลยน่าจะได้บรรยากาศที่สวยงามและชิว ๆ ไปอีกแบบนะคะ ^^ สำหรับวันนี้หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้เห็นภาพบรรยากาศไปมากแล้วพอสมควร ผู้เขียนคงต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าจะได้มีโอกาสมาแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวและจุดเช็คอินให้เพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีใหม่ในโอกาสหน้านะคะ ~