เที่ยวกาญจนบุรี หน้าฝน เดือนกรกฎาคม 2020 สำหรับใครที่ชอบการเที่ยวเชิงธรรมชาติ การได้ไปสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ของต้นไม้ ภูเขา ที่ไม่มีเวลาไปไกลถึงเชียงใหม่ ไม่สามารถนั่งรถไกลถึงดอยอินทนนท์ กาญจนบุรี เป็นอีกทางเลือกที่เหล่านักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติควรได้ไปสัมผัส กับอากาศที่อยู่ท่ามกลางสายหมอก ไม่ว่าจะพักในโฮสเทล หรือนำเต็นท์ไปกางนอนเอง ต่างก็สัมผัสได้ถึงความฟิน บ้านอิต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาที่อยู่ท่ามกลางสายหมอก เป็นหมู่บ้านของความโรแมนติกสุดฟิน ท่ามกลางสายหมอก บ้านอิต่อง ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เคยเป็นเหมืองแร่ที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในยุคก่อน หมู่บ้านห่างชายแดนพม่าไม่ไกลนัก สามารถเดินทางไปต่อจากหมู่บ้านไปชายแดนพม่าแค่ 2 กิโลเมตร การท่องเที่ยวครั้งแรกในรอบปี เราเดินทางจากกรุงเทพ โดยรถยนต์เช่า ขับจากกรุงเทพ - บ้านอิต่องระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชม. ทางขึ้นเขาเพื่อไปบ้านอิต่อง เป็นเส้นทางเลาะภูเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ถนนทางขึ้นเขาค่อนข้างดี แต่มีบางระยะที่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไร เนื่องจากเส้นทางถูกกัดเซาะจากน้ำป่า ไม่แนะนำรถที่ค่อนข้างต่ำในการขับขึ้นไป และรถควรมีกำลังมากกว่า 1200 CC เพราะรถต้องปีนเขาขึ้นไปเรื่อยๆ เราใช้ Honda Jazz 1500 CC ในการปีนเขาขึ้นไป ไม่นำแนะสำหรับใครที่เพิ่งหัดขับรถหรือไม่เคยขับออกต่างจังหวัดมาก่อนขับขึ้นไปคนเดียว หมู่บ้านใช้การปั่นไฟใช้ ดังนั้นบ้านส่วนใหญ่จะเป็นห้องพัดลม และตอนที่เราไปเวลา 3 ทุ่มหมู่บ้านจะทำการดับไฟ เพื่อที่จะทำการปั่นไฟในตอนกลางคืน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงอากาศเย็น เปิดพัดลมก็นอนสบาย ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊สห้ามปรับน้ำอุ่นเอง อากาศบนนั้นตอนกลางคืนราวๆ 20 องศา อากาศกำลังน่านอนสบาย ไปบ้านอิต่องไปดูสูดอากาศบริสุทธิ์ที่รายล้อมไปด้วยหมอก ทั้งหมู่บ้านปกคลุมไปด้วยหมอก เหมือนอยู่ในเทพนิยาย สายหมอกจะผ่านมาเรื่อยๆ ตามความกดอากาศ ทำให้มีบางช่วงที่แทยจะมองไม่เห็นบ้านเรือน บางช่วงก็ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ** แนะนำใครที่เป็นหวัดง่ายให้พกเสื้อกันฝน หรือ ร่มไปด้วย เพราะหมอกหนามาก อาจทำให้ไม่สบายหรือป่วยได้ ไปบ้านอิต่อง ไปเป็นหนึ่งในผู้พิชิต 399 โค้ง เส้นทางขึ้นไปบนหมู่บ้านนี้ค่อนข้างลาดชัน มีหลุมบ่อบ้าง ในส่วนที่มีน้ำป่ากัดเซาะถนน ไม่แนะนำให้ขึ้นกลางคืนเพราะทางค่อนข้างน่ากลัวและอันตราย ไปเขียนที่แผ่นไม้ที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเคยขึ้นมาเที่ยวหมู่บ้านนี้ เป็นแผ่นไม้ ราคา 20 บาท เขียนไว้เป็นที่ระลึก ถ่ายรูปเก๋ๆ ไปบ้านอิต่องไปดูน้ำตกบนภูเขา ไปถ่ายรูปคูลๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ วิวที่สุดจะบรรยายกับน้ำตกจ๊อกกระดิ่น สามารถถ่ายรูป แต่เล่นเจ้าหน้าที่อุทยานไม่อนุญาติให้เล่นน้ำนะจ๊ะ โดยจะมีค่าเข้าอุทยาน ตามรูปเลย แต่เราไปวันหยุดซึ่งได้เข้าฟรี (โชคดีไปอีก) ไปบ้านอิต่อง ไปชมวิวบนเนินช้างศึก ไปดูป้อมปราการของทหารชายแดนไทยพม่า ซึ่งถ้ามองจากบนนี้เราสามารถมองเห็นประเทศพม่าได้ ทะเลหมอกแบบฟินๆ อันนี้แนะนำให้นั่งรถบริการของลุงที่จะมีรถพาถึงไปชมวิว คนละ 50 บาท ต่อเที่ยว จะดีกว่า เพราะถ้าไม่ชินถนนอาจติดโคลนอยู่บนนั้นไม่ก็รถอาจจะพังและไม่พร้อมเวลาขับลงมาก็ได้ ไปบ้านอิต่อง ไปแวะจุดชมวิว แล้วถ่ายรูปเอาไว้ลงไอจี เท่ๆ คูลๆ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าปลายทางคือระหว่างทางว่าเราได้สัมผัสกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ การอนุรักษ์ธรรมชาติ การไปสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน อาหารการกินที่นั่นราคาไม่ถึงกับแพงมาก การไปอุดหนุนชุมชน ถือว่าเราไปช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชาวบ้านให้มีรายได้ ทำให้เขาได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกด้วย สุดท้ายการท่องเที่ยวคือการออกไปสร้างแรงบันดาลใจ การออกไปพบกันสิ่งใหม่ๆ ที่ช่วยให้เราได้เรียนรู้ การได้สัมผัสกับธรรมชาติ ช่วยบำบัดจิตใจและทำให้เราพร้อมกับการทำงาน ทั้งนี้เรารณรงค์ให้เพื่อนๆ เที่ยวอย่างมีคุณภาพ เที่ยวอย่างอนุรักษ์ ไม่ทำลาย ไม่ทิ้งขยะนะคะ ภาพโดย ผู้เขียน