พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรือ ศูนย์เรียนรู้เขาช่องขาด เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเส้นทางรถไฟสายนี้ กองทัพญี่ปุ่นพยายามก่อสร้างเพื่อใช้ลำเลียงยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยจากไทยไปยังพม่า โดยกองทัพญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรในพื้นที่ โดยทั่วไปคนในพื้นที่จะเรียกจุดนี้ว่า “ช่องเขาขาด” ก็มาจากลักษณะภูมิประเทศตามที่ปรากฏ อย่างไรก็ตามชาวตะวันตกมักขนานนามพื้นที่แห่งนี้ว่า “ช่องไฟนรก” นั้น ร็อด บีตตี (Rod Beattie) เจ้าของหนังสือดัง 'The Death Railway: A Brief History' ได้เคยอธิบายไว้ว่า หลังจากที่มีการวางรางรถไฟไว้ที่ปลายทั้งสองด้าน (ของช่องเขา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทหารญี่ปุ่น ต้องการให้เส้นทางรถไฟสร้างเสร็จโดยเร็ว จึงสั่งให้ก่อสร้างตลอดทั้งวันทั้งคืน-24 ชั่วโมง โดยใช้แรงงานสองกะ กะละ 12 ชั่วโมง เป็นกะกลางวันกับกะกลางคืน การจะทำงานตอนกลางคืนได้ก็ต้องมีแสง พวกเขามีหลอดไฟส่องสว่างอยู่บ้าง แต่แหล่งแสงสว่างส่วนใหญ่มาจาก ‘ไฟ’ (คบไฟ) ซึ่งแรงงานเชลยศึกส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ที่ตอนเด็ก ๆ ต่างก็ถูกปลูกฝังด้วยภาพของนรกที่ประกอบด้วยปีศาจและไฟนรก - ‘ไฟนรก’ จึงกลายมาเป็นชื่อของช่องทางนี้ก็ด้วยภาพของกองเพลิงยามค่ำคืน และฝูงชนที่ต้องทำงานเยี่ยงทาสเบื้องหน้าปีศาจ จากบทความหนึ่งของนิวยอร์ก ไทม์ - 'The Kwai Bridge: The Reel and the Real' ให้้ข้อมูลไว้ว่าในการก่อสร้าง ‘เส้นทางรถไฟสายมรณะ’ ต้องสละชีวิตมนุษย์กว่า 9,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวบริเตน ชาวดัตช์ ออสเตรเลียน และอเมริกันรวมอยู่ด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ต่างตายเพื่อสร้างสะพานแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม พลโท นะกะมุระ อะเกะโตะ - ผู้บัญชาการกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้กล่าวไว้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของการตายจำนวนมากเกิดจาก เมื่อปี 2486 มีระบาดของโรคอหิวาต์ในค่าย ทหารญี่ปุ่นจำเป็นต้องยิงผู้ป่วยอหิวาต์ ซึ่งเป็นเจตนาดีของนายทหารรายหนึ่งที่ต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ที่ตนดูแล - มีรายงานว่า เชลยศึกกว่า 5 พันรายตายในช่วงเวลาดังกล่าว ศูนย์เรียนรู้เขาช่องขาด อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี (https://goo.gl/maps/SXiRHi7kpni88NheA) ในความเห็นส่่วนตัว ถือว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยครับ ด้วยที่ว่าได้รับเงินช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลียในการก่อสร้าง ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนหลัก ๆ คือภายในอาคาร ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงภาพและข้อมูลประวัติศาสตร์ รวมถึงที่สุดยอกมากๆ คือ ห้องฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 เส้นทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) และเรื่องราวของเชลยศึก ส่วนที่ 2 ที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย คือ เส้นทางเดินธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด ที่ตัดเจาะภูเขาหินให้เป็นช่องทางสำหรับสร้างทางรถไฟ เส้นทางเดินธรรมชาติระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร และต้องเดินลงบันไดกว่า 138 ขั้น - ซึ่งหากใครต้องการเดินควรเตรียมน้ำดื่มให้พร้อม เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที นอกจากความรู้ที่ได้จากพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดแล้ว สิ่งที่ต้องชื่นชมมาก ๆ คือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้กับนักท่องเที่ยวในระดับ 5 ดาว ตั้งแต่ พื่นที่จอดรถ ศูนย์อาหารและเตรื่องดื่ม รวมไปถึงห้องน้ำ - พูดได้คำเดียวว่า 'สมบูรณ์แบบ' ใครมีเวลาว่าง เสาร์-อาทิตย์ ลองไปดูนะครับ ไม่ไกลเลย