หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ "อิต่อง ปิล๊อก" กันมาบ้างแล้วนะคะ อิต่องเป็นชื่อหมู่บ้านซึ่งอยู่ในตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและไอหมอกเรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันกันเลยทีเดียว หมูบ้านอิต่องแห่งนี้ เดิมทีเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองแร่ ที่เคยมีชีวิตและรุ่งเรือง นามว่าเหมืองปิล๊อค เมื่อกาลเวลาผ่านไปจากเหมืองเเร่ที่เคยรุ่งเรืองได้เกิดวิกฤต เนื่องจากราคาเเร่ทั่วโลกตกต่ำและได้ปิดตัวลงใที่สุด และเมื่อวันเวลาได้ผันผ่าน "อิต่อง ปิล๊อก" ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่ไม่ใช่ในฐานะเหมืองเเร่ เเต่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้ที่หลงไหลในธรรมชาติอยากจะมาสัมผัสสักครั้ง ผู้ที่หลงไหลในธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ ต้องเคยได้แวะเวียนมาสัมผัสความงามของไอหมอกในยามเช้าและความอบอุ่นของขุนเขาที่ได้โอบกอดหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ไว้อย่างงดงามและลงตัว ถึงแม้ระยะทางจะมีความคดเคี้ยวมากมายกว่า 399 โค้ง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหลับผู้หลงรักธรรมชาติแต่อย่างใด เพราะการที่ได้มาที่นี่น่ะมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม บรรยายมาขนาดนี้แล้วเรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ 1 2 3....Go!!! ต้องบอกก่อนเลยว่าผู้เขียนเดินทางจากสังขละบุรี เพื่อมาอิต่อง ปิล๊อก นะคะเพราะว่าขึ้นไปเที่ยวสังขละบุรีมาก่อน ตอนแรกว่าจะกลับแล้ว แต่...ไม่ค่ะเราจะไม่หยุดแค่นี้วันหยุดยังเหลือต้องเอาให้คุ้มค่ะคุณผู้ชม กว่าจะคิดได้ว่าเราจะไปกันดีไหม ยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็ปาเข้าไป เกือบห้าโมงเย็นแล้ว เลยต้องคุยกันก่อนไปหรือไม่ไปดี เพราะทางค่อนข้างอันตราย แต่มาถึงนี่แล้วนะ อีกนิดเดียวเอง สรุปเอ๊าไปจ้า ไปแบบไม่มีใครห้ามใคร คุยกันไม่ถึงห้านาที เจ้าพวกกระหายธรรมชาติก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง จากการจับ GPS เราจะถึง อิต่อง ปิล๊อก ประมาณ 20.00 น . ถนนหนทางก็ค่อนขข้างดีเลยทีเดียว แต่ พอเกือบจะถึง จำไม่ได้แล้วว่าช่วงกี่กิโลสุดท้าย แกเอ้ยยยย ฮ่าฮ่าฮ่า (ขออณุญาตขำ) หลุม หลุม จ้า ทั้งรถตะโกนพร้อมกัน แต่ไม่ทันแล้ว มีจุกไปตามๆกัน ใครไม่ชำนาญทาง หรือเป็นมือใหม่ในการขับรถแนะนำให้ขับแบบระมัดระวังมาก ๆ เลยนะคะ และแล้วก็ถึงจุดหมายเวลา 20.30 เป๊ะๆ ถึงแล้วก้าวเเรกกำลังจะก้าวที่ลงจากรถ ต้องชักเท้ากลับขึ้นรถในทันทีเพราะอากาศคือเย็น แบบเย็นมาก ต้องหาเสื้อกันหนาวมาใส่กันเลยที่เดียว พอลงไปแล้วบรรยากาศดีมาก เย็นสบาย และเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆที่ดูน่ารักจริง ๆ เหมือนเมืองในฝันเลย ดื่มด่ำบรรยากาศเดินเล่นในตลาดได้สักพัก เสร็จแล้วก็เก็บของเข้าที่พัก ในส่วนของห้องพักที่เราไปพักจะไม่มีแอร์นะคะแต่อย่างอื่นมีครบเลย ตู้เย็น ทีวี พัดลม จัดข้าวของกันเสร็จท้องก็เริ่มหิวเเล้วคราวนี้ เเล้วเมนูมื้อเเรกของที่นี่ก็คือ...หมูกระทะค่ะ ใช่แล้วขาดกันไม่ได้เลยจริงๆ เราได้ร้านข้างบนที่พักชั้น 2 ค่ะ บรรยากาศดีมากเหมาะกับการนั่งชิลล์ ๆ ฟังเพลงเบา ๆ คุยกับเพื่อนไปสบาย ๆ นี่เเหละการพักผ่อน นั่งกินได้ถึงเช้าเลยนะคะ เจ้าของร้านน่ารักมากใจดีมาก แต่จำชื่อร้านไม่ได้แล้วแต่จำได้ว่าตึกสีส้มๆ นั่งสบายๆได้ยาวๆค่ะ ตื่นมาอีกทีกับวันแรกที่ว่าจะใส่บาตรกันไม่ทันละจ้า 08.00 แล้ว แต่อากาศดีมาก ฝนปรอยๆ หมอกจางๆ มันดีมากจริงๆค่ะ เเต่น่าเสียดายด้วยความรีบจึงพลาดจุดสำคัญเราไม่ได้ไปเนินช้างศึก คือพลาดมาก ไม่ว่าเหตุผลใด ๆ คือฝากไว้ก่อนครั้งหน้าจะไม่พลาดแน่ แต่ก็ยังได้ไปเดินเล่นที่สะพาน สะพานคือนี้มุมมหาชนเลยนะคะ จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว ที่สะพานตรงนี้ก็จะมีป้ายไม้ให้เขียนอารมณ์แบบเกาหลีมากจ้า เขียนเสร็จก็เอาผูกไว้ตรงราวสะพาน ถ่ายรูปตรงสะพานเสร็จก็ไปเดินตลาดกันต่อเลยจ้า ในตลาดก็จะมีของพื้นเมืองของที่ระลึกมากมายเต็มไปหมด ยาดม ยาอม ยาหม่อง เสื้อผ้าพื้นเมืองมากมาย ร้านโปสเตอร์ ร้านโจ๊ก หรือจะเป็นร้านกาแฟที่นี่เค้าก็มีครบเลยค่ะ มีมุมถ่ายรูปอีกเพียบเลย เสร็จแล้วเราก็เดินไปที่เหมืองต่อกันเลยแปปเดียวจากตลาดไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงเหมืองปิล๊อก อดีตเหมืองที่เคยมีชีวิต ตอนนี้ก็ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความหลังไว้ให้เราได้ชมกันอยู่นะคะ สุดท้ายก่อนกลับเราไปแวะ น้ำตกจ๊อกกระดิ่นซึ่ง เป็นน้ำตกกลางหุบเขา ที่นี่มีน้ำตลอดทั้งปี ซึ่ง น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า คำนี้เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากคำเดิมคือ ก๊อกกระด่าน จ๊อก หรือ ก๊อก หมายถึง หิน และกระดิ่น หรือ กระด่าน หมายถึงน้ำตก จึงมีความหมายรวมกันว่าน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา น้ำตกนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่เหมืองแร่ทังสเตนไหลผ่านหมู่บ้าน การได้มาเล่นน้ำที่นี่เค้าว่าเหมือนได้อาบน้ำเเร่ไปในตัวเลยนะคะ ซึ่งชื่อและที่มาของน้ำตกแห่งนี่มีเขียนอธิบายให้เราได้อ่านเพื่อเป็นความรู้อยู่หน้าทางเข้าเลยนะคะ ก่อนเข้าไปข้างในมีเสียค่าบริการ ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เเละเด็กคนละ 20 บาทค่ะ เข้าไปถึงข้างในเป็นน้ำตกที่สวยทีเดียวค่ะน้ำใสมากเป็นสีเขียวมรกตเลย ลงไปเล่นเย็นชื่นใจบรรยากาศดีได้นอนแช่น้ำแร่ฟังเสียงน้ำตกสบายใจมาก เราจะกลับมาอีกแน่นอนเพราะเรายังติดค้างกับเนินช้างศึกอยู่ รอบหน้าเราจะไม่พลาดอย่างแน่อนเเล้วเจอกันอีกนะ "อิต่อง ปิล๊อก จ๊อกกระดิ่น" เจ้าเมืองเล็กๆที่น่ารัก ภาพถ่ายโดย : มีแมวกับต้นไม้