เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ป่าเขา ภูเขา น้ำตก ก็คงไม่พ้น จ. กาญจนบุรี เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจในการผจญภัยมาชื่นชมความงามของธรรมชาติ รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับการล่องแพทางตอนเหนือของเขื่อนศรีนครินทร์ ที่เรียกว่า Heaven Bay Resort เรามาสัมผัสกับบรรยากาศใกล้น้ำ ซึ่งเป็นการพักผ่อนที่เยียวยาจิตใจได้ดีทีเดียว เราเดินทางมาถึง Heaven Bay Resort เวลาประมาณ 11.30 น. แดดกำลังร้อนแต่ลมพัดเอาไอความเย็นจากน้ำขึ้นมา ทำให้ไม่ร้อนเท่าไร บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย เราเดินเข้าไปที่จุดเช็คอินเข้าที่พักซึ่งอยู่ด้านขวามือ ระยะทางจากชายฝั่งถึงตรงนั้นก็ประมาณ 100 เมตรได้ เราก็เดินเข้าไปติดต่อพนักงานทันที เมื่อเดินทางมาถึงก็ทำการติดต่อพนักงานให้บริการดีมาก ทำการจ่ายค่าที่พัก รับกุญแจเสร็จ จากนั้นพนักงานก็ให้นั่งรอเรือที่จะมารับข้ามไปฝั่งโน้นจะมาประมาณบ่ายโมง เรานึกในใจก็คงต้องรอไปอีกนานเลย และระหว่างรอเรือมารับนั้นพนักงานได้จัดเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้ทางด้านใน เราก็เดินไปกับเพื่อนและนั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย อาหารก็ค่อนข้างโอเคอยู่ มีน้ำบริการให้ถึงมือ หลังจากรับประทานกันเสร็จก็ทำภารกิจส่วนตัว จากนั้นก็เดินออกไปรอที่ท่าเรือ แต่ก็มีพนักงานคนหนึ่งบอกให้ขึ้นเรือได้เลย เพราะคนมาเยอะมากดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกเรือก่อน เราก็ดีใจที่จะได้ออกก่อนเวลาไปพักสักที หลังจากนั่งเรือข้ามฝั่งมาถึงที่พักอีกด้านหนึ่งของรีสอร์ทนั้นก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้ เรากับเพื่อนก็เดินไปรับกุญแจจากพนักงานแล้วก็เข้าที่พักมีห้องน้ำในตัว สะอาดมาก จากนั้นเอาสัมภาระจัดวางเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งสูดอากาศด้านนอก ลมพัดเย็นมาก พัดตลอดเวลา แพก็โคลงเคลงตามคลื่นได้บรรยากาศดี ก่อนจะลงเล่นฐานต่างๆ ตอน 4 โมงเย็นเรากับเพื่อนก็นั่ง นอน คุยเล่นฆ่าเวลากันไป แล้วก็นั่งดูบ้านแพลอยน้ำเพลินๆ ใจก็อยากให้ถึงเวลาเล่นน้ำไวๆ เพราะอยากเล่นน้ำมากๆ เราลองมองออกไปทางชายฝั่งน้ำในเขื่อนเหมือนกับน้ำทะเลมาก ถึงแดดจะร้อนแต่น้ำกลับเย็นราวกับน้ำแข็ง เราก็นอนพักเอาแรงไป 15 นาทีจนเพื่อนปลุกให้ตื่นเพราะได้เวลาลงไปเล่นน้ำแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 4 โมงเย็นเราก็ทำการเปลี่ยนชุดลำลองใส่สบายๆ แล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อไปเอาเสื้อชูชีพ จากนั้นเรากับเพื่อนๆ ก็ลงเล่นน้ำตามฐานต่างๆ เพื่อนเราปีนป่ายแข่งกันขึ้นไวมาก แต่เราเล่นอยู่ 2-3 อันก็เหนื่อยแล้วเพราะฐานแต่ละฐานปีนขึ้นยากมาก ดังนั้นเราก็ว่ายน้ำวนไปวนมาอยู่ข้างล่างคนเดียว แต่เพื่อนอีก 2 คนก็ไปเล่นฐานกันอีกฝั่งนึง พอเล่นกันไปจน 5 โมงเย็นเราก็ขึ้นจากน้ำแล้วเตรียมรอเรือมารับเพื่อจะไปเล่นแพเปียกกันกลางเขื่อน พอได้เวลาขึ้นแพเปียกเราก็ขึ้นแพ แล้วก็เดินไปนั่งอยู่กลางๆ แพกับเพื่อนๆ คนขับเรือเขาก็เปิดเพลงให้เต้นบนแพด้วย บางคนก็เต้น บางคนก็หมดแรงก็ไม่เต้น เรากับเพื่อนเองก็นั่งราน้ำไป คนขับก็ขับเรือไปทางตอนใต้ของที่พักเพื่อไปจอดให้คนบนแพลงเล่นน้ำ ซึ่งเราเองก็ไม่พลาดที่จะลงเล่นเหมือนกัน พอคนขับเรือพามาถึงกลางเขื่อนนั้นเขาก็ส่งสัญญาณมือให้ลงเล่นน้ำ แต่ก่อนที่เราจะลงนั้นเพื่อนๆ ที่มากับเราก็ผลักเราลงน้ำโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลย น้ำก็เข้าจมูกแสบมาก ฮ่าๆ น้ำตรงจุดนี้เย็นและก็ลึกมาก พวกเราว่ายวนแถวๆ แพเปียก ได้เล่นน้ำและพูดคุยกับเพื่อนใหม่ที่มาเที่ยวเหมือนกันอย่างสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะให้ได้ฟังอย่างมีความสุข หลังจากเล่นกันจนหมดเวลา คนขับก็พากลับเข้าที่พักเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เมื่อถึงที่พักพวกเราก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดกัน แล้วก็เดินมาทานอาหารตรงหน้าเคาน์เตอร์เวลา 19.35 น. อาหารก็มีประมาณ 2-3 อย่าง มีน้ำดื่มบริการให้ พวกเราก็กินกันจนอิ่มท้องแล้วก็กลับไปนั่งคุยเล่นกันที่ที่พัก จากนั้นก็มีเรือเร่ขายหม่าล่า เหล้าปั่น พวกเราก็ซื้อแล้วก็มาแบ่งกันกิน นั่งถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศไป ร้องเพลง อัดวีดีโอกัน เวลาสี่ทุ่มครึ่งเราก็เข้านอนกันแต่เวลานอนแพมันก็โคลงเคลงตามกระแสคลื่น แต่ดีตรงที่ว่าคืนนั้นลมไม่ค่อยแรงเท่าไรดังนั้นพวกเราก็นอนหลับสบายจนตื่นขึ้นมาตอนเช้าของอีกวันอย่างสดชื่น พวกเราตื่นนอนกัน 7 โมงเช้าก็อาบน้ำ เก็บสัมภาระจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็เดินไปทานอาหารเช้ามีของกินมากมายไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด ข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง และเครื่องดื่มอร่อยๆ เมื่อทานอาหารเสร็จพวกเราก็ขึ้นเรือกลับฝั่งตอน 9 โมงเช้าและก็เดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข ทริปนี้ได้ทั้งความสนุก ความมัน ได้ภาพบรรยากาศกับการล่องแพ เก็บรูปภาพไว้กับความทรงจำดีๆ ภาพส่วนใหญ่เราเป็นคนเก็บภาพเองยกเว้นตอนล่องแพจะมีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายภาพเก็บไว้ให้ และที่สำคัญพวกเราก็ช่วยกันรักษาความสะอาดโดยไม่ทิ้งขยะลงในเขื่อน ถ้ามีโอกาสกลับมาอีกเพราะเราประทับใจทริปนี้มากๆ อยากจะกลับมาเอาความสนุกและความสุขอีกสักครั้งหนึ่ง