สิบกว่าร่างบนรถตู้โยกเอนซ้ายขวาไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าทางอันคดเคี้ยวนี้ไม่มีจุดจบสิ้น ยาดม ยาอม ยาหม่องถึงกับส่ายหัวทำหน้าละห้อย เพราะไม่สามารถทำหน้าที่แก้วิงเวียนได้ ในช่วงเวลานั้นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือถุงหิ้ว เอาไว้รองรับอาหารที่กินเข้าไปแล้วกลับออกมาทางเดิม การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะไปถึงก็ไม่ง่ายเหมือนกัน เป็นเรื่องยากที่หากใครได้มาเยือนแล้วจะไม่หลงเสน่ห์ชุมชนมอญอันโอบล้อมด้วยสามสายน้ำ ภูเขา และวิถีชีวิตอันงดงามที่บอกเล่าความเป็นหมู่บ้านวังกะได้อย่างมีเอกลักษณ์ และน่าประทับใจ หมู่บ้านวังกะอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตัวอำเภอถูกแบ่งเป็นสองฝั่งด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีลำห้วยซองกาเลียคั่นกลาง ฝั่งตะวันออกของลำน้ำเป็นที่ตั้งของส่วนราชการหรือตัวอำเภอ ชาวบ้านเรียกกันว่าฝั่งไทย ส่วนฝั่งตะวันตกมักเรียกกันว่าฝั่งมอญ แม้จะถูกแบ่งแยกกันด้วยลักษณะทางกายภาพ แต่ทั้งสองฝั่งก็เชื่อมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสะพานมอญ ฟังประวัติสะพานมอญมั้ยคะ แล้วแต่จะให้ หนูน้อยตาโตเดินเข้ามาหาเราด้วยท่าทางเก้กังเล็กน้อย เสียงใสๆ เอ่ยภาษาไทยแบบโมโนโทน ด้วยสำเนียงที่ไม่ชัดถ้อย บ่งบอกว่าไม่ใช่ภาษาที่ใช้เป็นประจำ นั่นทำให้หนูน้อยดูน่าเอ็นดูมากขึ้นมาอีกสิบระดับ ถึงแม้เราจะเคยอ่านประวัติคร่าวๆ ของสะพานแห่งนี้มาก่อนหน้าแล้ว แต่ตาใส ๆ ยามที่หนูน้อยบอกว่า แล้วแต่จะให้ ก็ทำให้ใจเหลวจนยอมควักตังค์ในกระเป๋าออกมาวางลงบนมือเล็ก ตั้งใจฟังมัคคุเทศน์น้อยเอ่ยสิ่งที่อุตส่าห์ท่องมาจนขึ้นใจเพื่อเล่าให้เราฟัง สะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 แต่เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันนานถึง 3 วัน ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 สะพานได้พังทลายลง ช่วงกลางสะพานขาดเป็น 2 ท่อน หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มทำการซ่อมแซม แต่ผ่านไป 1 ปี การซ่อมแซมสะพานแห่งนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ทว่าในที่สุดสะพานอุตตมานุสรณ์ก็ได้รับการซ่อมแซมโดยทหารช่างกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี ใช้เวลาเพียงแค่ 29 วัน และมีพิธีเปิดใช้อีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบชาตกาล 104 ปี หลวงพ่ออุตตมะ หนูน้อยเดินไปเล่าไป พอเล่าจบก็หันมาไหว้ขอบคุณ แล้ววิ่งกลับไปประจำที่ ยืนเรียกลูกค้าด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำอันทรงพลัง แบบเดียวกับที่เราโดนความไร้เดียงสาเล่นงาน ว่ากันว่าสะพานมอญแห่งนี้ เป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเป็ง เมืองอมรปุระ ประเทศพม่า บนสะพานเรามักจะเห็นชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่แต่งกายแบบชาวมอญ เดินยกของไว้บนหัว ถ้าเรายกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป เขาจะหยุดยืนและมองกล้องอย่างรู้งาน เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของสะพานมอญ นอกจากประวัติที่มัคคุเทศก์น้อยเจ้าถิ่นเล่าให้ฟังแล้ว อีกเรื่องเล่าที่น่าประทับใจก็คือ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ สร้างจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านวังกะที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ แต่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้โดยมีหลวงพ่ออุตตมะเป็นศูนย์รวมจิตใจ ความน่าหลงใหลของที่นี่จึงไม่ใช่แค่ความหลากหลายทางธรรมชาติ ที่มีทั้งภูเขา และสายน้ำโอบล้อมอยู่ด้วยกัน สังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันได้อย่างงดงามลงตัว เชื่อว่าหากใครได้มาสัมผัสสักครั้ง ต้องอยากกลับมาอีกเป็นครั้งที่สองที่สามและอีกหลาย ๆ ครั้งแน่นอน เพราะที่บ้านวังกะแห่งนี้ ยังมีเรื่องเล่าอีกมายที่รอให้เราได้มาใช้ใจฟัง ภาพโดย Suphanut