ฤดูร้อนเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวอยากจะลงเล่นน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ลำธาร ทะเล ล่องแพ หรือน้ำตก แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ชอบว่าชอบเที่ยวแบบไหน และวันนี้เราจะมารีวิวน้ำตกเอราวัณ ที่เราไปเมื่อต้นปีนั่นเอง เรามาเที่ยวน้ำตกเอราวัณโดยรถยนต์ส่วนตัว มากับเพื่อนๆ ที่ทำงานเดียวกัน มาถึงเวลา 10.30 น. เราหาที่จอดรถได้เสร็จแล้ว ก็เดินตรงมาทางเข้าน้ำตก และเป็นครั้งแรกที่เรามาก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เล่นน้ำและเห็นน้ำตกสวยๆ ก่อนที่เราจะเดินเข้ามาเราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า “เดินเข้าไปไกลไหมคะ?” เจ้าหน้าที่บอกว่าเดินไปประมาณ 800 เมตรก็ถึงแล้ว จากนั้นเราก็รีบเดินแบบไม่รอเพื่อนเลย ฮ่าๆ พอเดินมาได้ครึ่งทางก็หันหลังไปถ่ายรูปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ อากาศร้อนมากเวลาเดินเข้ามา แต่ก็มีลมพัดเป็นช่วงๆ พอให้สดชื่นไปได้บ้าง เมื่อเดินใกล้ถึงน้ำตกมีไกด์นำเที่ยว 4 ขามานำทางให้เราด้วย น้องแสนรู้มากๆ เลยเดินนำมาจนถึงเป้าหมายเลย แล้วก็เดินเข้ามาข้างในอากาศเย็นต่างจากทางเดินเข้ามามากๆ เมื่อสายตาแลเห็นน้ำตกเราก็อดใจเล่นไม่ไหวแล้ว แต่ก่อนจะเข้าไปเล่นน้ำตกเราก็วานให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นภาพความทรงจำอยู่ 2-3 ภาพ หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็เดินขึ้นไปอย่างเร่งรีบ สิ่งที่เราสังเกตเห็นก็คือ มีเจ้าลิงตัวน้อยๆ กำลังนั่งกินขนมของนักท่องเที่ยวรายหนึ่งอยู่บนต้นไม้อย่างเอร็ดอร่อย เสียงนกบรรเลงเพลงอย่างไพเราะ เราก็อดที่จะยิ้มให้ไม่ได้ เมื่อเดินข้ามสะพานไปยังน้ำตกชั้นที่ 3 เราเห็นปลาพลวงแวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างๆ ช้า มองขึ้นมาเหมือนทักทายเราอย่างเป็นกันเอง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินลัดเลาะขึ้นสะพานมาที่น้ำตกชั้นที่ 3 เราก็วางสัมภาระลงและเพื่อนอีก 2 คนไม่ได้ลงเล่นด้วยก็นั่งเฝ้ากระเป๋าให้ เราค่อยๆ เดินลงมาเอาเท้าแตะน้ำเย็นมากๆ เหมือนเรามาเล่นน้ำช่วงหน้าหนาวเลย จากนั้นก็ค่อยๆ ลงเต็มตัวว่ายวนไปวนมาอยู่ชั้นที่ 3 มีนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีก็ลงมาเล่นเหมือนกัน เราก็ดำผุดดำว่ายไปตรงหน้าผามีโขดหินดังภาพ น้ำช่วงนี้ไม่ค่อยลึกเท่าไร สามารถเล่นได้สบายๆ เวลาเราเห็นนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีปีนขึ้นไปถ่ายรูปบนนั้นและให้เราเป็นตากล้อง เราเลยลองปีนขึ้นไปบ้าง แต่ที่หน้าแปลกใจ คือ หินที่เราเหยียบกลับไม่ลื่น สามารถทรงตัวนั่ง ยืน ได้ตามสบาย เราเลยลองยืนและให้น้ำตกๆ มากระทบศรีษะ เวลานั้นเรารู้สึกเย็นและสดชื่นมากๆ แต่น้ำตรงหน้าโขดหินอีกด้านน้ำลึกมากๆ ใครว่ายไม่แข็งไม่แนะนำให้มาจุดนี้นะคะ เราก็ว่ายลงไปตรงกลางน้ำตกอย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวต่างชาติชุดแรกกลับไป ชุดที่สองก็ลงมาเล่นเป็นเพื่อนเรา อิอิ สบายใจจัง พอว่ายน้ำไปสักพักเราเริ่มเหนื่อยละ เลยว่ายน้ำมานั่งตรงทางลงน้ำตก เวลาเรานั่งเฉยๆ ไม่ขยับตัวฝูงปลาพลวงก็เข้ามาตอดแขน ขา เรารู้สึกจั่กจี้มากๆ และรู้สึกได้ว่าฟันปลาพลวงมันสากๆ เหมือนเอาใบข๋อยมาถูตัว แรกๆ ก็ตกใจกรีดเบาๆ เพื่อนๆ ก็หันมามองแบบงงๆ ว่ากรีดทำไม เราบอกว่าปลาพลวงมันตอด แล้วเพื่อนก็หันไป พอเริ่มชินกับฟันมันเราก็นั่งให้มันตอด รู้สึกเพลินดีนะ เพลินเสียจนอยากจะหลับในน้ำเลย ฮ่าๆ เราว่ายน้ำเล่นกับปลาพลวงก็ไม่กลัวเรา ขยับไปมานิ่งๆ เหมือนไม่กลัวคน เราเล่นน้ำจนลืมเวลาเลย จนเพื่อนส่งสายตามาถามว่า “เมื่อไรจะเลิกเล่น?” เราก็ยิ้มและก็เล่นต่ออีกพักใหญ่ๆ ดำผุดดำว่ายอยู่คนเดียว น้ำใสมากออกสีเขียวมรกตดูงดงามต้องตา เราชอบว่ายน้ำกับธรรมชาติแบบนี้ที่สุดจนเวลาล่วงเลยมา 11.30 น. เราก็ขึ้นจากน้ำแล้วไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะออกเดินทางกลับบ้าน เรามาน้ำตกเอราวัณเป็นครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจในเรื่องของบรรยากาศ ภูมิประเทศ สีของน้ำตก น้ำใสสะอาดต้องกับแสงแดดให้แลเห็นตัวปลาพลวงที่กำลังแวกว่ายอยู่ในน้ำ มันทำให้เราอยากกลับไปว่ายน้ำที่นั่นอีก มันเป็นความทรงจำที่มิอาจเลื่อนลางลงไปได้ ถึงแม้จะเป็นทริประยะเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความหมายมิรู้ลืมเลย มีความสุขกับการเที่ยวครั้งนี้มากๆ ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านและติดตามนะคะ