คงจำกันได้ ย้อนไปเมื่อปลายปี 2562 ที่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เกิดขึ้นที่ประเทศจีนได้แพร่ระบาดกระจายไปตามประเทศอื่นๆ จนมาถึงเมืองไทยในเวลาไม่นาน ตอนนั้นมีหนังเฉินหลงเรื่องใหม่กำลังจะเข้าฉายในเดือนมกราคม 2563 ที่ผมตั้งใจจะเข้าไปตีตั๋วเพื่อชมในโรงภาพยนตร์ตามที่ตั้งใจไว้ แต่พอทราบข่าวมีโรคระบาดเกิดขึ้น การฉายหนังเรื่อง "หน่วยพิทักษ์ฟัดข้ามโลก" หรือ Vanguard ได้ถูกระงับฉายทั่วโลกทันที จากเมืองจีนในเดือนธันวาคมเข้าสู่เมืองไทยในเวลาไม่นาน ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในไทย จนมีคนไทยวัย 50 ปีคนแรก ติดเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 13 มกราคม 2563 ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน จนมีการทำข่าวนำเสนอที่มาที่ไป ตลอดจนสถานการณ์ในประเทศไทยและทั่วโลกทุกๆ วันทุกคนเริ่มรู้ข่าวและความอันตรายของโรคนี้ จึงมีการรณรงค์ให้ความรู้จากหน่วยงานของรัฐ ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจ็บแอลกอฮอล์ ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดวัตถุที่เราจะสัมผัสและมือของเรา ไม่เข้าใกล้คนอื่น ห่างกัน 1-2 เมตร ตลอดจนนโยบายรัฐที่ว่า "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" เพราะการเดินทางพบปะผู้คนมากก็ง่ายต่อการติดและแพร่เชื้อ พอช่วงเดือนมีนาคมก็เริ่มชัดเจนขึ้นทันที พอดีกับที่ผมต้องไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของโรคร้ายที่ทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ พอกลับจากกรุงเทพฯ ก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น แต่ก็รู้สึกอึดอัดกับหน้ากากผ้าที่ต้องใส่ เพราะไม่คุ้นเคยกับการที่ต้องใส่เป็นเวลานานๆ หลายๆ ชั่วโมงจากนั้นกลับมาที่บ้านก็เริ่มดูข่าวแทนละครกัน เริ่มรู้ข่าวคนไทยติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน แต่ยังไม่มาก และมีข่าวที่น่าเศร้าที่สุดเพราะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกิดขึ้น ความรู้จากโทรทัศน์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเริ่มประดับตัวมากขึ้น นอกจากโรคร้ายก็ยังต้องเจอการเกิดปัญหาฝุ่น pm 2.5 เกิดขึ้นอีกด้วย เลยเจอทั้งฝุ่นควันบนท้องฟ้า และโรคร้ายที่รับเชื้อได้จากการกระจายทางการไอ จามและน้ำลาย ถือเป็นสิ่งใหม่ที่ทุกคนต้องปรับตัวกันข่าวก็ออกทุกช่อง ทุกเวลา มีการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ทั้งระดับประเทศและจังหวัดเกิดขึ้น คนเริ่มตื่นตัว เกรงกลัวกันเป็นส่วนใหญ่ จากเมืองหลวงใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ก็ค่อยๆ กระจายไปทั่วประเทศ จากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง ใครที่กลับมาจากที่อื่นก็ต้องมีการกักตัวกัน กิจกรรมงานประเพณีต่างๆ ที่ต้องมีการรวมตัวกันก็ต้องยกเลิกกันไป การเดินทางก็ลดน้อยลง เพราะอยากให้ทุกคนอยู่กับที่ให้มากที่สุด เพราะเชื้อจะได้ไม่กระจาย จากหลักหน่วยเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้องมีการทำงานออนไลน์หรือ work from home กันมากขึ้น ตลอดจนโรงเรียนหรือสถานศึกษาต่างๆ ที่ต้องใช้ระบบเรียน On Line กัน ตลอดจนการประกาศให้ออกจากบ้านเป็นเวลา โดยเฉพาะเวลากลางคืนทำให้ลดการสังสรรค์ได้มากขึ้น อีกทั้งการเปิด-ปิดร้านค้าและหน่วยงานต่างๆ ตามที่ทางรัฐกำหนด เพื่อร่วมมือกันลดผู้ติดเชื้อลงได้ทางหมู่บ้านของผมที่อยู่แถบชายแดนกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้นแล้วจึงจำเป็นต้องมีมาตรการร่วมกันในหมู่บ้าน จึงมีการประชุมลงมติให้ลดการเดินทางเฉพาะเหตุสำคัญเท่านั้น และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเวลาออกจากบ้าน ส่วนร้านค้าออกไปซื้อของได้ตามความจำเป็นเพราะจะได้มาขายให้คนในหมู่บ้าน และยังมีหน่วยงานเข้ามาสอนการทำหน้ากากผ้าเพื่อใช้กันในเบื้องต้น ตลอดจนเจลล้างมือต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านได้สามารถป้องกันตนเองได้ด้วยข่าวที่ออกทุกเย็น จนทำให้ละครหรือบางรายการไม่สามารถถ่ายทำต่อได้ก็ต้องนำเทปเก่ามาฉายวนกันไป คนก็กลัวโรคโควิดกันมาก เพราะติดแล้วแพร่กระจายสู่คนอื่นได้อีกหลายคน ใครใกล้ชิดผู้ป่วยหรือคนที่อยู่ในบ้านเดียวกันก็ถูกจัดให้เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวดูอาการถึง 14 วัน ยิ่งคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็จะมีที่กักตัวให้จนครบกำหนดถึงจะกลับบ้านได้ด้วยการที่ไม่ได้ออกนอกหมู่บ้านนาน เวลามีเหตุจำเป็นต้องออกไปก็เลยรู้สึกกลัวกันมาก มาตลาดในอำเภอที่เหมือนเป็นสถานที่ร้าง คนไม่พลุกพล่านให้เห็น ตลาดเปิด-ปิดเป็นเวลา ใครไอ จามก็จะถูกมองว่าติดเชื้อหรือเปล่า เลยทำให้มีการซื้อของกักตุนไว้ จนบางครั้งสินค้าบางอย่างขาดตลาดได้เหมือนกัน กล่าวกันง่ายๆ คือ ทุกคนอยู่ด้วยความหวาดระแวงกันตลอดเวลา นั่นเป็นเรื่องราวบรรยากาศในช่วงเริ่มต้นการเดินทางของเจ้าโควิด-19 ที่เข้ามาหาคนไทยที่ทำให้ต้องมีการจัดการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน จนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยอดผู้ป่วยลดลง แต่ก็ยังคงรักษามาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัดตามแนว "วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal" ในปีแรกที่เราได้เรียนรู้กับโรคใหม่ที่ทำให้เราต้องอยู่ห่างกัน ใส่หน้ากากอนามัยตลอด เวลาอยู่กับผู้อื่น และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ จนสามารถต่อสู้กับมันได้ระดับหนึ่ง จนยอดผู้เชื้อลดลง ของประเทศไทยเราแค่หลักพันเท่านั้น (6 พันกว่าคนที่ติดเชื้อ)ส่วนเรื่องราวที่ต้องเจอกับโควิด-19 จริงๆ เป็นอย่างไรจะได้เขียนในตอน เรื่องราว...เจ้าโควิด-19 "เข้าถึงบ้าน" ในภาคต่อไปเครดิต ภาพปกโดยผู้เขียนและภาพประกอบที่ 1 โดยผู้เขียน (จากหนังสือ Never Grow Up) ภาพที่ 2-6 โดยผู้เขียน อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !