สวัสดีค่าทุกคน ถ้าหากพูดถึงการท่องเที่ยวในหน้าฝน เพื่อน ๆ นึกถึงที่ไหนกันบ้างเอ่ยยยยยย? ในวันนี้เราจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่แสนจะอบอุ่นอย่าง "สังขละบุรี" ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน หลายคนอาจจะคิดเยอะหน่อย ว่าหน้าฝนเนี่ยมันน่าออกไปเที่ยวยังไง? ทั้งอันตราย ไม่สะดวกสบาย ลำบากอีกต่างหาก แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝน หรือ ที่เขาเรียนกันว่า Green Season เนี่ยแหล่ะ เป็นการเที่ยวที่แสนพิเศษสุด ๆ ธรรมชาติสวยงามที่สุด ถ้าใครไม่กลัวเปียกแบบเรา เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปกันเลยยยอำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 200 กว่ากิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีชุมชนหลายเชื้อชาติตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ เช่น ไทย กะเหรี่ยง รามัญ หรือ มอญ เป็นต้น มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ชาวบ้านทุกคนน่ารัก วัฒนธรรมสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางไปสังขละบุรีในครังนี้ เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที ระยะทางประมาน 350 กิโลเมตร หรือถ้าใครอยากจะนั่งรถตู้โดยสารแบบชิล ๆ ก็สามารถไปได้ โดยนั่งรถตู้จากหมอชิต หรือสายใต้ ไปลงที่ บขส.กาญจนบุรี จากนั้นให้ต่อรถหวานเย็นไปที่ตลาดทองผาภูมิ ก่อนจะถึงตลาดจะมีรถบัสจอดรอรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปสังขละบุรีอยู่ ส่วนตัวแล้ว ชอบการออกไปเที่ยวในหน้าฝนมาก เพราะรู้สึกว่าหน้าฝนนั้นมันเป็นช่วงที่ธรรมชาติสวยงามมากที่สุด ป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ กับบรรยากาศที่ค่อนข้างดี ความเงียบแบบคนไม่พลุกพล่าน ความสงบที่ทำให้เราได้ซึมซับกับสิ่งรอบข้างอย่างเต็มที่ แต่ในความสวยงามนั้น มันก็มีความลำบากอยู่นะ ทั้งฝนตกตัวเปียก ถนนลื่น อะไรอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นการออกไปเที่ยวในหน้าฝนแบบนี้ ต้องเตรียมตัวให้ดีในระดับหนึ่ง เราไม่สามารถรู้ได้ว่าในเส้นทางข้างหน้า เราจะเจอเรื่องเซอไพร์สอะไรที่มากับฝนได้บ้าง เช็คสภาพอากาศ และศึกษาพื้นที่ที่เราจะไปเที่ยวให้ดีด้วย ว่าพายุเข้าหรือเปล่า? ถ้าพายุเข้าเนี่ยไม่ควรไปแล้วนะ 555 เราเดินทางมาถึงยัง อำเภอสังขละบุรีแล้ว แต่ฝนก็ยังคงตกอยู่ อากาศค่อนข้างดีไม่ร้อน โชคดีที่พกร่มมาด้วย เราไม่รอช้ารีบกางร่มแล้วออกไปเดินเล่นสะพานมอญซะหน่อย "สะพานอุตตมานุสรณ์" หรือที่เราเรียกกันว่า "สะพานมอญ" เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นแลนด์มาร์คของอำเภอสังขละบุรีเลยก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวที่มาสังขละบุรีแล้ว ต้องได้มาเดินเล่น ถ่ายรูป ได้เห็นวัฒนธรรมอันสวยงาม และเห็นชาวบ้านสัญจรผ่านไปมาบนสะพานแห่งนี้ เดินเล่นกันเหนื่อยแล้ว ไปหามื้อค่ำทานกันสักหน่อย อาหารการกินของที่นี่ก็จะมีมากมายหลากหลายให้เลือกกินกัน แต่ในค่ำคืนนี้ เราขอแนะนำ "หมูจุ่มพม่า" ก่อนแล้วกัน หมู่จุ่มพม่าสามารถหากินได้ง่ายมากในอำเภอสังขละบุรี และมีหลายเจ้ามาก มีตั้งแต่ราคา 1 บาท ถึง 2 บาท แต่เอ๊ะทำไมถูกจัง วิธีทานก็คือ เขาจะมีหม้อต้มน้ำซุปอยู่ แล้วเขาจะเอาส่วนต่าง ๆ ของหมูเสียบไม้แล้ววางไว้ในหม้อ ให้เราเลือกหยิบทานได้เลย แล้วพอทานเสร็จแล้วเขาก็จะนับตามไม้ที่เรากินเนี่ยแหล่ะ ไม้ละ 1 บาทบ้าง 2 บาท บ้าง แค่นี้เอง อร่อยด้วย ไม่ได้มีแค่หมูจุ่มนะ ยังมีอีกหลายอย่างให้เราเลือกกินอีกเยอะ เช่น แกงฮังเล ขนมจีน หรืออาหารธรรมดา ๆ ก็มีให้เราเลือกทานได้อีกมากมายเลยล่ะ สำหรับที่พักของเรานั้น ชื่อว่า "Kru.Guesthouse" หาง่าย ๆ อยู่ตรงข้ามถนนศรีสุวรรณคีรี ซอย3 ซึ่งซอยนี้จะเป็นซอยที่สามารถเดินลงไปถึงสะพานมอญได้เลย สะดวกมาก ๆ ที่พักสะอาด ห้องกว้าง ราคาไม่แพง เจ้าของค่อนข้างเป็นกันเอง ใจดี และให้คำแนะสำหรับการเดินทางได้ดีมาก ห้องพักมีไม่มากนัก เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสุด ๆ อรุณสวัสดิ์ยามเช้าาาาาา เช้านี้ฝนหยุดตกแล้ว เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ เพราะดูสิ วันนี้ยืนจากสะพานมอญ มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้สวยงามสุด ๆ เลย นั่นไงภูเขา นั่นไงเห็นหมอกลอยไปมาสวยงามเลยทีเดียว เนี่ยแหล่ะที่เขาเรียกว่า "ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ" เช้า ๆ แบบนี้บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ เห็นชาวบ้านแล่นเรือผ่านสัญจรไปมา ช่างเป็นอะไรที่ "อบอุ่น" และ "Slow Life" สุด ๆ บนสะพานมอญแบบนี้ เราจะพบเห็นเด็ก ๆ ชาวมอญ มาเดินขอปะแป้งให้กับนักท่องเที่ยว เด็กโต ๆ หน่อยก็จะมาขอเป็นไกด์อาสาเล่าประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน และสะพานมอญให้เราได้ทราบกันอีกด้วย พอมองเห็นเด็กเหล่านี้ก็อดขอถ่ายรูปไม่ได้ ชื่นชมในความสามารถ และความขยันของน้อง ๆ มาก ลองกลับมามองตัวเองแล้วก็แปลกใจ ตอนเราอายุเท่านี้ยังนั่งดูทีวี เล่นเกมส์อยู่บ้านอยู่เลย แต่เด็กพวกนี้เขาขยันหาเงินค่าขนมกันเองได้แล้ว สุดท้ายนี้ก่อนจะกลับ ขอถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย ว่าครั้งหนึ่งเราได้มาถึงสะพานมอญแห่งนี้แล้ว ประทับใจเป็นที่สุด สังขละบุรีไม่ได้มีที่เที่ยวแค่สะพานมอญนะ ยังมีอีกหลายที่ เช่น ด่านเจดีย์สามองค์ จุดเล่นน้ำซองกาเรีย มีกิจกรรมให้เราได้ทำมากมาย เช่น ตักบาตรแบบชาวมอญ นั่งเรือชมวัดจมน้ำ หากใครที่อยากจะสัมผัส Green Season แบบสวย ๆ แบบนี้ ขอแนะนำ "อำเภอสังขละบุรี" ไว้ให้เป็นตัวเลือกอีกที่นะคะ และที่สำคัญการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพนั้น พวกเราจะต้องเคารพกฎระเบียบ สถานที่ และวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชนนั้น ๆ เอาไว้ด้วย ช่วยกันรักษาความสะอาด เพื่อไม่ให้เป็นภาระของชุมชนนะคะ ขอบคุณค่าาา ภาพถ่ายโดย : Wipawee pechkhong (เราเอง)